เกป้าช่วยเซฟ! “เชลซี” เสมอ “บียาร์เรอัล” ก่อนจะดวลโทษ คว้าแชมป์ซุปเปอร์ คัพ

เกมการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ระหว่าง ทัพสิงโตน้ำเงินคราม ทีม เชลซี (อังกฤษ) กับทัพเรือดำน้ำ ทีม บียาร์เรอัล (สเปน) โดยเล่นกันที่สนาม วินด์เซอร์ ปาร์ค, ประเทศไอร์แลนด์เหนือ (สนามกลาง) เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 11 สิงหาคม 2564

เกมนี้ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวรับพลังไดนาโม ฮาคิม ซีเย็ค เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าความเร็วสูง

ขณะที่ทางฝั่ง บียาร์เรอัล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อูไน เอเมรี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เปา ตอร์เรส ปราการหลังตัวเก่ง เอเตียน กาปู กองกลางห้องเครื่อง และ เคราร์ด โมเรโน่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 5

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนาม ก่อนแทงบอลให้ไหล มาร์กอส อลอนโซ่ เบียดเอาชนะ เยเรมี ปิโน หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางไปให้ ติโม แวร์เนอร์ กำลังจะได้ซัดเหน่ง ๆ อยู่แล้ว แต่กองหลังบียาร์เรอัล ตามลงมาช่วยสกัดทิ้งได้ทัน ได้เป็นเตะมุม

นาที 6

จังหวะต่อเนื่อง ทีม เชลซี ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ฮาคิม ซีเย็ค เปิดบอลโด่ง โค้งเข้าหาประตู ลอยไปตรงหน้าปากประตู แล้วเป็น ติโม แวร์เนอร์ ได้สอดมาดีดด้วยซ้ายจ่อ ๆ ระยะประมาณไม่ถึง 6 หลา แต่บอลไม่หนีตัวเท่าไหร่ เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล ปัดทิ้งได้ทันหวุดหวิด

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 9

เชลซี ยังคงได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เก็บตกบอลแถวสองได้ที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด เฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว แบบได้ลุ้น

นาที 19

เชลซี บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ มาเตโอ โควาซิช  แทงบอลทะลุช่องให้ ฮาคิม ซีเย็ค สปีดขึ้นมาเอาบอล หลุดขึ้นมาที่กรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะโยกหาเหลี่ยม แล้วโยนปั่นไซด์ด้วยซ้าย โค้งเข้าหาประตู ลึกไปที่เสาไกลให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่กำลังรอซัดโล่ง ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล ยังอ่านเกมได้ดี พุ่งออกมาตัดบอลกลางทาง คว้าเอาไว้ได้ทัน

นาที 27 GOAL!!!

หลังจากบุกอยู่นาน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี มาได้ประตูนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดบอลขนานเส้นข้างซ้ายขึ้นไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้สปีดไปเอาบอล หลุดมาที่ริมกรอบเขตโทษ ก่อนจะตวัดเข้ากลาง ฮาคิม ซีเย็ค ได้ปรี่มาที่จุดนัดพบ ซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลกระเด้งพื้นข้ามมือ เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 29

โอกาสครั้งแรกของ บียาร์เรอัล ที่ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ สวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง แล้วเป็น อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะได้ลองส่องหน้าด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย

นาที 31

เรือดำน้ำ บียาร์เรอัล ได้บุกอีกทีติด ๆ กัน จังหวะนี้ มานู ตริเกรอส หยอดบอลโด่งเข้าไปลุ้นในเขตโทษ แล้วเป็น เยเรมี ปิโน ได้สอดมายิงด้วยขวา แต่โดนไม่ค่อยเต็ม บอลกระดอนพื้นแล้วลอยเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซี รับเข้าซองไว้ได้สบาย

นาที 33

บียาร์รีล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฮวน ฟอยธ์ ดันเกมสูง เติมขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงตามช่องให้ บูราย เดีย ได้วิ่งสอดทะลุ หลุดเข้าไปตรงกลางประตู ก่อนจะซัดเร็วด้วยขวา ทั้งเบาและไม่หนีมือเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซี ล้มตัวเซฟไว้ได้ทัน

นาที 35 

เชลซี เกือบมาได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ฮาคิม ซีเย็ค สปีดหลุดขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดเข้ามาที่หน้าเสาแรกให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้วิ่งสอดขึ้นมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงน่ากลัวเกือบเบียดเสาเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาล้มตัวพุ่งไปปัดไว้ได้ทันเฉียดฉิว

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 36

เชลซี กลับมาครองเกมอีกครั้ง จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ฮาคิม ซีเย็ค บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น เคิร์ต ซูม่า วิ่งสอดมาสไลด์ชาร์จบอลด้วยขวาสุดเหยียด ระยะแค่ไม่กี่หลา บอลแรงก็จริง แต่บังคับทิศทางได้ไม่ดี ลอยข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 43

เชลซี ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก แถมยังเป็น ฮาคิม ซีเย็ค เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ที่กำลังเข้าฟอร์มสุด ๆ ในช่วงปรีซีซั่น ซึ่งเจ้าตัวเกิดมีปัญหาบาดเจ็บที่ไหล่ เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวออก แล้วส่ง คริสเตียน พูลิซิช ลงมาแล่นแทน

นาที 45+3

บียาร์เรอัล น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เคราร์ด โมเรโน่ ตามมาเก็บบอลได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะใช้ตัวบัง แล้วหาช่องเปิดบอลโด่งมาที่เสาไกลให้ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ที่วิ่งสอดเติมเข้ามาหน้าเสาซ้ายมือ ได้กดด้วยขวาบอลเต็มข้อ พุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีม เชลซี ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกบุกใส่ทีม บียาร์เรอัล ได้อย่างต่อเนื่อง สุดท้าย ฮาคิม ซีเย็ค ทำให้สิงห์บลู ออกนำไปก่อนแล้ว 1-0 !!!

นาที 48

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีม เชลซี ที่ได้บุกใส่ทันที จังหวะนี้ มาร์กอส อลอนโซ่ แทงบอลขึ้นหน้ามาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ลากจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะเห็นช่อง แล้วซัดเร็วด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที บอลพุ่งน่ากลัว แต่ก็เฉียดเสา เข้าหน้าต่างข้างตาข่ายเต็ม ๆ หลุดออกหลังไป

นาที 52

บียาร์เรอัล พลาดได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะเริ่มจาก เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซี ที่เสียหลักลื่น เตะเปิดบอลขึ้นมาไม่ดี บูลาย เดีย เก็บได้ก่อนจะแทงบอลเร็วให้ เคราร์ด โมเรโน่ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ติดปลายมือของนายทวารสิงห์บลูนิดนึง พุ่งกระดอนพื้นไปชนเสาไกลด้านซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 54

เชลซี สวนกลับมาได้บุกบ้าง จังหวะนี้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เติมเกม ดันสูงขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ รับบอลมาจาก มาเตโอ โควาซิช ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรง แต่ก็ยังเหินข้ามคานออกไปอยู่ดี ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 68

บียาร์เรอัล ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ เยเรมี ปิโน หลุดมาทางกราบขวา ไหลมาที่หน้าเขตโทษตรงกลางให้ เคราร์ด โมเรโน่ ไหลเร็วเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายตั้งให้ เปร์วิส เอสตูปิญญาน ที่เติมเกมขึ้นมา ได้วิ่งมาซัดด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรก แต่ยังเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซี ที่ยืนปิดมุมอยู่ ล้มตัวใช้ขาสกัดบอลออกมาได้ทัน

นาที 73 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน บียาร์เรอัล มาได้ประตูตีเสมอจนได้ 1-1 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ที่ออกบอลจากแดนหลังไม่ดีถูก มาริโอ กัสปาร์ ดักบอลเอาไว้ได้ ก่อนจะไหลสั้น ๆ ออกขวาไปที่ เคราร์ด โมเรโน่ ได้ทำชิ่ง 1-2 กับ บูลาย เดีย หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ ในเขตโทษฝั่งขวาบริเวณหน้าเสาขวามือ บอลพุ่งแรงสวนตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเชลซี เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 76

เชลซี ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ เมสัน เม้าท์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนจะกระชากตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ หาช่องซัดเองด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อก ลอยเข้ามือ เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล รับไว้ได้สบาย

นาที 84

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เชลซี โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ มาเตโอ โควาซิช พาบอลลุยขึ้นมาเองทางขวา ก่อนจะครอสเข้าไปในเขตโทษให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้โฉบมาเทคตัวโหม่งบอลเหน่ง ๆ แต่บอลไม่ห่างตัวเท่าไหร่ เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล รับไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น 

นาที 90+4

ก่อนหมดเวลา เชลซี บุกขึ้นมาทางกราบขวา อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เติมสูงขึ้นมารับบอล ก่อนจะสาดบอลโด่งไปที่เสาไกลซ้ายมือ แล้วเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ ที่วิ่งสอดขึ้นไปที่จุดนัดพบ ได้หวดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายเสมอกันไป 1-1 !!! ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

นาที 100

เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมา ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดขึ้นมาทางกราบขวา ตบเข้ากลางให้ เมสัน เม้าท์ ได้ดีดต่อเร็วไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ คริสเตียน พูลิซิช วิ่งสอดมาจิ้มบอลระยะแต่ 6 หลา พุ่งเฉียดเสา หลุดออกหลังไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 108

เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ คริสเตียน พูลิซิซ ลากพาบอลขึ้นมา ก่อนจะแทงทะลุช่องไปแฉลบบล็อกของ เปา ตอร์เรส กระดอนไปเข้าทาง เมสัน เม้าท์ ได้หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในเขตโทษเน้น ๆ แต่ก็ยังถูก เซร์คิโอ อาเซนโฆ ผู้รักษาประตูบียาร์เรอัล ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดออกหลังไปได้ทัน

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 120 ดวลจุดโทษ!!!

จบช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เชลซี เสมอกับ บียาร์เรอัล ที่สกอร์ 1-1 !!! ทำให้ต้องมาดวลจุดโทษตัดสินกัน โดยเป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ยิงได้แม่นกว่า เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 6-5 !!! คว้าฝ่ายแชมป์ไปครอง

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีม เชลซี ที่เสมอกับทีม บียาร์เรอัล ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! ก่อนจะมาเอาชนะได้ในการดวลจุดโทษ 6-5 คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ ไปครองได้สำเร็จ โดยเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ในรายการนี้ ของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย