แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ชี้ว่าผลงานเมื่อเจอกับทีมชาติเยอรมนีของพวกเขาในอดีต ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจอกันในครั้งนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูโร 2020
“สิงโตคำราม” ไม่เคยปราบ “อินทรีเหล็ก” ในรอบน็อคเอาท์ของทัวร์นาเมนท์ใหญ่ได้เลยสักครั้ง นับตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ไปครอง
ทีมชาติอังกฤษพ่ายให้กับเยอรมนีในรอบน็อคเอาท์ทุกๆครั้งที่เจอกันหลังจากนั้น ซึ่งเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 1990 และยูโร 1996
ทั้งสองทีมได้โคจรมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูโร 2020 และ เซาธ์เกต ก็มองว่าผลงานในอดีตไม่เกี่ยวกับทีมชาติชุดนี้เลย โดยชี้ว่าลูกทีมของเขามีหน้าที่เขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองเท่านั้น
“ผมไม่จำเป็นต้องทำสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ ประวัติศาสตร์มันไม่เกี่ยวกับพวกเขา” เขากล่าวกับ ITV Sport
“เรามีเด็กบางคนที่เกิดในช่วง 2000s อยู่กับทีม ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจทำให้เราใจหาย แต่มันคือความเป็นจริงที่ทีมต้องเผชิญ”
“สิ่งที่เราทำในอดีตไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ปีเตอร์ โบเน็ตติ ในทศวรรษ 1970, สิ่งที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1990 หรือเรื่องอื่นๆ”
“แน่นอนว่าพวกเขาได้ดูเกมพวกนั้นและทำความเข้าใจกับมันเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เราจะเอาไปพูดกับพวกเขา”
“ทีมนี้ทำผลงานสร้างประวัติศาสตร์มาตลอดหลายปี พวกเขาเขียนประวัติศาสต์และเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งมันคือมุมมองที่ถูกต้องสำหรับเกมฟุตบอล”
“มันคือโอกาส ทีมชาติของเราเพิ่งชนะรอบน็อคเอาท์ในศึกยูโรแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เราจึงมีโอกาสที่จะมุ่งไปข้างหน้าและกลายเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ปี 1996 ที่ทำมันได้สำเร็จ”