“ลิเวอร์พูล” บุกไปไล่ถล่ม “ลีดส์” ได้ถึงถิ่น 3-0 !!! รั้งที่สามของตาราง

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม เอลแลนด์ โร้ด, เมืองลีดส์ มณฑลยอร์กเชอร์ตะวันตก ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่สี่ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย คัลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ราฟินญ่า เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ด และ พาทริค แบมฟอร์ด ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวแกร่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งตัวสร้างสรรค์เกม และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นเจ้าถิ่น ยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ได้ทักทายก่อน และเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ราฟินญ่า ลากพาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา สับขาหลอก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปหนึ่งชุด ก่อนจะโยกหนีแล้วไหลเร็วเข้ากลางให้ โรดริโก้ โมเรโน่ ได้วิ่งสอดมาอัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงตรงกรอบแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดออกมาได้ทันหวุดหวิด

นาที 7

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัดบอลได้แล้วพาบอลขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวบรรจงครอสบอลโค้งเร็วไปยังพื้นที่ว่างหน้าประตู แล้วเป็น ดีโอโก้ โชต้า ที่พุ่งเข้าชาร์จช้าไปนิดเดียว บอลผ่านหน้าปากประตู หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

นาที 11

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เริ่มตั้งเกมบุกได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ดีโอโก้ โชต้า ปล่อยบอลผ่านต่อมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้พลิกบอลมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้าหัวกระโหลก บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ เปลี่ยนทางกระดอนเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น

นาที 15

ทีมเยือน ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวพลิกได้แล้วบรรจงหยอดบอลโด่ง ข้ามแนวรับเข้าไปที่หน้าประตูถวายพานให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้สอดหลุดเข้าไปพักอกโล่ง ๆ หนึ่งที ก่อนจะล้มตัวยิงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าบอลเบาแถมไม่ค่อยหนีมือเท่าไหร่ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดเอาไว้ได้ทัน

นาที 18

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้ แจ็ค แฮร์ริสัน โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงลุยแหวกผ่านผู้เล่นทีมเยือน ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะตวัดสั้น ๆ ย้อนหลังมาให้ จูเนียร์ ฟีร์โป้ ได้จับหนึ่งที ตามด้วยซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งไปติดบล็อก ฟาบินโญ่ กระดอนออกมา ต้องเริ่มกันใหม่

นาที 20 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมแล้วโดนสกัดออกมา โฌเอล มาติ๊ป เก็บบอลได้ที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวยึกยักดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่วิ่งสอดขนาบตามขึ้นมา ได้ปาดเลียดเลียดเร็วถวายพานไปที่หน้าประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้แปด้วยซ้ายโล่ง ๆ จ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย เป็นประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ลีกของดาวยิงชาวอียิปต์รายนี้อีกด้วย

นาที 24

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูหนีห่าง จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สปีดตามเก็บบอลได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่งข้ามแนวรับไปที่หน้าเสาไกลให้  ติอาโก้ อัลกันตาร่า ได้สอดมาโขกจ่อ ๆ ระยะเผาขนเข้าประตูไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงให้เป็นล้ำหน้าของ ซาลาห์ ไปก่อนแล้วหน้านั้น

นาที 25

ถัดมาอีกหนึ่งนาที ทีมเยือน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ดีโอโก้ โชต้า เก็บบอลได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา เจ้าตัวเลี้ยงไต่เส้น ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะปาดเลียดมาไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่ตัวถลำไปก่อนแล้วนิดนึง ได้เหยียดขามาตวัดยิงด้วยขวาจ่อ ๆ ระยะไม่ถึง 6 หลา แต่โดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สุดท้ายเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ 

นาที 26

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เลียม คูเปอร์ สกัดพลาดกระดอนไปเข้าทาง แฮร์รี่ เอลเลียตต์ ได้โยกหลอก แจ็ค แฮร์ริสัน ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบที่หน้าเสาแรกขวามือ บอลพุ่งไปติดเซฟของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้อย่างไว ทิ้งตัวขวางบอลเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 31

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากจี้กินแดนขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวตวัดเลียดกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้แต่งบอล ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 33

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือของยูงทอง ต้องจัดการส่ง ปาสกาล สเตราค์ ลงสนามมาเล่นแทน

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 38

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวจ่ายย้อนเข้ากลางยัดมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้แตะบอลหลอก ปาสกาล สเตราค์ จนหัวทิ่มไปหนึ่งที ก่อนจะหวดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งกระดอนพื้น ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น

นาที 43

เจ้าถิ่น ทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ โรดริโก้ โมเรโน่ รับบอลทางซ้ายของกรอบเขตโทษ เจ้าตัวมีเวลาได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาไกลให้ ลุค อายลิ่ง ได้วิ่งสอดเติมขึ้นกระโดดแทงเข่าขวาเน้น ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมยังได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ ลีดส์ 0 ลิเวอร์พูล 1 !!!

นาที 46

เริ่มครึ่งหลังมา มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือเจ้าถิ่น ปรับหมากด้วยการเปลี่ยนตัวคนที่สอง โดยถอดเอา โรดริโก้ โมเรโน่ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกให้ไปพัก แล้วจัดการส่ง ไทเลอร์ โรเบิร์ตส ลงสนามมาคอยลากเลื้อยกินตัวแทน

นาที 48

เปิดฉากมาได้แค่แปปเดียว ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลกระชากหนีกองหลังเจ้าถิ่น หลุดเดี่ยวเข้าไปเอี้ยวตัวกำลังจะแปด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าจังหวะสุดท้ายโดน คัลวิน ฟิลลิปส์ ตามมาแหย่บอลจากด้านหลัง ทำให้เสียหลักกระฉอกมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดด้วยซ้ายเหน่ง ๆ โล่ง ๆ แต่ก็ยังมี ปาสกาล สเตราค์ ตามมาสไลด์แหย่ขาบล็อกบอลเอาไว้ได้ทัน บอลกลิ้งเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 49 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดโด่งไปที่กลางประตูให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้ขึ้นโขกบอลเข้าทาง ฟาบินโญ่ จิ้มเร็วด้วยซ้ายไปติดบล็อก พาทริค แบมฟอร์ด กระเด้งมาเข้าทางเจ้าตัวอีกที คราวนี้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ ไม่กี่หลา กระดอนพื้นลอดหว่างขาของ ลุค อายลิ่ง เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก ผู้ตัดสิน เคร็ก พาวสัน ขอเช็ค VAR อยู่แปปนึง สุดท้ายยืนยันให้เป็นประตู

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 54

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาบ้างทางกราบซ้าย จังหวะนี้ สจ๊วร์ต ดัลลาส ทำชิ่งกับเพื่อน หลุดเข้าไปในเขตโทษได้สวย ก่อนจะปาดเลียดไปที่กลางประตูเข้าทาง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ สกัดไม่ดี บอลลอยโด่งขึ้นข้างบนไม่ไปไหน แล้วเป็น แจ็ค แฮร์ริสัน เทคตัวขึ้นโหม่งสุดเหยียด ส่งบอลลอยย้อยไปตรงตัวของ อลีสซง เบ็คเกอร์  ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้สบาย

นาที 55

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ แจ็ค แฮร์ริสัน ลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหักเลียดมาที่กลางประตูให้ ไทเลอร์ โรเบิร์ตส ได้แต่งหนึ่งทีแล้วแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง ส่งบอลหลุดกรอบขวามือออกไปไกลอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 58 ใบแดง!!!

สถานการณ์ของเจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องตกอยู่ในความยากลำบากขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนจากจังหวะที่ ปาสกาล สเตราค์ วิ่งตามไปสไลด์กวาดบอลจากทางด้านหลังใส่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จนทำให้ห้องเครื่องดาวรุ่งที่กำลังเล่นได้ดี บาดเจ็บอย่างรุนแรงจนต้องหามส่งโรงพยาบาล เคร็ก พาวสัน ผู้ตัดสินในเกมนี้ เดินมาแจกใบแดงไล่ สเตราค์ ตัวสำรองที่ลงมาเล่นในครึ่งแรก ออกจากสนามไปทันที

นาที 65

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกทางกราบซ้าย แล้วเป็น ราฟินญ่า บรรจงเปิดบอลไซด์โค้ง กระดอนพื้นหนึ่งที ลอยโด่งไปที่เสาไกลเข้าทาง พาทริค แบมฟอร์ด ได้วิ่งโฉบมาโหม่งแบบจวนตัว ส่งบอลผิดเหลี่ยม ลอยโด่งเหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 68

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย โดยการส่ง แดเนี่ยล เจมส์ ปีกความเร็วสูงทีมชาติเวลส์ ที่เพิ่งซื้อมาใหม่จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามมาเพิ่มความจี๊ดจ๊าดแทนที่ของ แจ็ค แฮร์ริสัน ที่ดูจะเนือย ๆ ออกไปพัก

นาที 72

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวลากจี้เข้าหาตัวประกบแล้วล็อกเข้าใน ก่อนจะซัดเลียดด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ พุ่งไปตรงตัวของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย

นาที 74

อีกสองนาทีถัดมา เป็นเจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เกือบได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว ราฟินญ่า สปีดตามไปเก็บได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา เจ้าตัวเลี้ยงไต่เส้นเข้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายเลียดถวายพานมาที่จุดนัดพบที่หน้าเสาแรกให้ พาทริค แบมฟอร์ด ได้วิ่งสอดมาทิ้งตัวแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปถูก อลีสซง เบ็คเกอร์  ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่อ่านเกมขาด พุ่งออกมาทิ้งตัวบล็อกเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 78

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกขึ้นทางริมเส้นฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมสูงขึ้นมารับบอล ก่อนจะไหลบอลหักเข้ากลางย้อนมาที่หัวกระโหลกให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ ทว่าบอลยังพุ่งไปตรงตัวของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย

นาที 81

ทีมเยือน เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ ดีโอโก้ โชต้า ไหลบอลนิ่ม ๆ มาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวล็อกหนี ลุค อายลิ่ง ก่อนจะยิงเร็วด้วยซ้าย พุ่งกระดอนพื้นไปติดเซฟของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ทิ้งตัวใช้ขาสกัดบอลได้ทัน ได้เป็นเตะมุม

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 90+2 GOAL!!!

ทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ได้วิ่งสอด เติมมาตบบอลเข้ากลาง ถวายพานมาที่หน้าประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้กลับตัวซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 !!! รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับคริสตัล พาเลซ ในวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 17 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนนิวคาสเซิ่ล ในวันเดียวกัน