อแมนด้า สเตฟลี่ย์ นักธุรกิจชื่อดังและหนึ่งในสมาชิกกลุ่มเจ้าของใหม่ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ว่าต้องการพาทีมไปอยู่ในระดับเดียวกับทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีกแถลงการณ์ยืนยันว่ากลุ่มทุุน Public Investment Fund(PIF) จากซาอุดิ อาระเบีย ได้มีการเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิลเป็นที่เรียบร้อยด้วยด้วยเงิน 305 ล้านปอนด์
สเตฟลีย์ มีหุ้นส่วน 10 เปอร์เซนต์ใน PIF และเธอเป็นหัวหอกคนสำคัญที่ทำให้ดีลเทคโอเวอร์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
นิวคาสเซิล ปลดแอกจากช่วงเวลา 14 ปีที่ย่ำแย่ภายใต้การมี ไมค์ แอชลีย์ เป็นเจ้าทีม และตอนนี้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่มีเจ้าของทีมร่ำรวยที่สุดในโลกเนื่องจากมีการประเมินว่า PIF มีทรัพย์สินอยู่ในครอบครองมากกว่า 3.2 แสนล้านปอนด์ จากหุ้นในบริษัทชื่อดังต่างๆทั่วโลก
สเตฟลีย์ ให้สัมภาษณ์กับ เดลี่เมล ว่า “แน่นอนในแง่ของถ้วยรางวัลเรามีความทะเยอทะยานแบบเดียวกันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และเปแอสเช แต่มันต้องใช้เวลา”
“เราอยากจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกภายใน 10 ปีไหมเหรอ? ใช่แล้ว การเทคโอเวอร์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เราต้องการเห็นถ้วยรางวัล แต่การจะได้มันมาจำเป็นต้องมีทั้งการลงทุน เวลา ความอดทน และ ทีมเวิร์ค”
ตำแหน่งผู้จัดการทีมนั้นเป็นเรื่องแรกที่ถูกมองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ โดยแฟนบอลนิวคาสเซิลต้องการให้สโมสรปลด สตีฟ บรูซ โดยเร็ว
รายงานระบุว่า สเตฟลีย์ ที่จะเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของทีมคนใหม่ กำลังมีการพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกับทีมงาน แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นหนึ่งในกุนซือที่พวกเขาเล็งเอาไว้ รวมถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กุนซือหนุ่มที่พาทีมเรนเจอร์สคว้าแชมป์สก็อตแลนด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
นอกจากเรื่องผู้จัดการทีมแล้ว PIF ยังได้มีการติดต่อกับตำนานของสโมสรอย่าง อลัน เชียเรอร์ และ เควิน คีแกน ในความพยายามที่จะให้พวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างใหม่ โดอาจจะเป็นงานด้านทูตของสโมสร