เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพอัศวินสีส้ม ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เปิดสนาม ฟิลิปส์ สตาดิโอน, เมืองไอนด์โฮเฟ่น ประเทศเนเธอร์แลนด์ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติ มอนเตเนโกร ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กลุ่ม จี นัดที่ห้า เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางห้องเครื่อง เฟร็งกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ เมมฟิส เดปาย กองหน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน มอนเตเนโกร ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิโอดรัก ราดูโลวิช มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ดูซาน ลากาทอร์ กองกลางห้องเครื่อง อดัม มารูซิช ตัวทำเกมริมเส้น และ สเตฟาน มูโกซ่า ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 6
ทีมเยือน มอนเตเนโกร ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ สเตฟาน มูโกซ่า แทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ ริสโต้ ราดูโนวิช แบ็คซ้ายที่เติมเกมสูงขึ้นมา ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางให้ ดราสโก้ โบโซวิช ซัดเร็วด้วยขวาไม่จับ พุ่งไปแฉลบบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 9
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ เมมฟิส เดอปาย ขอลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น หลุดกรอบเสาซ้ายมือ กลิ้งออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 17
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ สเตฟาน เดอ ฟราย ดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนาม เจ้าตัวบรรจงหยอดบอลไปที่กรอบเขตโทษด้านขวาให้ เดนเซล ดัมฟรีส์ ที่วิ่งดันสูงสอดขึ้นมา ได้เบิ้ลบอลจังหวะเดียว ครอสเข้ากลางกระดอนไปเข้าทาง เมมฟิส เดอปาย วิ่งมาหวดด้วยขวาเต็มข้อแบบไม่จับ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่ดันไปตรงตัวของ มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดข้ามคานได้ทัน ได้เป็นเตะมุม
นาที 28
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ กระชากพาบอลหลุดขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะล็อคกลับมา จ่ายบอลเลียดด้วยซ้ายไปที่หน้ากรอบเขตโทษ บริเวณหัวกระโหลกให้ ดาวี คลาสเซ่น ได้ปั่นเร็วด้วยขวาเน้น ๆ โค้งผ่านสามเหลี่ยมขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาที 29
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ สับไกด้วยซ้ายที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา บอลแฉลบบล็อกแนวรับทีมเยือน กระดอนไปที่หน้าประตู แล้วเป็น เมมฟิส เดอปาย วิ่งโฉบมาสไลด์ยิงจ่อ ๆ ทว่า มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาขวางเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 31
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ โคดี้ กัคโป ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะโยกหลอกกองหลังแล้วเปิดโค้งด้วยขวามาที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น ดาวี คลาสเซ่น วิ่งโฉบตัดหน้ากองหลังทีมเยือน สอดมาโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 37 GOAL!!!
หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ โคดี้ กัคโป จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เมมฟิส เดอปาย เจ้าตัวดึงบอลหลอกตัวประกบเพื่อพลิกไปยิงได้สวย ก่อนจะถูกดึงล้มลงไปโดย ดูซาน ลากาทอร์ ผู้ตัดสิน เฆซุส คิล มานซาโน่ จากสเปน วิ่งมาเป่าชี้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่นทันที แล้วเป็น เมมฟิส เดอปาย ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเอง ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 40
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ยังได้บุกต่อเนื่องไม่มีผ่อน จังหวะนี้เกือบได้บวกสกอร์เพิ่มจาก เมมฟิส เดอปาย ที่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะโยกหลอกกองหลังมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ตามด้วยปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดสามเหลี่ยมขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน มอนเตเนโกร อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมยิงประตูเบิกร่องขึ้นนำไปก่อนแล้วด้วย 1-0 !!!
นาที 47
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทีมเยือน มอนเตเนโกร ที่ได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะ สวนกลับเร็ว ดราสโก้ โบโซวิช ได้บอลที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวยึกยักดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลตามช่องให้ มีลูติน ออสมายิช ที่วิ่งตามขึ้นมา ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่จังหวะสุดท้าย เจ้าตัวดันซัดบอลเลียดด้วยซ้าย ทั้งเบาแถมไปตรงตัวของ จัสติน ไบจ์ลอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ล้มตัวรับสบาย
นาที 50
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ได้ตอบโต้บ้าง จังหวะนี้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม บรรจงวางบอลโด่ง ย้อยไปที่กลางประตู กองหลังทีมเยือนสกัดเคลียร์ทิ้งไม่ขาด บอลกระดอนออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ ได้จับหนึ่งทีแล้วหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นแหวกบล็อกไปตรงตัวของ มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้สบาย
นาที 53
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ บุกขึ้นมาทางกราบขวา สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ ลากพาบอลจี้มาเอง เจ้าตัวโยกหนีกองหลัง เลี้ยงตัดเข้าในตามสูตร ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ทำท่าจะเสียบโคนเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือ ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 55
ทีมเยือน มอนเตเนโกร พลาดโอกาสทอง ที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะความผิดพลาดของ ไทเรลล์ มาลาเซีย ที่จ่ายบอลคืนหลังไม่ดูให้ดี กลายเป็นแจกส้มให้ สเตฟาน มูโกซ่า ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ทว่าจังหวะสุดท้ายดันมาตกม้าตาย เจ้าตัวซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ เหินข้ามคานออกไปเองแบบไม่น่าเชื่อ
นาที 61 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะขึงเกมรุกที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ ทำชิ่งจ่ายบอลยัดเข้าไปที่กลางประตูให้ โคดี้ กัคโป ที่ยืนหันหลังให้ประตูอยู่ ได้พักบอลแล้วดีดเร็วต่อไปที่หน้าเสาแรกซ้ายมือให้ เมมฟิส เดอปาย เอี้ยวตัวซัดด้วยขวาหักข้อยัดมุมแคบไปที่เสาแรก ติดมือของ มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดไว้ได้นิดนึง แต่ด้วยความแรง บอลปลิ้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 69 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ เมมฟิส เดอปาย ไหลบอลจากซ้ายมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ สตีเฟ่น เบิร์กฮุยส์ ได้เบิ้ลบอลเลียดทะลุช่องจังหวะเดียวให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 76 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ ไทเรลล์ มาลาเซีย ดันสูงขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย เจ้าตัวหักมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โคดี้ กัคโป ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั้นด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ มาติย่า ซาร์คิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ที่เปิดบ้านไล่ถล่มทีมเยือน มอนเตเนโกร ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับตุรกี ในวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านมอนเตเนโกร อยู่ที่ 4 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลัตเวีย ในวันเวลาเดียวกัน