สกอร์ไม่มีแต่สนุก!! “เอฟเวอร์ตัน” เปิดบ้านเสมอ “สเปอร์ส” บุกแลกเจ๊ากันไปแบบสุดมันส์

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 11 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย อัลลัน กองกลางห้องเครื่อง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกตัวจี๊ด และ ริชาร์ลิซอน กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ป้ายแดงอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ซน ฮึง มิน กองหน้ากึ่งปีกความเร็วสูง และ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม

นาที 6

เปิดฉากมา ช่วงแรกเกมค่อนข้างสูสี เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ เบน ก็อดฟรีย์ ฉกบอลได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวลากพาบอลสวนกลับเร็วมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเลียดกระดอนพื้นไปตรงตัวของ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทิ้งตัวรับเอาไว้ได้สบาย

นาที 15

ช่วงต้นเกม ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เกมชิงจังหวะกันอยู่ที่ตรงกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ เจ้าถิ่น ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน รูปแบบการเล่นทรงบอลดูดีกว่าทางทีมเยือน ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยู่นิด ๆ ทว่าโอกาสลุ้นทำประตูของทั้งคู่ ยังแทบไม่มีให้เห็น

นาที 18

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ แฮร์รี่ เคน รีบเปิดบอลยาวมาให้ ซน ฮึง มิน แทงต่อไปถึง ลูคัส มูร่า ได้ติดเครื่องเลี้ยงลุยเข้าไปกดยิงเน้น ๆ ในกรอบเขตโทษ ทว่าแนวรับเจ้าถิ่นยังไม่พลาด ตามมาบล็อกช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 20

เกมดำเนินมา 20 นาทีผ่าน เป็นทางฝั่งทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เริ่มเครื่องร้อน ยกระดับการเล่น พลิกกลับมาเป็นฝ่ายกดดันเจ้าถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง นักเตะสเปอร์สอาศัยลูกวิ่งสู้ฟัด ขยันเพลสซิ่งชิงบอลกลับมาได้เร็ว ก่อนจะเปิดเกมรุกสวนกลับเร็วเข้าจู่โจมคู่แข่งทันที ทว่าเกมรับของเอฟเวอร์ตัน ก็ยังคงเหนียวแน่น ตามไปป้องกันเอาได้หมดเหมือนกัน

นาที 23 

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีโอกาสได้ลุ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ เซร์คิโอ เรกีลอน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้ง ลอยโด่งข้ามไปที่เสาสองให้ เอเมอร์สัน รอยัล วิงแบ็คที่เติมเกมสูงวิ่งสอดหุบเข้ามา ได้โฉบมาโขกคนเดียวเน้น ๆ แต่บอลโดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลทิศทางผิดเหลี่ยม หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 30

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังคงผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างสนุกสูสีเหมือนเดิม เกมส่วนใหญ่เน้นเข้าบอลหนัก ชิงบอลกันอยู่ที่ตรงกลางสนาม ฝั่งไหนได้บอลก็จะเปิดเกมเร็วทันที ทำเอาแฟนบอลชอบใจกันใหญ่ ทว่าโอกาสได้หลุดไปลุ้นง้างเท้าสับไกเน้น ๆ เพื่อทำประตูในพื้นที่สุดท้าย แทบไม่มีให้เห็น แนวรับทั้งคู่ยังถือว่าตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น

นาที 36

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วมาถึง เดมาไร เกรย์ เจ้าตัวกระชากขึ้นมาลองส่องไกลเองด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัวไปติดบล็อกของ คริสเตียน โรเมโร่ สุดท้ายแฉลบกระดอนออกหลังไป ได้เพียงแค่ลูกเตะมุมเท่านั้น

นาที 45+1

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ซน ฮึง มิน ลากบอลสวนกลับเร็วขึ้นมาแทงต่อใหั แฮร์รี่ เคน ได้หลุดไปทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเงยหน้ามองแล้วตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งข้ามฟากถวายพานไปที่หน้าเสาไกลให้ เซร์คิโอ เรกีลอน วิ่งสอดมาเข้าชาร์จสไลด์ตัวยิงด้วยซ้ายโล่ง ๆ ไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ครองบอลได้มากกว่า แถมรูปเกมก็ดูวูบวาบน่ากลัวกว่านิด ๆ ส่วนทางเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานที่ดีทั้งรุกและรับ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ เดมาไร เกรย์ กระชากบอลหลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ อันโธนี่ กอร์ดอน ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 56

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตอบโต้ขึ้นมาได้จบเหมือนกัน จังหวะนี้ เซร์คิโอ เรกีลอน เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหนีตัวประกบล็อคเข้าขวา ก่อนจะบรรจงก้มหน้าซัดเต็ม ๆ ไปที่เสาไกลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น เบน ก็อดฟรีย์ ที่ยืนตำแหน่งถูกที่ถูกเวลา โหม่งบอลเคลียร์ทิ้งออกมาได้ทันเฉียดฉิว

นาที 61

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ต่อบอลกันไปมา ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ โอลิเวอร์ สคิพพ์ ไหลบอลจากขวามาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เบน เดวิส ที่เติมสูงขึ้นมา ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด เฉียดสามเหลี่ยมซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้ลุ้นสุด ๆ

นาที 63 VAR!!!

เกมต้องหยุดไปพักใหญ่ ๆ ถือว่าเป็นดราม่าไฮไลท์ของเกมนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อ ริชาร์ลิซอน มีจังหวะได้ส้มหล่น หลุดเดี่ยวเข้าไปโดน อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งมารวบล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน คริส คาวานาช เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษ ก่อนจะมีสัญญาณ VAR เรียกให้วิ่งไปดูอยู่นาน สุดท้ายกลับลงมาเปลี่ยนคำตัดสิน ยกเลิกจุดโทษ ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า นายทวารทีมเยือน ปัดโดนบอลได้ก่อนนิดนึง รอดตัวหวุดหวิดสำหรับทัพไก่เดือยทอง

นาที 68

เกมต้องหยุดชะงักไปครู่ใหญ่ ๆ อีกแล้ว เมื่อมีช็อต คริสเตียน โรเมโร่ ไปมีเรื่องกระทบกระทั่งกับ ริชาร์ลิซอน ทั้งคู่เอาตัวกระแทกกันไปมา ก่อนที่หัวหอกแซมบ้าของเจ้าถิ่น จะทิ้งตัวลงไปนอนดีดดิ้น หวิดชุลมุนดุเดือดกันตรงกลางสนาม สุดท้ายผู้ตัดสินแจกใบเหลืองเพื่อสงบสติอารมณ์แก่ทั้งคู่ ให้เล่นกันต่อไป

นาที 71

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ลุ้นเล็ก ๆ จากจังหวะสวนกลับเร็ว แล้วเป็น ซน ฮึง มิน มีโอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวตัดสินใจยิงเอง ส่งบอลพุ่งหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว ทว่ามีธงล้ำหน้าตามหลังขึ้นมา ถ้าเข้าคงได้เช็ค VAR กันอีกที

นาที 80

เข้าสู่ช่วงสิบนาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมยังคงไม่ผ่อนเกม เปิดหน้าแลกใส่กันอย่างสนุกสูสีเหมือนเดิม ถือว่าเป็นเกมที่ดี มีคุณภาพ ทว่าขาดเพียงแค่ประตูเท่านั้น ที่ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น ทั้งคู่ยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0 เช่นเดิม

นาที 82

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ลูก้าส์ ดีญ เติมสูงขึ้นมาทำชิ่ง 1-2 กับ ทอม เดวิส สอดไปรับบอล ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดจังหวะเดียวมาที่หน้าเสาแรกให้ เดมาไร เกรย์ ตั้งเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทางโล่ง ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู กลิ้งเฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 88

ทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน จากจังหวะ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ลากบอลตัดจากขวามาถึงหน้าหัวกระโหลก เจ้าตัวได้ช่องก้มหน้าหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดทะลุบล็อก แถมติดไซด์ก้อยผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ไปได้แล้ว ทว่าดันไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจังกระเด้งออกมา ชวดคว้าสามคะแนนไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 90+2 ใบแดง!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มีดราม่าอีกเหตุการณ์ เมื่อเจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ เมสัน โฮลเกต ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา สกัดเคลียร์บอลออกมาที่หน้าเขตโทษตัวเอง ก่อนจะตามไปเข้าบอลช้า เสียบสไลด์เปิดปุ่มใส่ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก อย่างน่าเกลียด ซึ่งตอนแรกผู้ตัดสินให้เป็นแค่ใบเหลือง ก่อนที่จะวิ่งไปเช็ค VAR สุดท้าย โจนาธาน มอสส์ กลับลงมาเปลี่ยนเป็นใบแดงโดยตรง ไล่ตะเพิดกองหลังเจ้าถิ่นรายนี้ ออกจากสนามไปทันที

นาที 90+7

ช่วงก่อนหมดเวลา มีดราม่าอีกแล้ว เป็นจังหวะทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ตั้งป้อมบอมบ์โด่งจากริมเส้นฝั่งซ้าย ลอยลึกไปที่เสาไกลให้กับ เอเมอร์สัน รอยัล เบียดขึ้นโหม่งย้อนเข้ากลางตั้งให้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ถอยโฉบมาโดน ทอม เดวิส กระแทกล้มลงไป ผู้เล่นไก่เดือยทอง โวยวายฟ้องจะเอาลูกจุดโทษกันใหญ่ ทว่าผู้ตัดสินเป่าฟาล์วให้กับเจ้าถิ่นแทน ก่อนจะเป่าหมดเวลาการแข่งขัน

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้แบบสนุกแต่ไม่มีสกอร์ เจ๊ากันที่ 0-0 !!! ทัพท๊อฟฟี่ อยู่อันดับที่ 11 ของตาราง โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านสเปอร์ส รั้งอันดับที่ 9 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา