เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวแกร่ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งตัวสร้างสรรค์เกม และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวรับพลังไดนาโม เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 4
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้เจ้าหนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เจ้าตัวพลิกบอลได้แล้วซัดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ได้เสียวสุด ๆ ช็อตแรกของเกมนี้
นาที 9
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ พาบอลลุยขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะบรรจงครอสบอลไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้วิ่งสอดมาแปด้วยซ้ายแบบไม่จับโล่ง ๆ แต่บอลดันผิดเหลี่ยม ผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 10
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา แล้วเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เบียดเอาชนะตัวประกบ ได้ขึ้นโหม่งคนเดียว แต่โดนไม่ดี สุดท้ายบอลเบาลอยโด่งไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองไว้ได้สบาย
นาที 21 GOAL!!!
ทำไปทำมา เป็นทีมเยือน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่ได้บุกน้อยกว่า ยิงประตูออกนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย รีซ เจมส์ เปิดบอลโด่ง ไซด์โค้งมาที่เสาแรกให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้เดินย่อง ๆ โฉบมาโหม่งเสยเช็ดเฉือน ๆ ลอยโด่งข้ามตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ย้อยเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 23
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ตั้งเกมขึ้นมาใหม่ทางริมเส้นฝั่งขวา จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ กำลังจะได้สอดมาชาร์จโล่ง ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ตามมาสกัดทิ้งออกหลัง เอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 25
ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ควบพาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวแทงยัดมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ โยกแต่งบอลเข้าซ้าย ก่อนจะซัดเลียดหักข้อไปติดบล็อกของ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กระเด้งออกข้างสนามไป ต้องเริ่มตั้งเกมบุกกันใหม่
นาที 34
ทีมเยือน เชลซี บุกขึ้นมาขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นบ้าง จังหวะนี้ เมสัน เมาน์ท ลากบอลจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะไหลมาที่กลางประตูให้ โรเมลู ลูกากู ได้ถอยมาตวัดยิงหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งไปแฉลบบล็อกของ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กระดอนเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 35
อีกนาทีถัดมา ทีมเยือน เชลซี มีโอกาสได้ลุ้นประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ โรเมลู ลูกากู เบิ้ลบอลทำชิ่งทะลุช่องให้ เมสัน เมาน์ท ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวกระชากหนี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จี้ไปที่หน้าเสาแรกซ้ายมือ ก่อนจะซัดเลียดด้วยซ้ายเล่นทางหนีตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กลิ้งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 37
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล สวนกลับเร็วตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แทงบอลตามช่องให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเข้ากลางไปแฉลบบล็อกแนวรับทีมเยือน กระดอนมาที่กลางประตูเข้าทาง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้วิ่งมาเอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็ม ๆ ส่งบอลผิดเหลี่ยมเหินข้ามคานออกไปไกล
นาที 42
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ต้องมาใช้โควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ก่อนหมดครึ่งแรก เมื่ออยู่ดี ๆ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าทีมชาติบราซิล มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหว สุดท้าย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหนวดเฟิ้ม จำใจต้องส่ง ดีโอโก้ โชต้า ลงสนามมาเล่นแทน ตำแหน่งเดียวกัน
นาที 45+1 ใบแดง!!!
ทีมเยือน เชลซี ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ เสียเตะมุมแล้วบอลขลุกขลิกชุลมุนอยู่ที่หน้าประตู แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ ได้จิ้มบอลจ่อ ๆ ไปติดแขนของ รีซ เจมส์ บนเส้นปากประตู บรรดาผู้เล่นเจ้าถิ่นโวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ สุดท้าย แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ เดินไปเช็ค VAR ที่ข้างสนามอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับลงชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่น พร้อมทั้งควักใบแดงไล่ รีซ เจมส์ ออกจากสนามไป เพราะมองว่าเจ้าตัวเจตนาทำแฮนด์บอล
นาที 45+4 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 !!! เป็นจังหวะต่อเนื่องที่ได้ลูกจุดโทษ แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่สังหาร วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเล่นทาง เสียบตาข่ายซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่พลาด ส่งเจ้าถิ่นตามเจ๊าได้สำเร็จ ก่อนจะมีจังหวะชุลมุนเกือบมีเรื่องกันนึดนึง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เชลซี ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่โหมบุกอย่างหนัก จนมาตามตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 1 เชลซี 1 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมา โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือคนเก่งของทีมเยือนเชลซี ต้องแก้เกมเพราะผู้เล่นน้อยกว่า ด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นออกถึงสองคนรวด โดยหวยไปตกใส่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่โดนถอดออก แล้วเป็น ติอาโก้ ซิลวา กองหลังตัวเก๋า และ มัตเตโอ โควาซิช กองกลางห้องเครื่องทีมชาติโครเอเชีย ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 51
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลดีดไซด์ก้อยด้วยซ้าย ไปที่หน้าประตูให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้วิ่งโฉบมาเบียดเอาชนะ ติอาโก้ ซิลวา แล้วโหม่งสะบัดเน้น ๆ บอลพุ่งเฉียดคาน ลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 52
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ดันสูงขึ้นมา ค่อย ๆ ลากบอลมาถึงกึ่งกลางสนามตรงกลาง ก่อนจะขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ระยะร่วม 35 หลา บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปที่เสาไกลขวามือ แต่เป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่โชว์ซูเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดออกหลังได้ทันหวุดหวิด
นาที 58
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลเลยไปที่เสาไกลไม่โดนใคร สุดท้ายเป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เก็บได้ ก่อนจะไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาเหลี่ยมขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 59
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พับสนามขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ได้ลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อ ฟาบินโญ่ ได้บอลที่หน้าหัวกระโหลก ก่อนจะตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแล้วมุดลง ทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามืออยู่แล้ว แต่เป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เจ้าเก่า ที่ผวาพุ่งปัดออกหลังได้ทันเฉียดฉิว ได้เป็นเตะมุม
นาที 60
จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เล่นสั้นส่งมาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น อันเดรส คริสเตียนเซ่น กองหลังทีมเยือน ที่โหม่งเคลียร์สกัดไม่ดี บอลลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้วิ่งมาตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งแรงแต่ยังไม่ค่อยมุมเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดทิ้งออกหลังทัน ได้เตะมุมอีกครั้งหนึ่ง
นาที 61
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เปิดบอลโด่งเข้าไปลุ้นที่กลางประตู แล้วเป็น โฌเอล มาติป ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่ก็ยังกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 64
ทีมเยือน เชลซี ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เปิดบอลยาวจากทางกราบขวา ลอยโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้โขกตั้งยัดกลับมาที่กลางประตูให้ โรเมลู ลูกากู ได้ล้มตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งไปติดบล็อคของ โฌเอล มาติป กระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 75
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเยือน เชลซี ที่ยืนขวางกันอยู่ที่หน้าประตูเต็มไปหมด เข้าไปทำประตูได้สำเร็จ สุดท้าย เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องแก้เกม ด้วยการถอดเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกไป แล้วจัดการส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลงสนามมาช่วยสร้างสรรค์เกมรุกแทน
นาที 83
ทีมเยือน เชลซี สวนกลับขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ มาเตโอ โควาซิช ฉกบอลมาได้ ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ โรเมลู ลูกากู ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะจบซัดเร็วไปติดเซฟของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปัดออกมาได้ทัน
นาที 85
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ต้องการสามคะแนนสุด ๆ แต่ทำยังไงก็ยังเจาะแนวรับทีมเยือน เชลซี ไม่เข้า จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลเบาแถมตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 89
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น ดีโอโก้ โชต้า โฉยมาได้โขกเหน่ง ๆ บอลลอยย้อยเข้ากรอบแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เล่นปลอดภัยไว้ก่อน ปัดทิ้งออกหลังไป