“สเปน” บุกจนลิ้นห้อย ทำได้แค่เจ๊า “สวีเดน” สุดจืด

การแข่งขัน ระหว่าง ทีมชาติ สเปน กับทีมชาติ สวีเดน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป อี โดยเล่นกันที่สนาม เอสตาดิโอ ลา การ์ตูฆา, เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน ในวันจันทร์ ที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ทีมชาติ สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เอมเมริค ลาป็อร์กต์ ปราการหลังตัวเก่งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โกเก้ มิดฟิลด์ห้องเครื่องจากแอตเลติโก มาดริด และ อัลบาโร่ โมราต้า ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีมจากยูเวนตุส

ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ สวีเดน ภายใต้การคุมทีมของ กุนซือ ยานเน่ อันเดอร์สสัน มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอมิล ฟอร์สเบิร์ก เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกมจากแอร์เบ ไลป์ซิก และมาร์คุส เบิร์ก ดาวยิงตัวเก๋าจากมัลโม่

นาที 7

เปิดฉากมา ก็เป็นทางฝั่งกระทิงดุ ทีมชาติ สเปน ที่ครองบอลบุกใส่ตามสไตล์ และมีโอกาสได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา โกเก้ เปิดโด่งเข้าไปที่กลางประตูเข้สหัว อัลบาโร่ โมราต้า ได้โฉบมาโขกติดบล็อกแนวรับสวีเดน บอลลอยออกมาหน้ากรอบเขตโทษเข้าทาง ดานี่ โอลโม่ ได้ซัดด้วยขวาสวนกลับเข้าไปใหม่ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป

นาที 16

สเปน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โกเก้ ได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงหยอดบอลโด่งข้ามแนวรับไปที่กลางประตูให้ ดานี่ โอลโม่ ได้สอดขึ้นไปโขกกดลงพื้นได้เต็ม ๆ แต่เป็น โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูสวีเดน โชว์ซูเปอร์เซฟ ผวาพุ่งปัดปลายมือไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 23

สเปน ยังคงครองบอลขึงเกมรุกอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษของสวีเดน จังหวะนี้ โกเก้ ได้บอลหน้ากรอบ แล้วพยายามดีดต่อให้เพื่อน แต่ถูก มิคาเอล ลุสติก กองหลังสวีเดน ขวางไว้ได้ บอลกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัว ได้ซ้ำด้วยขวาเน้น ๆ สวนเข้าไปยังประตู แต่บอลก็พุ่งผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาขวาออกไปนิดเดียว ได้ลุ้นสุด ๆ 

นาที 29

สเปน บุกหนักอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ดานี่ โอลโม่ พาบอลพลิ้วหนีผู้เล่นสวีเดน หลุดมาถึงเกือบสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะแล้วตบเข้าไปยังกลางประตูให้ โกเก้ วิ่งมาวางเท้าซัดด้วยขวาเหน่ง ๆ แต่ก็ยังไม่คมพอ บอลพุ่งเหินข้ามคาน ออกไปไกล แบบน่าผิดหวังจริง ๆ

นาที 38

สเปน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เหมือนจะไม่มีอะไร จอร์ดี้ อัลบา ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสบอลข้ามไปในเขตโทษ แล้วเป็น มาร์คุส ดาเนียลสัน กองหลังสวีเดน สกัดบอลผิดเหลี่ยมหลุดมาถึง อัลบาโร่ โมราต้า ได้บอลโล่ง ๆ ที่กลางประตู มีโอกาสได้ยิงด้วยขวาเน้น ๆ ผ่านตัว โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูสวีเดน ไปได้แล้ว แต่บอลหลุดกรอบเสาไกลขวามือ ออกไปอย่างน่าตาเฉย

นาที 41

ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ สวีเดน ที่สวนกลับขึ้นมา และเกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะที่ มาร์คุส เบิร์ก แทงบอลทะลุช่องให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเลี้ยงจี้ไปถึงหน้าเสาแรก แล้วได้หาวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบผ่านตัว อูไร ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน กำลังจะข้ามเส้นเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ มาร์กอส ยอเรนเต้ กองหลังสเปน วิ่งตามลงมาสกัดจากเส้น แล้วบอลไปชนเสาขวาอย่างจัง กระเด้งออกมาเข้ามือ ซิม่อน มือกาวทีมชาติสเปน รับไว้ได้ทัน เกือบไปแล้ว

นาที 45

ช่วงท้ายครึ่งแรก สเปน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ การขึ้นเกมทางกราบซ้ายของ จอร์ดี้ อัลบา ไหลขึ้นหน้ามาให้ ดานี่ โอลโม่ ที่หน้ากรอบเขตโทษ ได้ลากตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก แล้วส่องด้วยขวาเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่ยังไม่มุมพอ โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูสวีเดน โชว์ซุปเปอร์เซฟอีกครั้ง ผวาพุ่งไปปัดบอลกระเด้งออกมาไว้ได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ สเปน ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ และเป็นฝ่ายปูพรมเดินเกมรุกบุกใส่ทีมชาติ สวีเดน อยู่แทบจะฝั่งเดียว ส่วนทางด้านสวีเดน เองก็ยังเอาตัวรอดได้ในจังหวะสำคัญ ๆ สุดท้าย สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 50

เริ่มเกมครึ่งหลังมาแปปเดียว ก็เป็นทางฝั่งทีมชาติ สเปน เหมือนเดิม ที่เดินหน้าบุกใส่ และได้โอกาสลุ้นก่อนทันที เป็นจังหวะ อัลบาโร่ โมราต้า เก็บบอลได้จากความผิดพลาดของแนวรับสวีเดน ได้บอลบริเวณหน้าเสาซ้ายมือ ก่อนจะรีบยิงเร็ว เฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว

นาที 61

สวีเดน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ อเล็กซานเดอร์ อิซัค เก็บบอลได้แล้วพลิกขึ้นมา ลากพาบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะอาศัยความแข็งแกร่ง ครองบอลเบียดกับกองหลังสเปน กระชากแหวกผ่านไปสามคนได้สวย แล้วเปิดเลียดไปยังเสาไกลซ้ายมือให้ มาร์คุส เบิร์ก ได้วิ่งมาชาร์จจ่อ ๆ ระยะเผาขน แต่เจ้าตัวดันโดนบอลไม่ดี ทำหมูหก ปลิ้นหลุดกรอบ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 66

เกมผ่านมาได้ครึ่งทางของครึ่งหลัง ทีมชาติ สเปน โหมบุกหนัก แต่ยังยิงประตูไม่ได้ กุนซืออย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมจากลิเวอร์พูล ลงมาช่วยปั้นเกมรุกแทนที่มิดฟิลด์ตัวรับอย่าง โรดรี้ แถมยังส่ง ปาโบล ซาราเบีย ตัวรุกจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ลงสนามมาแทน อัลบาโร่ โมราต้า ที่วันนี้ใช้โอกาสเปลือง ยิงทิ้งยิงขว้าง ออกไปพักที่ข้างสนามแทน

นาที 73

สเปน พับสนามบุกใส่สวีเดนอย่างหนัก จังหวะนี้ มาร์กอส ยอเรนเต้ เติมสูงขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะครอสบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษเข้าทาง ดานี่ โอลโม่ ได้วางเท้าซัดเต็ม ๆ ตรงกลางประตู บอลพุ่งแรง แต่ก็ยังไปติดบล็อคของกองหลังสวีเดน ที่ยืนขวางกันอยู่เต็มพื้นที่หน้าปากประตู กระเด้งออกมา ต้องตั้งเกมกันใหม่

นาที 80

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม สเปน พยายามโหมบุกอย่างหนัก มีโอกาสพาบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังเจาะแนวรับสวีเดนไม่เข้า สกอร์ตอนนี้ ยังไม่มีวี่แววจะขยับ เสมออยู่เหมือนเดิม 0-0 !!!

นาที 89

สเปน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษของสวีเดน จังหวะนี้ จอร์ดี้ อัลบา เติมเกมสูงขึ้นมารับบอล ทะลุไปถึงสุดเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะตบเลียดเข้ากลางมาให้ เคราร์ด โมเรโน่ ตัวสำรอง ได้สอดเข้ามาดีดบอลเร็วติดบล็อกกองหลังสวีเดนอีกครั้ง แต่สุดท้าย ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 90

สเปน เกือบได้ประตูชัย เป็นจังหวะ ปาโบล ซาราเบีย ตัวสำรอง พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ เคราร์ด โมเรโน่ ตัวสำรองอีกคน ได้โฉบมาโหม่งสะบัดเต็ม ๆ ระยะไม่ถึง 5 หลา แต่ทว่า โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูสวีเดน ยังคงซุปเปอร์เซฟ ล้มตัวใช้ขาสกัด เคลียร์ทิ้งไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 90+2

สเปน ยังคงไม่ย่อท้อ จังหวะนี้ เคราร์ด โมเรโน่ ได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวา โยกหาเหลี่ยม แล้วได้จังหวะปั่นบอลด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปที่เสาไกลซ้ายมือ แต่บอลก็ยังโค้งไม่พอ ผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาออกไปนิดเดียว น่าหวาดเสียวสุด ๆ

นาที 90+3

สเปน ขึ้นมาอยู่ที่หน้าประตูสวีเดนกันทั้งแผง จังหวะนี้ จอร์ดี้ อัลบา พาบอลทะลุไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่เสาไกลให้ ปาโบล ซาราเบีย ได้วิ่งมาซัดด้วยขวาโล่ง ๆ แต่บอลไปโดนหน้าแข้งเจ้าตัว กระเด้งไปที่หน้าประตูเข้าทาง โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูสวีเดน รับไว้ได้สบาย

นาที 90+6

สเปน ได้ลุ้นเฮือกสุดท้ายของเกม จากจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ติอาโก้ อัลกันตาร่า เปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ เคราร์ด โมเรโน่ ได้ขึ้นโขกคนเดียวเต็ม ๆ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมชาติ สเปน ประเดิมสนาม ทำได้แต่เสมอกับทีมชาติ สวีเดน ไปแบบจืดชืด 0-0 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะพบกับทีมชาติ โปแลนด์ ในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน ส่วนทางด้าน สวีเดน รั้งอันดับที่ 2 ของตารางร่วมกัน นัดต่อไปจะพบกับทีมชาติ สโลวาเกีย ในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน ที่จะถึงนี้