คู่นี้เป็นการเจอกันระหว่างสองทีมใหญ่ แต่ต่างทวีปกัน เจ้าบ้าน อังกฤษ พวกเขามีความพร้อมมากขึ้น เพราะทีมจะได้ เอมิล สมิธ โรว์ ฟิตกลับมาลงสนามให้ทีมได้ตามปกติแล้ว หลังจากพลาดไม่ได้ลงเล่นเกมที่เจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ ส่วนทางด้าน ไอวอรี่โคสต์ เมื่อคืนพวกเขาก็จัดชุดใหญ่เหมือนกันนำมาโดย สองแนวรุกตัวความหวังอย่าง วิลฟรีด ซาฮา และ นิโกล่าส์ เปเป้
นาทีที่ 4 อังกฤษ ทักทายก่อน!
เปิดฉากมาได้ไม่นาน อังกฤษ ก็เดินหน้าเข้าทำทันที โดยเป็นจัวหวะทักทายครั้งแรกในเกม เมื่อ จู๊ด เบลลิงแฮม ได้บอลครงกลางสนาม แล้วพยายามจะแทงบอลทะลุช่องให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ แต่น่าเสียดายที่โดน เอริค ไบยี่ สกัดทิ้งไปได้ก่อน
นาทีที่ 11 ไอวอรี่โคสต์ ตัดบอลสวย
เป็นจังหวะที่ อังกฤษ น่าจะได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ สเตอริง จริงๆ ถ้าไม่โดน เอริค ไบยี่ อ่านเกมแล้วออกมาตัดบอลไปเสียก่อน สเตอริง ที่ง้างเท้ารออยู่แล้วน่าจะได้ฃองซัดด้วยขวาข้างถนัดแน่ๆ
นาทีที่ 14 เบลลิงแฮม ยิงชนเสา !
อังกฤษ พลาดไม่ได้ประตูเฉยเลย จากจังหวะทำชิ่ง1-2 ในกรอบเขตโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง ไหลบอลตามช่องให้ จู๊ด เบลลิงแฮม แบบถวายพาน แต่ เบลลิงแฮม ไม่ยอมยิงในจังหวะแรก แต่งบอลนานไปหน่อยสุดท้ายมุมเลยเหลือน้อย เบลลิงแฮม เลยยิงชนเสาออกไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 19 แจ็ค กรีลิช ยิงได้ลุ้น
จังหวะนี้เป็นการโชว์ความสามารถเฉพาะตัว ของ แจ็ค กลีลิช ที่เลี้ยงจี้หลบผู้เล่นของ ไอวอรี่โคสต์ แล้วได้ลองซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่ บาดรา อาลี ซังกาเร ผู้รักษาประตูของ ไอวอรี่โคสต์ ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟลูกยิงของ กลีลิช เอาไว้ได้
นาทีที่ 30 อังกฤษ 1-0
ผ่านไปแล้วครึ่งทาง รูปเกมส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นอังกฤษ ที่วูบวาบมากกว่า จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำประตูออกนำจนได้ จากจังหวะที่ อังกฤษ ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย สเตอร์ลิง โขว์พริ้วหลบกองหลังของ ไอวอรี่โคสต์ ไปจนถึงสุดเส้นหลัง แล้วเปิดบอลยัดเข้ากลาง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ที่วิ่งเติมขึ้นมา แท็บอินโล่งๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย
นาทีที่ 44 อังกฤษ ออกนำ 2-0
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก อังกฤษ ก็มาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ผู้รักษาประตูของไอวอรี่โคสต์ รับบอลไม่อยู่ บอลไปเข้าทาง แจ็ค กลีลิช ที่อยู่ตรงนั้นพอดี ก่อนที่ แจ็ค จะปาดกลับมาให้ สเตอร์ลิง วิ่งเข้ามาช็าจจ่อ เข้าไปอย่างสวยงาม
จบครึ่งแรก ต้องบอกเลยว่าส่วนใหญ่จะเป็น อังกฤษ ที่ครองเกมอยู่ฝ่ายเดียวจนสามารถทำประตูออกนำไปได้ก่อน 2 – 0 ส่วนทางด้าน ไอวอรี่โคสต์ ที่โชคร้ายเหลือผู้เล่น 10 คน ครึ่งหลังน่าจะการปรับทัพเพื่อแก้เกมแน่ๆ
นาทีที่ 57 เบลลิงแฮม พลิกสวย!
เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน อังกฤษ ก็มาได้ลุ้นประตูจากจังหวะประสานงานของ กลีลิช กับ เบลลิงแฮม อีกแล้ว โดยลูกนี้ เบลลิงแฮม โชว์เหนือจับบอลที่ กลิลิช แทงมาให้แล้วอาศัยความสามารถเฉพาะตัว พลิกบอลผ่านตัวประกบสองคน แต่ทว่าในจังหวะที่จะตบกลับไปให้เพื่อนลุ้นทำประตู เจ้าตัวดันเปิดไปติดบล็อก พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 68 เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ขอซัดบ้าง!
คู่นี้เมื่อผ่าน60นาที อังกฤษ ที่เจาะแนวรับของ ไอวอรี่โคสต์ ไม่ได้ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เลยขอลองซัดไกล เต็มข้อดูสักครั้ง บอลพุ่งแรงเกือบเสียบใต้คานเหมือนกันแต่ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ น่าจะช้อนใต้ลูกมากไปหน่อยบอลเลยเหินข้ามคานไปนิดเดียว
นาทีที่ 90+2 ไทโรน มิงส์ ปิดกล่อง
คู่นี้ตอนแรกเหมือนว่าจะจบที่ 2-0 เพราะ อังกฤษ ไม่ว่าจะต่อบอลขึ้นเกมยังไง ก็มักจะไปตายตอนจบเสมอ จนกระทั่งพวกเขามาได้ลูกเตะมุมในช่วงทดเจ็บนาทีสุด และก็เป็น ไทโรน มิงส์ ที่เทคตัวขึ้นโหม่งโล่งๆ คนเดียวไม่มีตัวประกบ ส่งบอลซุกก้นตาข่าย ไปอย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน อังกฤษ ยังคงรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ก่อนจะไล่ทุบ ไอวอรี่โคสต์ ที่เหลือ 10 คนไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-0
สนับสนุนบทความโดย ufabet