“ลิเวอร์พูล” นำไวแต่โดน “แอธ บิลเบา” ไล่ตีเสมอ บอลกระชับมิตร

เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทัพหงส์แดง ทีม ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมอร์ซี่ไซด์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีม แอธเลติก บิลเบา (สเปน) ในศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตร ระดับสโมสรช่วงปรีซีซั่น เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ทีม ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 แผนถนัด นำทีมโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวแกร่ง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตัวทำเกมริมเส้น และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์ตัวปิดบัญชีของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตรัล มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อีเกร์ มูเนียอิน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม ดานี่ การ์เซีย กองกลางห้องเครื่อง และ โออิฮาน ซานเซท ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 9

ทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา ครองบอลน้อยกว่า แต่ได้โอกาสทักทายแบบจั๋ง ๆ ก่อน เป็นจังหวะ อเล็กซ์ เบเลนเกร์ รับบอลทะลุช่อง หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดไปที่เสาไกลให้ อิเกร์ มูเนียอิน ได้วิ่งสอดมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดกรอบออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 13 GOAL!!!

เจ้าถิ่น หงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ที่จ่ายบอลกันไม่ดี นาบี เกอิต้า ฉกได้แล้วจ่ายเร็วมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้เบิ้ลบอลสั้นจังหวะเดียวไหลให้ ดีโอโก้ โชต้า ที่วิ่งสอดขึ้นมา แตะบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะก้มหน้ากดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก สวนตัว ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 16

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ซาดิโอ มาเน่ วางบอลยาวข้ามฟากออกไปทางขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้เลี้ยงจี้ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลไซด์ก้อย ผ่านหน้าปากประตูไปที่เสาสองให้ ดีโอโก้ โชต้า สอดมาแปด้วยซ้ายไม่ค่อยเต็มใบเท่าไหร่ บอลลอยช้ากำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น อินญีโก้ มาร์ติเนซ ตามมาโหม่งเคลียร์ทิ้งจากเส้นได้ทันหวุดหวิด

นาที 18

หงส์แดง ลิเวอร์พูล ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ พาบอลเลี้ยงจี้ขึ้นมาเอง โยกหนีผู้เล่นทีมเยือน หลุดมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาไกลขวามือ แต่เป็น ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาไปคว้าไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 21

ทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา บุกมาเกือบได้ลุ้นประตูตีเสมอเหมือนกัน เป็นจังหวะครอสบอลโด่งจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กะจังหวะพลาด ปล่อยบอลลอยข้ามหัวไปที่หน้าเสาไกลเข้าทาง นีโก วิลเลี่ยมส์ ได้เกี่ยวบอลลง ล็อกหลอก อลิสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปหนึ่งที ก่อนจะซัดด้วยขวาไปติดเซฟของนายทวารชาวบราซิล ที่บุกอย่างไว ตามมาขวางไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 24

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาขึงเกมรุกที่หน้าเขตโทษของทีมเยือนอีกครั้ง จังหวะนี้ เจ้าหนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้บอลที่หน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวหาช่องจ่ายไม่มี เลยตัดสินใจลองลักไก่ ปั่นเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้ลุ้นสุด ๆ

นาที 30

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าตาข่ายไปแล้ว แต่ไม่ได้ประตู เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกตรงกลางสนามแล้วเล่นเร็ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลักไก่ เปิดบอลยาวข้ามแนวรับไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะแปเล่นทางด้วยขวานิ่ม ๆ เข้าประตูไป แต่ทว่าต้องเฮเก้อ เมื่อไลน์แมนยกธงตามหลังขึ้นมา ว่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ซึ่งภาพช้าไม่น่าจะล้ำ

นาที 31

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโด่งเข้าไปลุ้นที่หน้าปากประตู แล้วเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ วิ่งโถมตัวมาโขกเหน่ง ๆ ระยะแต่ประมาณ 6 หลา แต่บอลก็ยังหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 33

หงส์แดง ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลยาวทิ้งไปให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้ติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะลากตัดเข้าใน แล้วปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะไปเสียบเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือ หลุดออกหลังไว้ได้ทันหวุดหวิด

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 34

ทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ สวนกลับเร็ว นีโก วิลเลี่ยมส์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะเปิดบอลเลียดอ้อมแนวรับไปที่หน้าเสาไกล ถวายพานให้ โออิฮาน ซานเซท วิ่งมาซัดด้วยขวาโล่ง ๆ จ่อ ๆ เหินข้ามคานออกไปแบบไม่น่าเชื่อ

นาที 35

ทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมออีกครั้งติด ๆ กัน เป็นจังหวะ การวางบอลยาวเข้าไปยังพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วเป็น นีโก วิลเลียมส์ ที่อาศัยความแข็งแกร่ง วิ่งเบียดแซง โจเอล มาติป ได้หลุดไปยิงจิ้มบอลด้วยขวาจ่อ ๆ ที่หน้าเสาแรก แต่ก็ยังไปติดเซฟของ อลิสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ทิ้งตัวปัดไว้ได้ทัน

นาที 42

เกมต้องหยุดไปพักใหญ่ ๆ เมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน พยายามกระโดดพุ่งไปขวางลูกเปิดของ อเล็กซ์ เบเลนเกร์ สุดท้ายจังหวะลงดูเหมือนข้อเท้าข้างขวาจะเกิดอาการบาดเจ็บ เจ้าตัวถึงกับลงไปนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนแพทย์จะมาดูอาการ แล้วก็หิ้วปีกเจ้าตัวออกจากสนามไป แล้วส่งตัว โอเว่น เบ็ค แบ็คดาวรุ่ง ลงสนามมาแทน

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ได้ประตูออกนำเร็วอีกตะหาก ส่วนทางฝั่งทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา บุกสวนมาได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็จบไม่คมเอง ทำให้สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 1 บิลเบา 0 !!!

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 53 GOAL!!!

ทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ นีโก วิลเลี่ยมส์ ครองบอลอยู่บริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะรอเพื่อนแล้วไหลทะลุช่องให้ โออิฮาน ซานเซท ที่วิ่งสอดขึ้นมา ได้หลุดไปถึงหน้าเสาแรกซ้ายมือ ก่อนจะตวัดเลียดไปที่เสาไกลขวามือถวายพานให้ อเล็กซ์ เบเลนเกร์ ได้ซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 60

เกมผ่านมาหนึ่งชั่วโมงเต็ม เกมส่วนใหญ่เป็นของทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ขึงเกมรุก บุกใส่ทีมเยือนอยู่ฝั่งเดียว ขาดเพียงแค่จังหวะจบในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น ที่ดูเหมือนยังขาด ๆ เกิน ๆ ทำได้แค่ถากไปมา จบเน้น ๆ ยังไม่มีให้เห็น

นาที 67

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ นาบี เกอิต้า เจ้าโชว์ความพลิ้ว เลี้ยงแหวกผู้เล่นทีมเยือนมาสาม ก่อนจะไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกขวามือทันที แต่สุดท้ายบอลก็ยังไปติดเซฟของ ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมอยู่ ผวาปัดทิ้งไว้ได้ทัน

นาที 75

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูสุดสวย เป็นจังหวะ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลยาวเปลี่ยนแกนออกมาทางขวาให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้ติดเครื่อง เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ โยกตัดเข้าในตามสูตร ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือ ฆูเลน อกีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปได้แล้ว แต่บอลดันไปชนสามเหลี่ยมเสาซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 84

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ยังเจาะแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิงประตูชัยไม่ได้ เลยเปลี่ยนมาใช้วิธีการโยนยาวแทน จังหวะนี้ บอมบ์โด่งเข้าไปลุ้นในเขตโทษ กองหลังบิลเบาโหม่งเคลียร์สกัดออกมา บอลลอยมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง เจ้าหนู ไทเลอร์ มอร์ตัน ตัวสำรองที่เพิ่งลง ได้ขอลองวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรง เหินเฉียดคาน หลุดออกหลังไปนิดเดียว

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน แอธเลติก บิลเบา ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! โดยหงส์แดง ยังมีคิวอุ่นแข้งกับทีม โอซาซูน่า อีกหนึ่งนัด ในวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ก่อนจะประเดิม พรีเมียร์ลีก นัดแรก ออกไปเยือน นอริช ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม ถัดมา