นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เอเมเลค ที่เตรียมเปิดสนาม เอสตาดิโอ บังโค ปาซิฟิโก้ ต้อนรับการมาเยือนของ แอตเลติโก มิไนโร่ ในศึก โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส *รอบ16ทีม (อเมริกาใต้) เมื่อวันพุธที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เอเมเลค จะมาในระบบ 4-1-4-1 นำโดยเสาหลักของทีมเหมือนเดิมทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น เปโดร ออร์ติซ,มาร์ลอน เมเจีย,ดิกซอน อาร์โรโย,บรูโน ปิตตอน และ อาเลฆันโดร กาเบซ่า
ขณะที่ แอตเลติโก มิไนโร่ จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดยตัวหลักของทีมเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เอเวอร์สัน,อนาเนียส ดา ซิลวา,โอตาวิโอ,รูเบนส์ ,อิกนาซิโอ เฟร์นันเดซ และ ฮัลค์ ตามสูตร
นาทีที่ 16 แอตเลติโก มิไนโร่ ขึ้นนำ 1-0
เป็นทีมเยือนที่ใส่สกอร์ได้ก่อนในเกมนี้ จากจังหวะเปิดจากแดนตัวเองของ เอเวอร์สัน สาดยาวไปถึง ฮัลค์ เอาบอลลงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะเสียหลักล้มตัวกวาดบอลต่อให้ อเดเมียร์ ดา ซิลวา แตะบอลทีเดียว หลุดเข้าไปแปด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งหนีมือ ออร์ติซ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 32
เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ แจ็คสัน โรดริเกซ ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งผ่านตัว เอเวอร์สัน ไปแล้วด้วย แต่น่าเสียดาย สุดท้ายก็ชนเสาสองหลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 42
ช่วงท้ายครึ่งแรก เอเมเลค ได้ลุ้นประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ อาเลฆันโดร กาเบซ่า เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะใช้ตัวบังบอล รอเพื่อนเติม แล้วจ่ายต่อให้ เซบาสเตียน โรดริเกซ วิ่งมาปั่นโค้งด้วยขวา นอกกรอบ แบบไม่มีตังประกบ บอลพุ่งเรียด จะเสียบมุมเสาสองอยู่แล้ว แต่ เอเวอร์สัน ยังไวพอ พุ่งตัวปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด
หมดครึ่งเวลาแรก
เอเมเลค – 0
แอตเลติโก มิไนโร่ – 1
นาทีที่ 58 เอเมเลค ตีเสมอ 1-1 !!
เริ่มครึ่งหลังได้ไม่ถึง 15นาที มิไนโร่ ก็โดนเสียประตูจนได้ จากจังหวะที่ นาธาเนล อนาเนียส จงใจกระแทกใส่ กาเบซ่า จากด้านหลัง กรรมที่เห็นเหตตุการณ์ พอดีจึงวิ่งมาแจกลูกจุกโทษให้ เจ้าถิ่นทันที แล้วก็เป็น เซบาสเตียน โรดริเกซ มือสังหารประจำทีม ที่วิ่งมายิงลูกนี้ไม่มีพลาด เอเมเลค ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 64
แอตเลติโก มิไนโร่ บึกกดดันจนเกือบได้ประตูแซงนำ อีกครั้ง จากยังหวะที่พวกเขาได้ลูกฟรีคิก บริเวณริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดยัดเข้ากลางให้ จูเนียร์ อลอนโซ่ เซ็นเตอร์แบ็ก ที่เติมสูงขึ้นมาได้โขกเต็มๆ หน้าประตู ส่งบอลเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 84
ช่วงท้ายเกม แอตเลติโก มิไนโร่ ลงมาเล่นเกมรับเต็มตัว เพราะพวกเขาเหลือผู้เล่นน้อยกว่าคนนึง เนื่องจาก อัลลัล เด โซซ่า ถูกไล่ออกจากสนาม ไปในนาทีที่ 68 ทำให้เวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม ก็เสมอกันไปด้วยสกอร์รวม 1-1
หมดเวลาการแข่งขัน เอเมเลค ทำได้ พวกเขาเปิดบ้านเก็บผลเสมอจาก แอตเลติโก มิไนโร่ ได้ตามเป้า นัดหน้าไปเยือน แอตเลติโก ถ้ายังเล่นได้แบบนี้โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไป ก็มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว