เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูลเปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนทัพปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 12 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ติอาโก้ อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชี
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย เอมิล สมิธ โรว์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม บูคาโย่ ซาก้า มิดฟิลด์ตัวทำเกมริมเส้น และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ศูนย์หน้าดาวยิงประจำทีม
นาที 10
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะเจอกับการเพลสซิ่งสูงของทีมเยือน อาร์เซน่อล ทำให้เล่นกันลำบากก็ตาม โดยจังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แต่งหาช่องที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ เสียดายโดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลหลุดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปไกล
นาที 13
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย คอสตาส ซิมิกาส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค สอดขึ้นมาเทคตัวขึ้นโหม่งแต่โดนเบียดทำให้โขกไม่ค่อยถนัด ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไป
นาที 17
ทีมเยือน อาร์เซน่อล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ทาเคฮิโระ โทมิยาซุ ดันสูงเติมเกมขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูเลย เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ไปเข้าทาง บูคาโย่ ซาก้า ได้โขกเน้น ๆ ทว่าเป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน แหย่ขามาบล็อกทีมเก่า ช่วยทีมใหม่เอาไว้ได้ทัน
นาที 29
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมขึ้นมาตั้งป้อมครอสบอลโค้งจากฝั่งขวา ข้ามฟากแฉลบไปเข้าทาง ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่เสาไกล ได้หวดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ทว่าเป็น แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ได้ซ้ำอีกรอบก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือนายทวารทัพปืนโต เซฟออกหลังไปอีก
นาที 31
ทีมเยือน อาร์เซน่อล เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เอมิล สมิธ โรว์ ดึงจังหวะไหลบอลคืนให้ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปที่กลางประตูถวายพานให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ซัดง่าย ๆ เข้าประตูไป ทว่าไลน์แมนดันยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า เฮเก้อกันไปสำหรับสาวกไอ้ปืนใหญ่
นาที 33
เกมต้องหยุดชะงักไปนิดนึง เมื่อข้างสนาม มีการปะทะกันระหว่างกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ และ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งเกิดจากความไม่พอใจในจังหวะทำฟาล์วของ ซาดิโอ มาเน่ จนต้องมีคนมาช่วยกันไว้ สุดท้ายผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ต้องแจกใบเหลืองให้กับทั้งคู่ เพื่อสงบสติอารมณ์
นาที 35
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล น่าจะประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ซาดิโอ มาเน่ แทงทะลุช่องให้ คอสตาส ซิมิกาส เติมสูงสอดขึ้นมาเอาบอล หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหักย้อนเข้าไปที่กรอบ 6 หลาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้โอกาสซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่ดันไปตรงตัวของ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาเซฟกระดอนมาเข้าทางศูนย์หน้าอียิปต์เกือบได้ซ้ำอีกครั้ง ยังดีที่ โธมัส ปาร์เตย์ ตามมาหวดสกัดทิ้งได้ทัน
นาที 37
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ติอาโก้ อัลคันทาร่า รับบอลมาแล้วจ่ายตามช่องให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลากจี้ขึ้นมาโยกหนีคู่แข่งทะลุเข้าไปถึงบริเวณหน้าจุดโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เจ้าเก่า ยังคงเหนียวหนึบ พุ่งไปปัดปลายมือออกหลังได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นเตะมุม
นาที 39 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนามฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาไกล แล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ โฉบมาที่จุดนัดพบ ได้ตั้งคอโหม่งกดลงพื้นเน้น ๆ ส่งบอลกระเด้งพื้นย้อนศรผ่านมือ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาขวามือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 43
ทีมเยือน อาร์เซน่อล ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จังหวะนี้ บูคาโย่ ซาก้า ลากบอลขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวเลี้ยงแหวกตัดเข้ากลาง ก่อนจะจ่ายให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ แต่ดันลื่นบอลเลยไปเข้าทาง แซมบี โลก็องก้า วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบอ้อมบล็อกของ โฌแอล มาติป ทว่ายังพุ่งไปตรงตัวของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 68-32 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายโหมบุกใส่ทีมเยือน อาร์เซน่อล อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมได้ประตูออกนำไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 1 อาร์เซน่อล 0 !!!
นาที 49
เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่เดินเครื่องบุกจู่โจมทันที จังหวะนี้ ฟาบินโญ่ ตัดบอลจาก แซมบี โลก็องก้า ได้แล้วสวนกลับเร็วจ่ายให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ได้ลากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งโค้งน้อยไปหน่อย สุดท้ายถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 52 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของ นูโน่ ตาวาเรส แบ็คซ้ายอาร์เซน่อล ที่พยายามเล่นลูกยากเลี้ยงหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ มาได้แล้วตามด้วยตวัดกลับหลังไม่ดู กลายเป็นส่งถวายพานไปให้ ดิโอโก้ โชต้า ที่หัวกระโหลก ได้แตะเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะล็อกหลบ เบน ไวท์ ไปหนึ่งต่อด้วยแตะหลบ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน แล้วซัดโล่ง ๆ ด้วยซ้ายเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
นาที 57
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ยังคงทำได้ดีกว่า บุกขึ้นมาได้ลุ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ดิโอโก้ โชต้า โหม่งบอลตั้งมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ตวัดยิงเน้น ๆ ติดเซฟของ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดออกมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้ปรี่มาซ้ำก็ยังไม่ผ่านมือของนายทวารทีมชาติอังกฤษ ป้องกันเอาไว้ได้ทันอีกครั้ง ทว่าไลน์แมนยกธงตามหลังขึ้นมาทันควัน ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 58
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน แย่งบอลมาจาก เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์ ไนล์ส แล้วสวนกลับเร็วไหลออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เบิ้ลเร็วเข้ากลางให้ ดิโอโก้ โชต้า จับบอลห่างตัวทำให้ต้องตามไปจิ้มบอลแล้วปะทะกับ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน อย่างแรงเจ็บทั้งคู่ แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อกันได้ไม่มีปัญหา
นาที 65
ทีมเยือน อาร์เซน่อล ได้ออกหมัดบ้าง จังหวะนี้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ถ่างออกมาเกผ้บบอลทางกราบขวา เจ้าตัวแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับโค้ง ๆ อย่างสวยให้ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง วิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงตามน้ำด้วยขวาทันที ทว่าเป็น อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวใช้ขาเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 68
เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูเพิ่มแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ สวนกลับเร็วแล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้บอลกระชากหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษขวา เจ้าตัวจ่ายดีดไซด์ก้อยเข้าไปที่กลางประตูให้ ดิโอโก้ โชต้า วิ่งสอดมาแปด้วยซ้ายเล่นทางเน้น ๆ ทว่าเป็น แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เจ้าเก่า โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดปลายมือออกหลังเอาไว้ได้ทันอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 73 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ เกมสวนกลับเร็วแล้ววางยาวขึ้นมาให้ ดิโอโก้ โชต้า โหม่งเช็ดทะลุช่องต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้กระชากหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสถวายพานเข้าไปที่หน้าประตูโล่ง ๆ ให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ชาร์จจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ไม่มีพลาด
นาที 75
ทีมเยือน อาร์เซน่อล เกมรุกตื้อไปเลยดื้อ ๆ ทำยังไงก็เจาะแนวรับหงส์แดงไม่เข้า จังหวะนี้ โธมัส ปาร์เตย์ พลิ้วหลอก ฟาบินโญ่ หลุดขึ้นมาที่หน้าเขตโทษได้สวย ก่อนจะขอลองปั่นไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ระยะกว่า 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ขอโชว์ความเหนียวบ้าง บินปัดข้ามคานออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 77 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ สวนกลับอีกแล้วเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวมาที่หัวกระโหลกให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ครองบอลดึงจังหวะม้วนส่งสั้น ๆ ให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้แทงทะลุช่องเร็วเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาถึง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมสูงวิ่งสอดมาครอสเลียดถวายพ่นไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ซัดจ่อ ๆ สัมผัสแรก เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน อาร์เซน่อล ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเซาธ์แฮมป์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอาร์เซน่อล อยู่อันดับที่ 5 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับนิวคาสเซิ่ล ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา