เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่น ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา เปิดสนาม ริโอ ทินโต้ สเตเดี้ยม เมืองยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ คอสตาริกา ในศึกฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
เกมนี้ เจ้าถิ่น ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เกร็กก์ เบอร์ฮอลเตอร์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย แอนโทนี่ โรบินสัน แบ็คซ้ายจอมบุก ยูนุส มูซาห์ กองกลางห้องเครื่อง และ เบรนเดน แอรอนสัน กองหน้ากึ่งปีกตัวจี๊ดของทีม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ทีมชาติ คอสตาริกา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรนัลด์ กอนซาเลซ เบรเนส มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย จานคาร์โล กอนซาเลซ เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่ง โยฮัน เวเนกัส เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ โยแอล แคมป์เบลล์ กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 7 GOAL!!!
เริ่มเกมมาได้แปปเดียว เป็นเจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะ แอนโทนี่ โรบินสัน แบ็คซ้ายเจ้าถิ่น ดันสูงเติมเกมรุกหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะครอสเลียดโค้ง ๆ ไปที่กลางประตูให้ ดาร์ล ดิ๊ก ได้สอดมาแต่งบอลแล้วยิงด้วยซ้าย ไปติดบล็อกกองหลังทีมเยือน กระดอนออกมาเข้าทาง เบรนเดน แอรอนสัน ได้วิ่งตามมาแปด้วยขวาเน้น ๆ ซ้ำโล่ง ๆ สวนตัว ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 13
เจ้าถิ่น บุกหนักขึ้นมาทางขวา และเกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ เร็คกี้ แคนน่อน เติมสูงขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษ แล้วปาดเลียดมาที่เสาแรกให้ ดาร์ล ดิ๊ก ได้จับบอลแล้วแต่งหาช่องยิงแต่โดนขวาง เลยไหลย้อนหลังมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ ทิโมธี เวอาห์ ได้วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ บอลพุ่งแรงโค้งสวยกำลังจะเสียบเสาแรกขวามืออยู่แล้วแต่ ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือไว้ได้ทันเฉียดฉิว ได้เป็นเตะมุม
นาที 14
เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เบรนเดน แอรอนสัน เปิดโด่งโค้งลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น มาร์ค แม็คเคนซี่ ได้โหม่งเต็ม ๆ ยัดไปที่กลางประตู แต่จังหวะสุดท้าย เบอร์นาท อัลฟาโร่ กองกลางทีมเยือน ตามลงมาช่วยหวดเคลียร์ทิ้ง จากหน้าปากประตูได้ทันเฉียดฉิว
นาที 19
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาถึงกึ่งกลางสนามด้านซ้าย เซบาสเตียน เล็ตเก็ต ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ ดาร์ล ดิ๊ก ได้วิ่งโฉบมาโหม่งเต็ม ๆ แต่บอลดันไปติด โจเซฟ โมร่า กองหลังทีมเยือน กระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 33
เจ้าถิ่น ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ ทิโมธี เวอาห์ กระชากพาบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตัดสินใจ ลองซัดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น หลุดเสาไกลซ้ายมือออกไปไกล
นาที 35
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ทิโมธี เวอาห์ ตั้งป้อมครอสบอลพุ่งมาที่เสาแรก แล้วเป็น เบรนเดน แอรอนสัน โฉบมาพยายามเล่นท่ายาก กระโดดตอกส้นไขว้ยิงด้วยขวา แต่บอลหลุดเสาไกลซ้ายมือออกไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 38
ทีมเยือน คอสตาริกา ได้สวนกลับขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้เป็น โยแอล แคมป์เบลล์ อดีตเด็กปั้นอาร์เซน่อล ได้โชว์ความพลิ้ว พาบอลขึ้นมาถึงหน้าหัวกระโหลก แล้วโดนทำฟาล์วล้มลง เรียกลูกฟรีคิกได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกมาอาสายิงเอง แล้ววิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ติดกำแพง ลอยโด่งเหินข้ามคานออกไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 41 GOAL!!!
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วจากแดนหลัง มาร์ค แม็คเคนซี่ สาดบอลยาวทิ้งขึ้นหน้า ข้ามแนวรับมาที่หน้าเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น ดาร์ล ดิ๊ก ได้ทำลายกับดักล้ำหน้า วิ่งสอดแซงแนวรับทีมเยือน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ ไปแปด้วยขวาสวนตัว ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 43
เจ้าถิ่น น่าจะได้ประตูที่สามแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เบรนเดน แอรอนสัน ได้บอลบริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะโชว์ความพลิ้ว เลี้ยงไต่เส้นหลัง หลบกองหลังทีมเยือนเข้าเขตโทษมาสอง คน แล้วปาดเลียดมาที่เสาแรกให้ ดาร์ล ดิ๊ก ได้ยิงด้วยซ้ายโดนไม่ดี บอลปลิ้นกระดอนมาที่หน้าเสาไกลซ้ายมือเข้าทาง ยูนุส มูซาห์ ได้สอดมาล้มตัวจิ้มด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลเฉียดเสาซ้ายมือ ออกหลังไปเอง แบบน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทีมชาติ คอสตาริกา อยู่แทบจะฝั่งเดียว สุดท้ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึง 2-0 !!!
นาที 50
เปิดฉากครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ก็ลุยโหมบุกใส่ทันที จังหวะนี้ ยูนุส มูซาห์ ได้บอลเลี้ยงจี้ขึ้นมาที่กรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะสับขาหลอกกองหลังทีมเยือน แล้วกระชากตัดเข้าในไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู หลุดเสาไกลซ้ายมือออกหลังไป แบบได้เสียว
นาที 52 GOAL!!!
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของกองหลังทีมเยือน ที่จ่ายบอลไม่ดีโดน เร็คกี้ แคนน่อน แบ็คขวาที่ดันสูงขึ้นมา ฉกบอลไปได้ แล้วลากเข้าเขตโทษ ก่อนจะง้างเท้าหลอกยิงด้วยขวา ทำเอา ฟรานซิสโก้ คาลโว่ กองหลังทีมเยือน หลงทางล้มลงไป แล้วมาแปด้วยซ้ายเล่นทาง หนีมือ ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งเลียดเสียบโคนเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 59
เจ้าถิ่น ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เร็คกี้ แคนน่อน ดันสูงหลุดขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา แล้วเปิดบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าปากประตู บอลพุ่งไปแฉลบแนวรับทีมเยือน เปลี่ยนทางกำลังจะเบียดเสาแรกเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวามาปัดทิ้งออกหลังไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 60
ทีมเยือน คอสตาริกา ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โยแอล แคมป์เบลล์ ลองซัดไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น กระดอนเข้ามือ อีธาน ฮอร์วาร์ท ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับสบาย
นาที 64
เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เซบาสเตียน เล็ตเก็ต เปิดบอลโด่งโค้งมาที่กลางประตู แล้วเป็น แจ็คสัน ยูเอล ตัวสำรอง ได้เบียดกับแนวรับทีมเยือน ขึ้นไปโหม่งได้สำเร็จ แต่โดนบอลใต้ลูกมากเกินไป บอลลอยเหินข้ามคานออกไป
นาที 69
ทีมเยือน ได้สวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง โยแอล แคมป์เบลล์ เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้าหัวกระโหลก แล้วไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มอนเตรเนโก ตัวสำรอง ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้กดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก แต่ อีธาน ฮอร์วาน์ท ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาไว้อยู่แล้ว รับสบาย
นาที 75 GOAL!!!
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ จานคาร์โล กอนซาเลซ ไปหวดใส่ขาของ โจวานนี่ เรย์น่า ตัวสำรอง ล้มลงไปนอนเจ็บในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่นทันที แล้วเป็น โจวานนี่ เรย์น่า ลุกขึ้นมาสังหารเอง แปด้วยขวานิ่ม ๆ เล่นทาง เสียบโคนเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ไม่พลาด ในขณะที่ ลิโอเนล โมเรยร่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งไปอีกทาง
นาที 85
เวลาที่เหลือทั้งสองฝ่าย เน้นเปลี่ยนตัวสำรองลงมาสัมผัสเกม เน้นการต่อบอล ไม่มีจังหวจบสกอร์เน้น ๆ ด้วยกันทั้งสองทีม สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมด้วยสกอร์ สหรัฐอเมริกา 4 คอสตาริกา 0
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา เปิดบ้านไล่ถลุงทีมเยือน ทีมชาติ คอสตาริกา ไปได้ในเกมอุ่นเครื่อง แบบสบาย ๆ 4-0 !!!