เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ อันดอร์ร่า ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ นัดที่ห้า เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่อง เจสซี่ ลินการ์ด มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ แพทริก แบมฟอร์ด ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อันดอร์ร่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โกลโด้ อัลบาเรซ มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย มาร์ค เรเบส กองกลางห้องเครื่อง ลูโดวิช เคลเมนต์ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ อาร่อน ซานเชซ กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 16
เปิดเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว จนมามีโอกาสได้ลุ้นประตูหนแรกเกิดขึ้น เมื่อ รีซ เจมส์ แทงตามช่องให้ จู๊ด เบลลิงแฮม วิ่งสอดไปเอาบอล หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะหักเข้ากลางถวายพานมาให้ บูคาโย่ ซาก้า ได้ตั้งป้อมแปด้วยขวาเน้น ๆ โล่ง ๆ ส่งบอลไปตรงตัวกองหลังทีมเยือน แฉลบขากระดอนหลุดเสาไกลออกหลังไป อย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 17 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน บูคาโย่ ซาก้า ได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะกระชากหนีกองหลังไปครอสเข้ากลาง แล้วโดนแนวรับทีมเยือนโหม่งสกัดไม่ดี บอลเลยไปเข้าทาง เจสซี่ ลินการ์ด ได้จับหนึ่งทีแล้วซัดเลียดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ บริเวณจุดโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 20
เจ้าถิ่น อังกฤษ เกือบได้บวกสกอร์เพิ่ม เป็นจังหวะ แพทริก แบมฟอร์ด ดีดบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ เจสซี่ ลินการ์ด ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้า ก่อนจะโชว์ความเหนือชั้น กระดกบอลข้ามหัว โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินเป่าย้อนให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 29
เจ้าถิ่น อังกฤษ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ บูคาโย่ ซาก้า ลากจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะบรรจงหยอดบอลไปยังพื้นที่ว่างหน้าเสาไกลขวามือให้ แพทริก แบมฟอร์ม ได้วิ่งสอดมาไปชาร์จจ่อ ๆ แต่ถึงบอลช้า จิ้มวืดไปนิดเดียว ชนิดน่าหวาดเสียวสุด ๆ
นาที 35
เจ้าถิ่น อังกฤษ ได้ฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนาม แล้วเป็น คีแรน ทริปเปียร์ บรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปที่หน้าเสาขวามือให้ แพทริก แบมฟอร์ด โหม่งย้อนตั้งกลับมาที่กลางประตูเข้าทาง คอเนอร์ เคาดี้ ได้ลองทิ้งตัวโอเวอร์เฮดคิกด้วยขวาเน้น ๆ บอลเหินเฉียดตาน หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 37
เจ้าถิ่น อังกฤษ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วอีกครั้ง จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วางบอลยาวอย่างแม่น เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ได้จับบอลลง โยกหลอกกองหลังทีมเยือนมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะซัดเลียดหักข้อยัดมุมแคบไปที่เสาแรก บอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่เป็นฝ่ายครองบอล ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน อันดอร์ร่า อยู่ฝั่งเดียวตามสไตล์ ขาดเพียงแค่จังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น ที่ยังไม่สามารถรุกคืบเข้าไปกดดันแนวรับทีมเยือนได้มากพอ สกอร์ตอนนี้นำแค่ลูกเดียว อังกฤษ 1 อันดอร์ร่า 0 !!!
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่ได้ลุ้นทันที เป็นจังหวะ สาดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาตัดบอลพลาด ซ้ำร้ายกองหลังทีมเยือนก็ยังโหม่งสกัดไม่ดี กลายเป็นตั้งให้ แพทริก แบมฟอร์ด ได้วิ่งมาหวดด้วยซ้ายไม่จับที่กลางประตู ระยะไม่กี่หลา บอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปไกล แบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 47
เจ้าถิ่น อังกฤษ เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ รีซ เจมส์ ติดเครื่องลากลุยขึ้นมาเองถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนคานเต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 52
เจ้าถิ่น อังกฤษ บุกขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา บูคาโย่ ซาก้า ดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะจ่ายเลียดเข้าไปที่เสาแรกให้ แพทริก แบมฟอร์ด ได้วิ่งสอดมาจิ้มเร็วด้วยขวาไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือน ที่ตามมาสไลด์ขวางได้ทันเฉียดฉิว บอลกระดอนเข้ามือ โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย
นาที 61
เกมดำเนินผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เป็นเจ้าถิ่น ที่ครองบอลได้มากกว่าถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสได้จบอีก 12 ครั้งด้วยกัน ทว่ายิงทิ้งยิงขว้างกันเองเสียส่วนใหญ่ เดือดร้อนถึง แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือมาดนิ่ง ต้องแก้เกมด้วยการส่ง แจ็ค กรีลิช, เมสัน เมาน์ท และ แฮร์รี่ เคน สามประสานในแนวรุกตัวหลัก ลงสนามมาปั้นเกมแทน จู๊ด เบลลิงแฮม, รีซ เจมส์ และ แพทริก แบมฟอร์ด
นาที 62
เจ้าถิ่น อังกฤษ เกือบจะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ เจสซี่ ลินการ์ด แทงบอลทะลุช่องให้ บูคาโย่ ซาก้า ได้หลุดเดี่ยว ลากบอลเข้าไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ ติดเซฟของ โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว บล็อกบอลเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด ทว่าไลน์แมนยกธงว่าล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อดได้ประตูอยู่ดี
นาที 71 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะความยอดเยี่ยมของ เมสัน เมาน์ท ที่โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงหลบผู้เล่นทีมเยือนไปสองสามคนในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน คริสเตียน การ์เซีย กอนซาเลซ กระแทกจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้ลูกจุดโทษของเจ้าถิ่นทันที แล้วเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 77 GOAL!!!
เจ้าถิ่น สิงโตคำราม อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร บูคาโย่ ซาก้า จ่ายไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เจสซี่ ลินการ์ด เจ้าตัวค่อย ๆ เลี้ยงจี้ ไม่มีใครเข้าบอล ก่อนจะตัดสินใจซัดด้วยขวาดื้อ ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ โจเซ็ป โกเมส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 84 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เล่นสั้นส่งมาที่สุดเส้นหลังให้ เจสซี่ ลินการ์ด พลิกบอลแล้วเปิดโด่งข้ามไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ บูคาโย่ ซาก้า ได้โหม่งเหน่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน อันดอร์รา ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! คว้าชัยชนะถึง 5 นัดรวด รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะออกไปเยือนโปแลนด์ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอันดอร์ร่า อยู่ที่ 5 ของตารางเหมือนเดิม นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนฮังการี ในวันเวลาเดียวกัน