เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่นทัพสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนาม เวมบลี่ย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติแอลเบเนีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ นัดที่ 9 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจรวดทางเลียบจอมพลิ้ว และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แอลเบเนีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เอโดอาร์โด้ เรย่า มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เนดิม บาจรามี่ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม เมียร์โต อูซูนี่ ตัวทำเกมริมเส้น และ โซกอล ซิกัลเลชี่ ศูนย์หน้าตัวเป้าของทีม
นาที 9 GOAL!!!
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบทางริมเส้นฝั่งขวา รีซ เจมส์ บรรจงเปิดบอลโด่งโค้งสวย ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ฉีกหนีตัวประกบ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านมือ โธมัส สตราโคช่า นายทวารแอลเบเนีย เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 11
เจ้าถิ่น อังกฤษ บุกต่อขึ้นจังหวะนี้ แนวรับทีมเยือนจ่ายบอลคืนหลังพลาด แล้วเป็น ฟิล โฟเด้น ฉกมาได้แล้วลากจี้ขึ้นมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะตัดสินใจซัดเร็วด้วยซ้ายนอกกรอบทันที ทว่าจังหวะสุดท้ายเจ้าตัวโดนเบียดจากด้านหลังทำให้เสียหลัก หวดโดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่งบอลปลิ้นหลุดกรอบ ลอยโด่งเหินข้ามคานออกหลังไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 14
ทีมเยือน อัลแบเนีย เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายบอลคืนหลังเบาเกินไปเข้าทาง มีร์โต อูซูนี่ ได้หลุดเดี่ยวแต่ดันซัดไปติดบล็อกของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ปัดออกมาช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 18 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะต่อบอลทำเกมกันได้สวยเริ่มที่ รีซ เจมส์ พาบอลจากแดนกลางขึ้นมาแล้วโดนสกัดกระฉอกมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รับช่วงต่อ โฉบมาเอาบอลแล้วทำชิ่ง 1-2 กับ ฟิล โฟเด้น ได้ลากหลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูสุดแม่นให้ แฮร์รี่ เคน เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ จ่อ ๆ ไม่กี่หลา เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 26
ทีมเยือน อัลแบเนีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เบน ชิลเวลล์ ทำเสียบอลโดน โซกอล ซิกัลเลชี่ ฉกได้แล้วลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวหนีตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนจะซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรกตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี รับเข้าซองเอาไว้ได้ทัน
นาที 28 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เจ้าตัวทำชิ่ง 1-2 กับ แฮร์รี่ เคน ได้หลุดเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะแต่งบอลหลบกองหลังมาเข้าซ้าย แล้วซัดหักข้อเน้น ๆ สวนตัว โธมัส สตราโคช่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 30
ทีมชาติ อังกฤษ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ แฮร์รี่ เคน สอดมาพยายามยิงเร็วแต่ไปติดบล็อกของ เฟรเดริก เวเซลี่ ที่ขยับมาขวางทางปืนได้ไว ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 32
เจ้าถิ่น อังกฤษ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ แฮร์รี่ เคน ได้บอลที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวโยกหลอก อาร์เดียน อิสไมลี่ ตัดเข้ากลาง ก่อนจะตัดสินใจปั่นด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ระยะประมาณ 22 หลา ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น โธมัส สตราโคช่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดทิ้งปลายมือออกหลังไปนิดเดียว ได้เป็นเตะมุม
นาที 33 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะการคืนหลังพลาดของอัลแบเนีย แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ดึงจังหวะหน้ากรอบแล้วไหลนิ่ม ๆ เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แฮร์รี่ เคน ได้ล็อคหนี เฟรเดริก เวเซลี่ มาเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งแรงสวนตัวแสกหน้าของ โธมัส สตราโคช่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 38
เจ้าถิ่น อังกฤษ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากมายกบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ แฮร์รี่ เคน เกี่ยวบอลลง ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู กระดอนเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 42
เจ้าถิ่น อังกฤษ บุกขึ้นมาทางฝั่งขวา ฟิล โฟเด้น ครองบอลบริเวณริมกรอบเขตโทษ เจ้าตัวไหลย้อนหลังมาให้กับ รีซ เจมส์ เติมมาตวัดครอสบอลจังหวะแรก ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น แฮร์รี่ เคน วิ่งสอดพุ่งเข้ามาโขกสะบัดเน้น ๆ โดนบางไปหน่อย บอลเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 45+1 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูไหลเป็นแม่น้ำ 5-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ฟิล โฟเด้น บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งอย่างสวยไปที่หน้าเสาไกลให้ แฮร์รี่ เคน ยั้งตัวค่อย ๆ ถอยหลัง ก่อนจะทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบเปลี่ยนทางนิดนึง สุดท้ายผ่านมือ โธมัส สตราโคช่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก ถือเป็นการทำแฮตทริกชนิดครบองค์ประกอบ (ทำประตูจากทั้งเท้าขวา, เท้าซ้าย และ ศีรษะ) ของยอดดาวยิงจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วัย 28 ปี รายนี้อีกด้วย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 68 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน อัลแบเนีย อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงสลุตหนีห่างออกไปแล้วห้าประตู สกอร์ตอนนี้ อังกฤษ 5 อัลแบเนีย 0 !!!
นาที 55
ช่วงครึ่งหลังเกมดูเนือย ๆ เจ้าถิ่น อังกฤษ ที่สกอร์ขาดลอยไปแล้ว ไม่ได้เร่งเครื่องอะไรมาก เน้นถนอมสภาพร่างกายมากกว่า ส่วนทางด้านทีมเยือน แอลเบเนีย ก็ยังไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูตีไข่แตกอยู่เหมือนเดิม สกอร์ยังอยู่ที่ อังกฤษ 5-0 แอลเบเนีย !!!
นาที 63
เจ้าถิ่น อังกฤษ เริ่มไม่เน้นอย่างเห็นได้ชัด จังหวะนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือมาดเรียบร้อย เปลี่ยนตัวพักนักเตะโดยถอด แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น และ คัลวิน ฟิลลิปส์ ออกไปแล้วจัดการส่ง แทมมี่ อับราฮัม, แจ็ค กรีลิช และ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลงสนามมายืดเส้นยืดสายแทน
นาที 66
เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อ รีซ เจมส์ กับจอห์น สโตนส์ บังเอิญขึ้นโหม่งแล้วหัวไปชนกันเองอย่างแรง เล่นเอาลงไปนอนกับพื้นกันทั้งคู่ ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดให้แพทย์สนามวิ่งลงมาปฐมพยาบาล ส่วนทางด้าน กาซิม ลาซี่ ตัวสำรองของทีมเยือน รับใบเหลืองเพราะพยายามจะตีลังกายิง ยกขาสูงเล่นอันตราย
นาที 70
เจ้าถิ่น อังกฤษ ค่อย ๆ ต่อบอลกันขึ้นมา จังหวะนี้ รีซ เจมส์ ลากขึ้นมาทำชิ่ง 1-2 กับ แทมมี่ อับราฮัม ตอกส้นย้อนกลับมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้เจ้าตัว วิ่งมาตะบันด้วยขวาเน้น ๆ ทันที ทว่ายังไม่เข้าเป้า บอลพุ่งผ่านหน้าประตู กระดอนถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไป แบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 76
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ เรียกเสียงฮือฮาได้ จากจังหวะ เปลี่ยนอีกครั้งโดยถอดเอา รีซ เจมส์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และเจ้าหนู เอมิล สมิธ โรว์ ลงมาประเดิมเกมทีมชาติเป็นหนแรก เรียกเสียงตบมือจังแฟน ๆ ได้ดังกระหึ่มพอควร
นาที 85
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น อังกฤษ มีโอกาสได้บุกส่งท้าย จากจังหวะ เอมิล สมิธ โรว์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช ได้หาช่อง ก่อนได้จังหวะตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของแนวรับทีมเยือน สุดท้ายเปลี่ยนทางกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน อัลแบเนีย ไปได้ด้วยสกอร์ 5-0 !!! นำโด่งจ่าฝูงของกลุ่ม การันตีการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์เป็นเรียบร้อยแล้ว โดยนัดต่อไปขอแค่เสมอกับซานมารีโน่เป็นอย่างน้อย ก็จะคว้าอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนชัวร์ ๆ ซึ่งจะเตะกันคืนวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอัลแบเนีย รั้งอันดับที่ 3 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับอันดอร์ร่า ในวันเวลาเดียวกัน