อยากให้รักกลับมา ณ ที่นี้อีกครั้ง (2000) Sausalito

Untitled06391

ระหว่างดูหนัง Sausalito เรื่องนี้ ใจก็คิดไปครับว่า “สมัยนี้ หนังรักโรแมนติกแบบนี้ มีน้อยจัง”

เรื่องนี้เป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของ หลี่หมิง และ จางม่านอวี้ หลังจากที่เคยมาเล่นคู่กันแล้วดังแบบสุดๆ ไปกับเรื่อง เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว โดยเรื่องนี้ก็มาในแนวโรแมนติกครับ เหตุเกิดในซานฟรานซิสโก เมื่อไมค์ (หลี่หมิง) โปรแกรมเมอร์อนาคตไกลได้มาเจอกับ เอลเลน (จางม่านอวี้) แม่ม่ายสาวลูกติดที่ทำมาหากินโดยการขับแท็กซี่ แล้วพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กันในค่ำคืนหนึ่งครับ

จากนั้นพวกเขาก็ได้เจอกันอีกเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความผูกพัน แต่อันว่าความรักนั้นย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป มันย่อมมีอุปสรรคหรือความไม่เข้าใจกัน ซึ่งพวกเขาจะจับมือกันผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปได้หรือไม่ คำตอบก็มีอยู่ในหนังแล้วครับ

ตัวหนังจัดว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แน่นอนว่าความลึกซึ้งจะไม่ได้มากเท่ากับเถียน มี มี่ โทนหนังเป็นแนวรักโรแมนติกแบบสูตรนิยม ตัวเอกเจอกัน รักกัน หวานกัน ปรับตัวเข้าหากัน มีปัญหากัน แล้วคนดูก็ต้องมาลุ้นกันว่าพวกเขาจะแก้ปัญหากลับมารักกันได้ไหม ซึ่งผมว่าเราๆ ก็เดาตอบจบได้ไม่ยากน่ะนะครับ บอกได้เลยว่าท่านเดายังไงก็ลงเอยยังงั้นแหละ 555

ความดีของหนังต้องยกให้ 2 ดารานำครับ ทั้ง หลี่หมิง และ จางม่านอวี้ แสดงได้ดีทั้งคู่ อย่าง หลี่หมิง ก็ถ่ายทอดความเป็นผู้ชายที่จริงจังกับงานแต่ไม่ใคร่จะจริงจังในเรื่องความรัก ชอบทำอะไรเล่นๆ ไปเรื่อย (ซึ่งในหนังจะมีการอธิบายปมพ่อพวงมาลัยของเขาอีกที) ในขณะที่จางม่านอวี้ก็เป็นผู้หญิงที่เคยประสบพบความผิดหวังในเรื่องหัวใจมาก่อน เวลาจะเริ่มต้นรักใครก็อดไม่ได้ที่จะระวังตัว แต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นคนที่จริงจังหนักแน่น รักใครรักจริง ทำให้เมื่อเธอรู้สึกผูกพันกับใครแล้วก็จะทำหน้าที่คนรักของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งด้วยความรักที่หนักแน่นอันนี้ของเธอก็ทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจยามที่เธอต้องเจอกับเรื่องเจ็บช้ำ และอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้เธอได้พบกับบทสรุปความรักที่ดีน่ะครับ อันนี้ยอมรับเลยว่าจางม่านอวี้เล่นได้น่ารักมากจนผมมั่นใจเลยว่าหลายคนต้องตกหลุมรักเธอแน่นอนครับ

Untitled06390

อีกคนหนึ่งที่ผมชอบมากๆ คือ Richard Ng (อู๋เย่าฮั่น) ในบทพ่อบุญธรรมของไมค์ ซึ่งเขาเล่นบทนี้ได้อย่างพอดีมากๆ ครับ ดูมีความเอืิ้ออาทร มีความอ่อนโยน อบอุ่น น่ารัก เป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียวกัน ยิ่งเวลาที่เขาเข้าฉากกับ จางม่านอวี้ นี่ฝีมือการแสดงของทั้งคู่เสริมกันและกันจนทำให้ฉากนั้นดูมีความหมายขึ้นมาทันทีเลย

นอกจากความดีของนักแสดงแล้ว ก็ต้องชมงานภาพด้วยครับ หนังไปถ่ายทำกันที่ซานฟรานจริงๆ ก็มีภาพสวยๆ ตามมุมต่างๆ ของเมืองมาใส่ลงในหนังได้อย่างพอเหมาะ ช่วยเสริมอารมณ์ความโรแมนติกให้กับหนังได้อย่างน่าพอใจ (แต่มันอาจจะไม่ถึงกับสวยมาก คมมากเท่ากับหนังสมัยใหม่น่ะนะครับ) อีกอันที่ชอบคือเพลงประกอบครับ แต่ละเพลงเลือกใส่ลงมาได้ดีทีเดียว

ครับ ดาราดี ภาพดี ดนตรีดี พล็อตในส่วนเรื่องราวความรักของพระ-นางก็จัดว่าโอเค เพียงแต่จะไม่ได้ลึกอะไรมากนัก อะไรๆ ก็ไม่เกินคาดเดา และส่วนที่ยังพร่องสักหน่อยคือจังหวะการเดินเรื่องที่อาจจะมีช่วงอืดช้าบ้าง การบิ้วอารมณ์ในบางจังหวะก็อาจจะยังไม่สุดบ้าง เลยทำให้หนังถือว่าดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แต่ยังไม่ถึงกับเด็ดดวงห้ามพลาดครับ

จริงๆ หนังก็ไม่ได้สุดยอดอะไรน่ะครับ แต่ผมยอมรับนะว่าการเอามาดูอีกรอบในหนนี้มันรู้สึกดีกับหนัง ส่วนหนึ่งอาจเพราะมันเป็นความรู้สึกจริงๆ ที่อยู่ภายในว่าหนังรักทำนองนี้มันมีน้อยลงเรื่อยๆ เลยทำให้การเอาหนังเรื่องนี้มาดูอีกครั้ง มันเหมือนว่าเราได้เติมเต็มอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป ความรู้สึกที่มีต่อหนังมันเลยเป็นเชิงบวก ทั้งที่ตัวหนังจริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนักก็ตาม

ดูท่าผมจะคิดถึงและโหยหาหนังสมัยก่อนจริงๆ แฮะ ^_^

สองดาวครับ

Star21

(6/10)