นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์ กับ เอกวาดอร์ ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นนอล สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เนเธอร์แลนด์ จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-1-2 นำโดยขาประจำจากนัดแรกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อันดรีส นอพเพิร์ต,เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,เดวี่ คลาสเซ่น,สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น และ โคดี้ กักโป
ขณะที่ เอกวาดอร์ จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-3 มี่คุ้นเคย นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง เฮอร์มัน กาลินเดซ,ปิเอโร อินกาเปีย,เจกสัน เมนเดซ,อังเจโล่ เปรเซียโด้ และ ไมเคิล เอสตราด้า เป็นต้น
นาทีที่ 6 เนเธอร์แลนด์ ขึ้นนำ 1-0
เนเธอร์แลนด์ เปิดฉากได้อย่างสวยหรู เพราะพวกเขาใช้เวลาแค่ 6 นาทีเศษ ก็ได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ เดวี่ คลาสเซ่น จ่ายตามช่องให้ กักโป จับบอลนอกกรอบ ก่อนจะสับไกด้วยซ้ายข้างถนัด ส่งบอลพุ่งแรงผ่านมือ กาดินเดซ เบียดเสาตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
นาทีที่ 32
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกฝั่งเนเธอร์แลนด์ ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ แถมยังเกือบโดนตีเสมออีกด้วย จากจังหวะที่ ไม่รู้ว่าแนวรับของ อัศวินสีส้ม เสียสมาธิหรืออะไร ไปปล่อยให้ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ได้ยืนซัดโล่งๆ แบบไร้ตัวประกบ ดีที่บอลสุดท้าย นอพเพิร์ต ยังช่วยเซฟเอาไว้ได้ หวุดหวิด
นาทีที่ 45+3
ช่วงท้ายครึ่งแรก เนเธอร์แลนด์ โดนกดดันจากลูก จนเกือบเสียประตูอยู่หลายครั้ง อย่างจังหวะนี้ก็เกือบเสียประตูฃ เพราะ เอสตูปิญาน ยิงเข้าไปแล้วด้วย แต่ยังเป็นโชคดีของ เนเธอร์แลนด์ที่ VAR ริบคืน เพราะจังหวะยิงของ เอสตูปิญาน มีผู้เล่น เอกวาดอร์ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
หมดครึ่งเวลาแรก
เนเธอร์แลนด์ – 1
เอกวาดอร์ – 0
นาทีที่ 49 เอกวาดอร์ ตีเสมอ 1-1
กลับมาต่อครึ่งหลัง ได้แค่2 นาที เอกวาดอร์ ก็ตามตีเสมอได้เฉยเลย จากจังหวะโต้กลับเร็ว และเป็น เอสตูปิญาน ที่มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงติดเซฟ นอพเพิร์ต แต่บอลยังไม่ไปไหนไกล วาเลนเซีย รีบวิ่งเข้ามาเก็บงาน ซ้ำดาบสองไม่มีเหลือ
นาทีที่ 59
พอตีเสมอได้ เอกวาดอร์ ก็บุกหนักขึ้นจนเกือบฝั่ง เนเธอร์แลนด์ ได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ กอนซาโล่ ปลาต้า มีโอกาสได้ซัดเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษ ซึ่งลูกนี้บอลมันพุ่งผ่านมือ นอพเพิร์ต ไปแล้วด้วย แต่โชคร้าย บอลสุดท้ายดันชนคาน ปริ้นออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 73
ช่วง15นาทีท้าย แฟนๆ เอกวาดอร์ ใจหายใจคว่ำไปตามๆกัน เพราะมีจังหวะนึงที่ กักโป วิ่งฉีกตัวประกบ หลุดเดี่ยวเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษเรียบร้อย ก่อนจะมีธงล้ำหน้าสบัดตามหลังมาอีกที ช่วยเซฟ เอกวาดอร์ หวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้มาก สุดท้ายคู่นี้ก็ต้องจบแบบแบ่งแต้มกันไป ตามระเบียบ ด้วยผลสกอร์รวม 1-1