เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 5 เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ชูเอา กันเซโล่ แบ็คซ้ายจอมบุก อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกม และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กองหน้ากึ่งปีกตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย เนย์มาร์ ตัวจี๊ดริมเส้น ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเทพ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม
นาที 5
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำเร็ว จากจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณกลางสนามฝั่งขวา แล้วเป็น ริยาด มาห์เรซ บรรจงเปิดบอลยาว ลอยโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ โรดรี้ ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ย้อนศรผ่านมือของ เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปได้แล้ว ทว่าเป็น เพรสเนล คิมเพ็มเบ้ ถอยมาโหม่งสกัดเคลียร์ออกจากเส้น ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 17
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ ลิโอเนล เมสซี่ ป้ายบอลออกซ้ายให้ นูโน่ เมนเดส สอดขึ้นมามาส่งสั้น ๆ เร็วต่อให้ เนย์มาร์ ได้ลากตัดเข้าในมาถึงกลางประตู ก่อนจะก้มหน้าซัดเลียดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่นกลับมาเข้าทาง นูโน่ เมนเดส ที่เติมสูงหุบเข้ามาที่หน้าประตูได้ซ้ำดีดจ่อ ๆ ติดเซฟของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทว่าไลน์แมนยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 18
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ต่อบอลทำชิ่งกันอย่างสวยเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน ตามไปเล่นถึงเส้นหลังฝั่งขวา เจ้าตัวตอกส้นย้อนหลังกลับมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา แปะสั้น ๆ ต่อมาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ลากตัดเข้าใน ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่บอลไปโดน อัซราฟ ฮาคิมี่ ที่ยืนขวางทางอยู่ โหม่งบล็อกเสยข้ามคานออกไปได้ทันเฉียดฉิว
นาที 27
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้ นูโน่ เมนเดส รับบอลหลุดมามองซ้ายมองขวาไม่มีช่อง เจ้าตัวตัดสินติดเครื่อง พาบอลล็อคหนี ไคล์ วอล์คเกอร์ กระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษ โยกตัดเข้าใน ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ผ่านบล็อกของ จอห์น สโตนส์ แต่บอลพุ่งเบาแถมไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 28
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ อิลคาย กันโดกัน ป้ายบอลออกมาทางริมกรอบฝั่งขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ลากจี้เข้าเขตโทษ ก่อนจะโยกหลบ นูโน่ เมนเดส แล้วซัดกึ่งยิงผ่านด้วยขวาไปที่หน้าประตู แต่เป็น เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน อ่านเกมขาด พุ่งออกมาตัดบอล ตะครุบเอาไว้ได้ทันอยู่หมัด
นาที 33
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ เติมสูงได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสบอลพุ่งเข้ากลางไปแฉลบ นูโน่ เมนเดส กระดอนไปเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน ได้วางเท้าซัดเน้น ๆ ด้วยขวา บริเวณริมกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงไปชนสามเหลี่ยมเต็ม ๆ กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 43
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ เนย์มาร์ ฉกบอลมาจาก จอห์น สโตนส์ ได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งสอดมาเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ ทัพเรือใบ เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อยู่แทบจะฝั่งเดียว ทว่าจังหวะจบในพื้นที่อันตรายของทั้งคู่ ยังทำได้ไม่ดีพอ สกอร์ตอนนี้ ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 47
เปิดฉากครึ่งครึ่งหลังเพียงแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นทันที จากจังหวะ โรดรี้ หยอดบอลยาวจากกลางสนามทิ้งขึ้นไปให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้สปีดสอดมาแตะบอลข้ามตัวหลบ เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน บอลหวิดลอยเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่ามิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันโดนจับล้ำหน้าซะก่อน
นาที 50 GOAL!!!
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ โอเนล เมสซี่ ทำชิ่งกับ อังเดร เอร์เรร่า หลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย เจ้าตัวลากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสยัดเข้ากลางไปแฉลบบล็อกของ ไคล์ วอล์คเกอร์ กระดอนเลยมาที่หน้าเสาไกลเข้าทาง คีลิยัน เอ็มบั๊บเป้ โล่ง ๆ ได้แต่งหนึ่งที ตามมาด้วยกดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งลอดหว่างขาของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กลิ้งเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง จังหวะนี้เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาแล้วเล่นสั้นมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ชิ่งคืนให้กับ ริยาด มาห์เรซ ได้ลากตัดเข้าใน ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ไหลคืนให้เจ้าตัว ได้ลากไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ มุมแคบยัดไปที่เสาแรกติดเซฟของ เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมอยู่ ทิ้งตัวปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 63 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ โรดรี้ บรรจงวางบอลโด่งข้ามแนวรับ ย้อยเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ สอดมาตวัดเข้าไปที่หน้าประตูให้ กาเบรียล เชซุส ที่ลงมาเป็นสำรอง พยายามจะเล่นแต่ไม่โดน บอลกระดอนเลยมาที่เสาไกลเข้าทางปืนของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 68
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ โรดรี้ มีโอกาสได้วางเท้าส่องไกลด้วยซ้ายแถมสองหน้าเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า บอลลอยหลุดกรอบ ออกหลังไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 70
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แบร์นานโด้ ซิลวา แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส สอดมาได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าตวัดยิงด้วยซ้ายมุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปที่เสาแรกโดน เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมอยู่ ผวาปัดทิ้งข้ามคานออกไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 74
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ การเคาะบอลสั้นกันไปมาหน้าเขตโทษ แล้วเป็น อังเคล ดิ มาเรีย ทำชิ่ง 1-2 คืนอย่างสวยให้กับ เนย์มาร์ ได้สอดหลุดเข้าไปที่กลางประตู เจ้าตัวแตะหลบตัวประกบเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะรีบแปเร็วสวนตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ส่งบอลถากเสาแรกซ้ายมือ กระดอนหลุดกรอบออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 76 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ริยาด มาห์เรซ บรรจงหยอดโด่งจากบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ลอยลึกไปที่เสาไกลถึง แบร์นานโด้ ซิลวา ได้เบิ้ลบอลจังหวะเดียวเข้าไปที่กลางประตูตั้งให้ กาเบรียล เชซุส ได้เอี้ยวตัวแปด้วยขวาเล่นทางโล่ง ๆ สวนตัวผ่านมือ เกย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มไปนานแล้ว โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแอร์เบ ไลป์ซิก ในคืนวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านของเปแอสเช ผ่านเข้ารอบในฐานะอันดับที่ 2 ของกลุ่มเช่นเดียวกัน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับคลับ บรูซ ในวันเวลาเดียวกัน