คิดอยู่พักหนึ่งว่าจะเขียนดีไหม แต่สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าเขียนๆ ไปเถอะ 555 ซึ่งก็ต้องออกตัวก่อนว่าผมอาจมองไม่เหมือนคนอื่นเท่าไรนะครับ เพราะดูแล้วหนังเรื่องนี้กระแสดี คนชมเยอะ ซึ่งจริงๆ หนังมันก็มีดีนั่นแหละ เพียงแต่อาจไม่ใช่ทางของผม
อันที่จริงต้องบอกว่า ผมดูจะไม่ถูกเส้นกับหนังชุด SPL อย่างภาคแรกนี่โอเคครับ มันส์ดี แต่ภาค 2 ผมออกจะเฉยๆ และสิ่งที่ผมรู้สึกคล้ายๆ กันสำหรับภาค 1 และ 2 ของหนังชุดนี้ก็คือ แอ็กชันโอเค แต่การเดินเรื่อง/ลำดับเรื่อง มันรู้สึกโดดๆ
คือมันจะไม่เหมือนพวก Ip Man หรือกระทั่งหนังหวงเฟยหงสมัยเก่าๆ ที่เนื้อเรื่องมันดูมีทิศทาง มีจุดเริ่ม มีจุดกลาง มีจุดจบ แต่กับหนังชุด SPL มันดูไม่ได้กลืนกันเป็นเนื้อเดียว บางฉากบางตอนก็สามารถตัดออกไปก็ได้ ใส่มาแล้วดูยืดโดยใช่เหตุ
และที่ผมรู้สึกเสมอคือ SPL มันจะออกแนวแฟนตาซีหน่อยๆ น่ะครับ คือดูเหมือนจะจริงจังและเน้นความสมจริง แต่มันก็ไม่จุดที่ดูไม่จริง/ไม่สมจริงแทรกอยู่ในหนังเรื่อยๆ จนสารภาพตามตรงว่าสับสนทางอารมณ์อยู่เหมือนกัน
แต่กับภาคนี้ (ซึ่งจริงๆ มันคือ SPL 3 ครับ) ยอมรับครับว่ามีส่วนที่ผมชอบอยู่หลายอย่าง เริ่มจากพล็อตว่าด้วยพ่อ (กู่เทียนเล่อ) ตามหาลูกที่โดนพวกค้าอวัยวะจับตัวไป แล้วก็มีร่วมมือกับตำรวจในไทยเพื่อตามหาร่องรอย
พูดถึงพล็อต ถ้ามองจริงๆ ผมว่าเข้มข้นอยู่ครับ ไม่ว่าจะการที่พ่อมีปัญหากับลูกก่อนเกิดเรื่อง ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก แล้วก็เรื่อยไปถึงไคลแม็กซ์ที่จริงๆ มันบีบหัวใจนะ ในฐานะพ่อคนอย่างผมนี่บอกได้เลยว่า “บีบแรงมาก”
โดยพล็อตน่ะเข้มครับ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนเดิม นั่นคือการเดินเรื่องมันยังไม่กลมกล่อม การผูกเรื่อง เล่าเรื่อง มันยังไม่เป็นเนื้อเดียว บางช่วงเหมือนอารมณ์โดด จนส่งผลไม่ต่อเนื่องทางอารมณ์อยู่พอสมควร
นอกจากพล็อตของพ่อที่ตามหาลูกแล้ว ก็มีพล็อตของตำรวจไทย โดยคนหนึ่งแสดงโดยอู๋เยี่ย ส่วนอีกคนแสดงโดยพี่จา พนม ซึ่งในเรื่องนี้พี่จามาในแนวรับเชิญครับ แต่พอถึงคราวบู๊ก็ทำได้ดีเหมือนเดิม และจะว่าไปแล้ว บทของพี่จาสามารถเพิ่มดีกรีความเข้มให้กับเรื่องราวได้อย่างดี
จริงๆ พล็อตของฟากตำรวจนี่ก็มีอะไรเยอะอยู่ครับ ไม่ว่าจะเรื่องความเป็นเพื่อนของตำรวจด้วยกัน, เรื่องครอบครัว หรือเรื่องของการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ และจริงๆ หนังสามารถเล่นไปได้ไกลถึงเรื่องนักการเมืองด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ากลัวหนังจะมีปัญหาหรือเปล่า เลยเล่นแบบยั้งๆ (จนเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้รู้สึกว่า มันเหมือนจะสมจริง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สุด)
แต่ถ้าถามว่าดูโอเคไหม ผมก็รู้สึกว่าผมชอบกว่าภาค 2 ครับ เนื้อเรื่องมันดูมีอะไรเยอะดี เสียตรงที่การเล่าที่ยังไม่กลมกลืน ตามด้วยบางประเด็นดูขาดความสมจริง (ในขณะที่บางอันก็จริงหนักมากจนเราอึ้ง) และพอจะบอกได้ว่าใครชอบไม่ชอบหนังเครียดก็อาจไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ครับ
แต่ที่ถือว่าน่าพอใจมากอยู่ก็คือคิวบู๊ครับ ตีกันมันส์ไม่ผิดหวังตามสไตล์หนังของหงจินเป่า สู้กันมันไฟแล่บ สะใจดีครับ ผมชอบฉากตีกันบนยอดตึกที่พี่จาของเราออกลีลาได้น่าจดจำ กับอีกครั้งก็ตอนท้ายที่บู๊กันยาว สู้กันจนเหนื่อยเลยเหมือนกัน และที่ชอบอีกฉากคือตอนเฮียกู่เดินบนต้นไม้เพื่อหนีข้ามคลองน่ะครับ ผมว่าซีนนั้นเจ๋งดี
เอาเป็นว่าคอหนังแอ็กชันฮ่องกง หากอยากลองก็ลองได้เลยครับ จริงๆ ผมว่ามันก็เป็นหนังบู๊ที่ทำออกมาได้โอเคเรื่องหนึ่งเลยล่ะ ขนาดผมที่ไม่แนวกับหนังชุด SPL ก็ยังรู้สึกมันส์และชอบในระดับหนึ่งเลย
สองดาวครับ
(6/10)