เดลี่ เมล แท็บลอยด์เมืองผู้ดี เปิดเผยว่า เชลซี ยื่นข้อเสนอขอซื้อที่ดินติดกับสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ราคาประมาณ 50 ล้านปอนด์แล้ว
ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของสโมสรต้องการที่ดินขนาด 1.2 เอเคอร์ และได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวเข้าไปก่อนเส้นตายช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นย่างก้าวสำคัญของ “สิงห์บลูส์” ที่มีโครงการปรับปรุงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งใหญ่ ที่มีวงเงินสูงกว่า 1 พันล้านปอนด์
ที่ดินเป้าหมายเป็นของสมาคมการเคหะสโตลล์ ซึ่งอุดหนุนบ้านเรือน 157 หลังคาให้กับทหารผ่านศึก
สโตลล์ ตัดสินใจประกาศขายที่ดินส่วนใหญ่จากที่ครอบครองทั้งหมด 2 เอเคอร์ ให้กับผู้สนใจเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่ามีบริษัทใดยื่นข้อเสนอขอซื้อที่ดินดังกล่าวเพิ่มหรือไม่ โดยคาดว่าจะมีการประกาศเจ้าของใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงปีใหม่
เชลซี ต้องการซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อการขยายสนาม เนื่องจากสภาพปัจจุบันนั้น ถูกรายล้อมไปด้วยอาคารและเส้นทางรถไฟ
ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังสโมสรยื่นยันเรื่องการปรับปรุงสนามขนาดใหญ่ ทำให้ยุติความวิตกว่าอาจมีการย้ายสเตเดี้ยมไปตั้งที่อื่น
ด้าน สโตลล์ ทำการปรึกษากับผู้อาศัยนานกว่า 5 เดือน ก่อนที่จะประกาศขายที่ดินในช่วงที่ผ่านมา โดยพวกเขากำลังประเมินออปชั่นที่ดีที่สุดให้กับลูกบ้านในอนาคตต่อไป
ความสัมพันธ์ระหว่างสโตลล์ กับ “สิงห์บลูส์” เกิดเรื่องอื้อฉาวเมื่อปี 2018 หลังมีการแฉว่า โรมัน อบราโมวิช แอบยัดเงินใต้โต๊ะให้บริษัท ก่อนที่การเคหะ แอบเก็บแฟลทราว 30 หลังให้ว่างแทนที่จะแจกจ่ายให้กับทหารเกษียณ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อแผนการดำเนินการของมหาเศรษฐีรัสเซีย ในการเข้ามาซื้อที่ดิน
ท้ายที่สุด “อากู๋” และ สโตลล์ ตกลงซื้อขายที่ดินส่วนหนึ่งที่ราคา 50 ล้านปอนด์ ก่อนดีลล่มลงเพราะแผนการขยายสนามของอบราโมวิช ไม่คืบหน้า