จอห์น วิค อดีตหัวหน้าแมวมอง โมลด์ เปิดเผยว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ติดต่อหา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อแนะนำ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ให้พวกเขารู้จักตั้งแต่สมัยค้าแข้งในนอร์เวย์ และชี้ว่าหลายสโมสรในอังกฤษพลาดไปเพราะมองเขาเป็นเพียงแค่หน้าเป้าร่างใหญ่
ปัจจุบัน ฮาลันด์ เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และผ่านการยิงไปแล้ว 12 ประตูจาก 7 เกมนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลนี้ ซึ่งรวมถึงการกดแฮตทริกสองนัดติด
ก่อนหน้านั้นเขาค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีก้าและมีผลงานเยี่ยมเช่นกัน ด้วยการยิงไป 86 ประตูจาก 89 เกม
ฮาลันด์ สร้างชื่อให้ตัวเองในสมัยเล่นกับ ซัลซ์บวร์ก และยังประสบความสำเร็จตอนค้าแข้งกับ โมลด์ ก่อนหน้านั้น ซึ่งเขาได้ลงสนามไป 50 เกมภายใต้การคุมทีมของ โซลชาร์
วิค เปิดเผยว่าเขาและ โซลชาร์ ต่างมีความเห็นต่อ ฮาลันด์ ไปในทางเดียวกันและอดีตหัวหอกก็ติดต่อหา แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมเก่าของเขาเพื่อเล่าเรื่องเด็กรายนี้ให้ฟัง
“ผมกับ โอเล่ เข้าใจดีว่าเด็กคนนี้เก่งมากถึงขนาดที่เราไม่มีทางรั้งเขาไว้ โอเล่ เห็นพ้องกับทุกอย่าง” วิค เผยกับ the Athletic
“เขาบอกว่า ‘ผมจะโทรไปหาพวกเขา พวกเขาต้องทราบเรื่องของเด็กคนนี้'”
“เรามีเพื่อนอยู่ที่ ยูไนเต็ด ผมเคยทำงานกับ ยูไนเต็ด อย่างใกล้ชิดในช่วงต้นยุค 2000 และคนที่ผมรู้จักส่วนใหญ่ก็ออกจากทีมไปหมดแล้ว”
“แต่ โอเล่ ก็คือ โอเล่, ผมบอกเขาว่า ‘โทรหานิคกี้ บัตต์สิ (เป็นหัวหน้าอคาเดมี่ตอนนั้น) หรือใครสักคนก็ได้, เพราะเด็กคนนี้เหลือเชื่อมาก'”
“เราโทรหาตั้งแต่ก่อน เออร์ลิ่ง จะได้ลงสนามให้กับ โมลด์ อย่างสม่ำเสมออีกนะ โอเล่ โทรไปหาพวกเขา ดังนั้นชื่อของนักเตะไปถึงหูพวกเขาแล้ว หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำยังไงต่อหรือสนใจหรือไม่, ผมไม่ทราบ”
นอกเหนือจากนี้ วิค ยังบอกว่าหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกมองข้ามดาวยิงวัย 22 ปีในเวลานั้น เนื่องจากถูกมองเป็นเพียงแค่กองหน้าเป้าร่างใหญ่
“บางสโมสรในอังกฤษมีมุมมองอย่างนึงอยู่เสมอ นั่นคือกองหน้าเป็นแบบนี้, และเซ็นเตอร์แบ็คเป็นอย่างนี้, คุณตีกรอบให้กับบทบาทนั้นๆ”
“พอพวกเขาเห็นกองหน้าร่างใหญ่แบบ เออร์ลิ่ง พวกเขามองเขาเป็นกองหน้าตัวเป้าและพวกเขาลืมไปว่า เออร์ลิ่ง ทำอะไรได้อีกบ้าง”
“ลิเวอร์พูล มีโอกาสคว้าตัวเขา, อาร์เซน่อล มีโอกาสคว้าตัวเขา ทุกคนไปชมเขาลงสนามแต่สโมสรเหล่านี้เห็นกองหน้าร่างใหญ่ตัวโตและคิดว่า ‘เขาต้องเป็นหน้าเป้าแน่ๆ’ ผมไม่มีทางเข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงมองเขาเพียงแค่นั้น”
“ผมไม่ชอบเห็นเขาเล่นด้วยการหันหลังให้ประตู, ในตอนนั้น, เขาแย่งโหม่งไม่ได้เลย ผมชอบในตอนที่เขาพลิกตัว, ตอนที่เขาหาพื้นที่, ตอนที่เขาวิ่งทะลุช่อง, การเคลื่อนที่ในกรอบเขตโทษ เขาไม่อยากพักบอล, เขาแค่อยากพลิกตัวแล้ววิ่งไป”
“จะมีหลายสโมสรที่ต้องโทษตัวเอง เพราะตอนนี้เราเห็นกันหมดแล้วว่าเขาเก่งขนาดไหน”