เกมการแข่งขัน ระหว่าง ขุนพลตราไก่ ทีมชาติ ฝรั่งเศส กับ ขุนพลแดนนาฬิกา ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเล่นกันที่สนาม อารีน่า นาติโอนาล่า, เมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวรับจอมขยันจากเชลซี อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวทำเกมจากบาร์เซโลน่า และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวปิดบัญชีจากเรอัล มาดริด
ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 เช่นกัน นำทีมโดย กรานิต ชาก้า กองกลางห้องเครื่องจากอาร์เซน่อล เชอร์ดาน ชากิรี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ดจากลิเวอร์พูล และ บรีล เอ็มโบโล่ ศูนย์หน้าตัวความหวังจากโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
นาที 2
เริ่มเกมมา เป็นทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย อองตวน กรีซมันน์ เปิดโด่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ราฟาแอล วาราน ได้ขึ้นโขกเน้น ๆ แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไป
นาที 14 GOAL!!!
ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะ บุกขึ้นมาที่หน้าเขตโทษ ฮาริส เซเฟโรวิช ได้ซัดไกลด้วยขวานอกกรอบติดบล็อกของ เกลม็อง ล็องเล่ต์ กระดอนออกมาที่มุมกรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้าทาง สตีเว่น ซูเบอร์ ได้เลี้ยงจี้เข้าหา เบนฌาแม็ง ปาวาร์ สับขาหลอก แล้วตักบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ ฮาริส เซเฟโรวิช ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเต็ม ๆ บอลพุ่งลงพื้นหนีมือ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส เบียดเสียบเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 22
ฝรั่งเศส บุกขึ้นมาทางซ้าย อาเดรียง ราบิโอต์ ทำชิ่งหลุดขึ้นมาได้สวยถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะบรรจงครอสบอลโด่งไปที่เสาไกล กำลังจะถึง คาริม เบนเซม่า ที่ตั้งป้อมรอซัดจ่อ ๆ อยู่แล้ว แต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ อ่านเกมได้ดี ออกมาตัดบอลไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 25
ฝรั่งเศส มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ขออาสา วิ่งมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ ติดกำแพง กระดอนกลับมาเข้าทางเจ้าตัว ได้ตะบันด้วนขวาเต็มข้อ สวนกลับเข้าไปใหม่ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด เฉียดเสาไกลขวามือไปนิดเดียว
นาที 29
ทีมชาติ ฝรั่งเศส เริ่มตั้งเกมได้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของสวิตเซอร์แลนด์ จังหวะนี้ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้ส่องไกลด้วยซ้ายเต็มข้อ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดและติดส่าย พุ่งหลุดเสาขวามือ ออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาที 40
ช่วงท้ายครึ่งแรก ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส รูปเกมยังดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่ก็ยังไม่สามารถ เจาะแนวรับเข้ายิงประตูตีเสมอในพื้นที่สุดท้ายได้ สกอร์ยังเท่าเดิมอยู่ ฝรั่งเศส 0 สวิตเซอร์แลนด์ 1 !!!
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นทางฝั่งทีมชาติ ฝรั่งเศส ที่เป็นฝ่าย ปูพรมเดินเกมรุกบุกใส่ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังตีเสมอไม่สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ สวิตเซอร์แลนด์ นำ 1-0 !!!
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ ฝรั่งเศส ที่ปรับเปลี่ยนแผนก่อนเลย โดย ดิดิเย่ร์ เดสล็องป์ส แก้เกมด้วยการส่ง คิงสลี่ย์ โคมัน ปีกตัวจี๊ดจากบาเยิร์น มิวนิค ลงมาเล่นแทน เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ กองหลังที่ครึ่งแรก มีจังหวะเล่นผิดพลาดอยู่หลายครั้ง
นาที 54 จุดโทษ!!!
สวิตเซอร์แลนด์ สวนกลับขึ้นมาทางซ้าย สตีเว่น ซูเบอร์ กระชากหนี เบนฌาแม็ง ปาวาร์ กำลังจะได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน ปาวาร์ ตามมาสไลด์ขวางล้มลงไป ผู้เล่นสวิตเซอร์แลนด์ โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ สุดท้าย ผู้ตัดสินรอเกมหยุด แล้วขอไปเช็ค VAR ด้วยตัวเองอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะกลับลงมา เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของสวิตเซอร์แลนด์ทันที แล้วเป็น ริคาร์โด้ โรดริเกซ รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไม่ดีไปติดเซฟของ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส ที่พุ่งถูกทาง ช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน
นาที 55
ฝรั่งเศส ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของสวิตเซอร์แลนด์ จังหวะนี้ พอล ป็อกบา ได้บอลแล้วเลี้ยงจี้มาที่หน้าเขตโทษ ทำท่าจะง้างเท้ายิง แล้วไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่รออยู่ ได้เอี้ยวตัวบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวยกระดอนพื้น เฉียดเสาไกลขวามือไปนิดเดียว น่าเสียดายสุด ๆ
นาที 57 GOAL!!!
ฝรั่งเศส มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ เริ่มที่ อองตวน กรีซมันน์ เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางขวา ก่อนจะจ่ายยัดมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้จับหนึ่งที แล้วแทงบอลทะลุช่องให้ คาริม เบนเซม่า ได้หลุดเข้าไปเกี่ยวบอลด้วยขวาได้สวยที่กลางประตู ก่อนจะจิ้มบอลเร็วด้วยซ้าย สวนตัว ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 59 GOAL!!!
ฝรั่งเศส มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ อองตวน กรีซมันน์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้ลากหลุดเข้าไปถึงหน้าเสาแรกฝั่งซ้าย ก่อนจะตักบอลโด่งข้ามนายทวารไปที่หน้าเสาไกลขวามือถวายพานให้ คาริม เบนเซม่า ได้สอดมาโขกจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 75 GOAL!!!
ฝรั่งเศส มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะ คิงสลี่ย์ โคมัน ลากจี้ขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะไหลมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ คาริม เบนเซม่า ปั่นด้วยขวานอกกรอบไปติดบล็อกแนวรับสวิตเซอร์แลนด์ กระดอนมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง พอล ป็อกบา ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ เสียบสามเหลี่ยมขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงามสุด ๆ
นาที 81 GOAL!!!
สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 3-2 !!! เป็นจังหวะ บุกขึ้นมาทางกราบขวา เควิน เอ็มบาบู ตั้งป้อมบรรจงเปิดปั่นไซด์อย่างสวยไปที่กลางประตูให้ ฮาริส เซเฟโรวิช ได้โฉบมาโหม่งเต็ม ๆ จ่อ ๆ ระยะเผาขน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส
นาที 85
สวิตเซอร์แลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ลากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะกดเลียดเน้น ๆ นอกกรอบพุ่งไปที่เสาแรกซ้ายมือไปเข้าทาง มาริโอ กาฟราโนวิช ได้จับก่อนที่เจ้าตัวจะจิ้มจ่อ ๆ เข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสิน เป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน เกือบไปแล้วสำหรับฝรั่งเศส
นาที 89 GOAL!!!
ทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 !!!! เป็นจังหวะจากความผิดพลาดของ พอล ป็อกบา ที่ไปเสียบอลตรงกลางสนาม กรานิต ชาก้า แทงบอลทะลุช่องมาที่หัวกระโหลกให้ มาริโอ กาฟราโนวิช ได้ล็อกหลบ เพรสแนล คิมเปมเบ้ ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ หนีมือ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส เสียบโคนเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 120
เกมเล่นกันอย่างสุดมันส์ แต่ไม่มีใครทำอะไรกันได้ ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที แต่ก็ยังหาผู้ชนะไม่ได้ สุดท้าย ดวลจุดโทษ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดโดน ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์เซฟได้ ทำให้ สวิตเซอร์แลนด์ เอาชนะฝรั่งเศส จากการดวลจุดโทษไป 5-4 !!!
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ฮึดตามตีเสมอทีมชาติ ฝรั่งเศส ในช่วงท้ายเกม ก่อนจะเสมอในเวลา 3-3 !!! ต้องดวลจุดโทษ แล้วเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ที่ยิแม่นกว่า เอาชนะไปได้ 5-4 !!! ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับ สเปน ในวันศุกร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้