สเตอร์ลิ่งแฮตทริก!! พาทัพเรือใบสีฟ้า บุกมาไล่ถลุงเอาชนะ “นอริช ซิตี้” ไปได้แบบไม่ไว้หน้า 4-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ เปิดสนาม แคร์โรว์ โร้ด, เมืองนอริช ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีน สมิธ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เคนนี่ แม็คลีน กองกลางห้องเครื่อง บิลลี่ กิลมอร์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ตีมู ปุ๊กกี้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมพลิ้ว และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 3

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไว เป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ส่งบอลเป็นทอด ๆ ย้อนมาถึงหน้าเขตโทษให้กับ ริยาด มาห์เรซ ได้ตั้งป้อมบรรจงหยอดเข้าไปในเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น สอดไปซัดติดเซฟของ แองกัส กันน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะได้ซ้ำติด ๆ กันอีกสองหน ส่งบอลเข้าประตูไป ทว่ามีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา เฮเก้อกันไป

นาที 5

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็วอีกครั้ง เป็นจังหวะ รูเบน ดิอาส วางบอลยาวจากวงกลมกลางสนามออกขวาให้กับ ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดมาถึงริมกรอบเขตโทษ เจ้าตัวครอสเร็วเข้ากลางต่อไปให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา จับลงแล้วล็อคหนีตัวประกบไปที่มุมแคบ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปชนเสาไกลซ้ายมือ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 10

เจ้าถิ่น ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ ได้ทักทายบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ปิแอร์ ลีส์ เมลู เป็นคนที่แย่งบอลได้แล้วพาขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบ ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ตีมู ปุ๊กกี้ สอดไปวางเท้าซัดมุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมรออยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 14

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวิดได้ประตูอีกแล้ว เป็นจังหวะ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ นาธาน อาเก้ ชาร์จไม่ถึง บอลผ่านหน้าปากประตูไปหมด แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พยายามโฉบมาชาร์จจ่อ ๆ ก็ยังไม่ทัน ไม่งั้นใส่สกอร์รอได้เลย

นาที 18

เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน เป็นจังหวะ บิลลี่ กิลมอร์ เก็บตกบอลจากลูกเตะมุมได้ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยกลับเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น แกร้นท์ แฮนลี่ย์ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ คนเดียว ส่งบอลพุ่งไปชนโคนเสาอย่างจังกระเด้งออกมา จังหวะสุดท้ายเป็น แฟร์นานดินโญ่ หวดสกัดทิ้งออกมาได้ทันอย่างน่าเสียดาย

นาที 31 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ไคล์ วอล์คเกอร์ ดันสูงลากพาบอลขึ้นมาเองทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปในเขตโทษแฉลบไปถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทางฝั่งซ้ายได้โยกหนีตัวประกบมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะเห็นช่องวางเท้าปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม แองกัส กันน์ นายทวารคู่แข่งหมดปัญญาป้องกัน

นาที 33

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ แนวรับนกขมิ้นสกัดเคลียร์กันไม่ขาด แล้วเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่เก็บบอลแถวสองได้ ก่อนจะแทงตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ ริยาด มาห์เรซ สอดมาวางเท้าหวดเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ ทว่าเป็น แองกัส กันน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมคุมเสารออยู่แล้ว ผวาทุบทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาที 33

เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ยังคงสู้ไม่ถอย จังหวะนี้ บอมบ์โด่งทิ้งยาวขึ้นมาให้กับ ตีมู ปุ๊กกี้ ได้ครองบอลดึงจังหวะจ่ายย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ มิล็อต ราชิก้า เลือกไหลสั้น ๆ มาตรงกลางตั้งให้ เคนนี่ แม็คเลน วิ่งปรี่มาหวดเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่ตรงกรอบ สุดท้ายลอยหลุดเสาออกไปไกลพอสมควร

นาที 40

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นส่งท้าย เป็นจังหวะ แฟร์นานดินโญ่ เปิดบอลเปลี่ยนแกนออกไปทางริมกรอบฝั่งขวาให้กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ สอดมาตบเข้ากลางแล้วโดนสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระดกสวนกลับไปที่หน้าประตู แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน พยายามเบียดแย่งโหม่งเหน่ง ๆ จังหวะสุดท้ายบอลลอยออกหลังไป ทำได้แค่เสียว

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามคาด เป็นฝ่ายปูพรมพับสนามบุกใส่เจ้าถิ่น ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ นอริช ซิตี้ 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 !!!

นาที 48 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไหลตามช่องตัดหลังแนวรับไปที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ อิลคาย กุนโดกัน ได้สอดมาเลี้ยงไต่เส้นเข้ากลาง ก่อนจะจ่ายเลียดยัดเข้าไปที่หน้าประตูให้ ฟิล โฟเด้น ชาร์จจ่อ ๆ ติดเซฟของ แองกัส กันน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัว ได้โยกหาจังหวะอยู่สองสามที สุดท้ายซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลข้ามเส้นเรียบร้อยแล้ว เข้าประตูไป ไม่เหลือ

นาที 53

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นลูกที่สามอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อิลคาย กุนโดกัน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่เสาแรกให้ แฟร์นานดินโญ่ โหม่งสะบัดชงต่อเข้าไปตรงกลาง แล้วเป็น นาธาน อาเก้ โฉบมาแหย่ขาชาร์จระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลหลุดกรอบ เหินข้ามคาน ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 61

เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เคนนี่ แม็คเลน แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ มิล็อต ราชิก้า วิ่งสอดปล่อยบอลไหลมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะตัดสินซัดมุมแคบตามน้ำเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก ทว่าเป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมดักรออยู่ก่อนแล้ว รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย

นาที 64

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ดันสูงขึ้นมารับลูกทุ่มทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวไหลนิ่ม ๆ ต้องให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตักโด่งข้ามแนวรับไปอีกฝั่งที่เสาไกลให้ ริยาด มาห์เรซ จับบอลลงหนึ่งที ตามด้วยการลองสับไกเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปเองชนิดมีลุ้น

นาที 70 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เล่นลูกสูตรจ่ายสั้น ๆ ย้อนหลังมาที่มุมกรอบให้กับ ฟิล โฟเด้น ได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่งไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ รูเบน ดิอาส โถมตัวมาโหม่งชงย้อนศรกลับไปที่เสาแรกขวามือถวายพานให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โขกจ่อ ๆ โล่ง ๆ ระยะไม่กี่หลา ส่งบอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย 

นาที 75

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงได้บุกอยู่ฝั่งเดียวอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น ได้เล่นลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ นาธาน อาเก้ สอดมาโหม่งชงกลับไปที่หน้าประตู ทว่าบอลดันพุ่งไปโดนตัวของ แฟร์นานดินโญ่ สุดท้ายเปลี่ยนทางลอยข้ามคาน หลุดออกหลังไปนิดเดียวแค่เท่านั้น

นาที 90 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ เจมส์ แม็คอาตี้ ดาวรุ่งตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เบิ้ลบอลเข้าไปในเขตโทษให้ เลียม ดีแลป ตัวสำรองอีกคน ได้หลุดเข้าไปโดน แกร้นท์ แฮนลี่ย์ ตามมาชนร่วงลงไป ช็อตนี้ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพเรือใบทันที แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รับหน้าที่สังหาร ยิงไปติดเซฟของ แองกัส กันน์ นายทวารเจ้าถิ่น ก่อนที่สุดท้ายบอลจะกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัวได้ซ้ำเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก เป็นแฮตทริกของอดีตดาวรุ่งหงส์แดงรายนี้อีกด้วย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! รั้งอันดับที่ 1 นำโด่งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไป ทัพเรือใบจะเปิดบ้านพบกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้าน นอริช ซิตี้ รั้งอันดับที่ 18 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนลิเวอร์พูล ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา

สนับสนุนบทความโดย ufabet