เบนเซม่าซัดเบิ้ล!! “เรอัล มาดริด” เปิดบ้านเฉือน “ชัคตาร์ โดเนตส์ค” ไปด้วยสกอร์ 2-1 รั้งจ่าฝูงกลุ่ม

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด (สเปน) เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทีม ชัคตาร์ โดเนตส์ค (ยูเครน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ดี นัดที่ 4 เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส คาเซมิโร่ กองกลางตัวรับจอมขยัน โทนี่ โครส มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย อลัน พาทริค กองกลางห้องเครื่อง เตเต้ ปีกตัวจี๊ดริมเส้น และ เฟอร์นานโด ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 5

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะ ลูก้า โมดริช ทำชิ่ง 1-2 กับ ลูกัส บาซเกซ ถึงสองครั้งติด เพลย์เมกเกอร์ตัวเก๋า รับบอลคืนได้หลุดโล่ง ๆ ที่กลางประตู ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าดันส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ อนาโตยี่ ตรูบิน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดออกหลังไปได้ทัน อย่างน่าเสียดายสุด ๆ ได้เป็นลูกเตะมุม

นาที 10

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็วเหมือนกัน จากจังหวะ เตเต้ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องเร็วถึง อลัน แพทริค หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ได้ลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย 

นาที 12

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ เติมสูงขึ้นมาตามสไตล์ รับบอลที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะหาจังหวะหวดด้วยขวานอกกรอบ ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 14 GOAL !!!

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน เริ่มที่ อนาโตยี่ ตรูบิน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกบอลสั้นแบบจวนตัวให้ มาร์ลอน ซานโต๊ส จับบอลลั่นโดน วินิซิอุส จูเนียร์ ฉกไปได้ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดมาที่หน้าประตูถวายพานให้ คาริม เบนเซม่า ซักโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย เป็นประตูที่ 1,000 ของสโมสร บนเวทีรายการบอลยุโรปอีกด้วย

นาที 17

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะ ลูกัส บาซเกซ พาบอลพลิ้วหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตบเลียดเข้ากลางให้ ลูก้า โมดริช ได้สอดมาวางเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นดันไปตรงตัวของ อนาโตยี่ ตรูบิน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาทิ้งตัวใช้ขาป้องกันเอาไว้ได้ทัน

นาที 24

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ มิคไฮลอ มูดริก ลากตัดจากซ้ายมาที่หน้าเขตโทษตรงกลาง เจ้าตัวแต่งเข้าระยะส่องไกล ก่อนจะจบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นแต่ไม่หนีตัวเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ล้มตัวรับเอาไว้ได้สบาย

นาที 32

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค พลาดโอกาสทอง ที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ มิคไฮลอ มูดริก ครองบอลอยู่ที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะยกข้ามแนวรับให้ แฟร์นานโด ได้หลุดเข้าไปตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายที่กลางประตู ส่งบอลโค้งถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปเองนิดเดียว อย่างน่าเสียดาย

นาที 34

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โทนี่ โครส ไหลมาในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คาริม เบนเซม่า ได้วิ่งสอดขึ้นมาบรรจงวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปที่เสาไกล ทว่ายังโค้งน้อยไปหน่อย สุดท้ายหลุดกรอบขวามือ ยังไม่ได้ลุ้นประตูเพิ่ม

นาที 39 GOAL!!!

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ มีโคล่า มัตวิเยนโก้ ดันสูงเติมเกมขึ้นมาถึงกลางสนาม ก่อนจะวางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ อลัน แพทริค สอดไปพักอกจังหวะเดียว เข้าไปที่กลางประตูตั้งให้ แฟร์นานโด วิ่งปรี่มาฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวาเต็มข้อโล่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแสกหน้า ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก เป็นประตูแรกของพวกเขาในแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้อีกด้วย

นาที 45

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะ อลัน แพทริค คนเดิม แทงบอลทะลุช่องอย่างสวยให้ แฟร์นานโด เจ้าเก่า อาศัยความเร็ว วิ่งสอดมา กระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปที่เสาไกล ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปออกมาได้ทันหวุดหวิด อย่างไม่น่าเชื่อ

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็ว หลังจากนั้นยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่าอยู่นิดหน่อย ก่อนจะมาโดนทีเด็ดการโต้กลับเร็วของทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค เล่นงานตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 1-1 !!!

นาที 53

เปิดฉากครึ่งหลังมา ทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างสูสี จังหวะนี้ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ได้ลุ้นก่อน เมื่อ มิคไฮลอ มูดริก พาบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ เตเต้ ได้หลุดเข้าไปล้มตัวยิงเร็วที่กลางประตู ทว่าจังหวะสุดท้าย เป็นแนวรับเจ้าถิ่นที่ตามมาขวางทางปืน ช่วยบล็อกเอาไว้ได้ทัน 

นาที 59

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เตเต้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวลากตีดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ทว่าบอลเบาแถมไม่หนีตัวเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เขยิบมารับเอาไว้ได้สบาย

นาที 61 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! จากจังหวะการประสานงานทำชิ่งกันอย่างสุดสวย เริ่มที่ ลูก้า โมดริช ดีดบอลคืนมาที่หน้ากรอบให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้ติดเครื่องกระชากเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวทำชิ่ง 1-2 กับ กาเซมิโร่ หลุดเข้าไปถึงหน้าขวามือ ก่อนจะปาดเลียดจังหวะเดียวมาที่กลางประตูถวายพานให้ คาริม เบนเซม่า แปด้วยขวาเน้น ๆ เสียบเสาแรก เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 70 

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ โดโด้ ฟูลแบ็กจอมบุก เติมเกมสูง ดอดหลุดขึ้นมารับบอลทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสพุ่งเข้าไปลุ้นที่หน้าประตู ทว่าไม่มีเพื่อนเข้าชาร์จถึงบอลสักคน สุดท้ายกระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 72

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ ถอยต่ำลงมาล้วงบอล ลากขึ้นมาทำชิ่ง 1-2 กับ คาริม เบนเซม่า ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่ปีกความเร็วสูงจะซัดมุมแคบไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งแล้วโดนเคลียร์ออกมา ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

นาที 75

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค มีโอกาสได้ลุ้นประตูตีเสมอ จากจังหวะ ทาราส สเตปาเนนโก้ ขอลองสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อ หน้ากรอบเขตโทษ ระยะเกือบ 25 หลา บอลพุ่งแรงหนีมือของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เหินเฉียดคาน หลุดออกหลังไปแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น

นาที 79

เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาทางกราบขวา ลูกัส บาซเกซ หลุดขึ้นมาบรรจงครอสเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า มีจังหวะได้กลับตัวพลิกบอลไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบยัดไปที่เสาแรก ทว่าน่าจะโดนใต้ลูกมากไปหน่อย บอลพุ่งแรงหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 82

ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค พยายามโหมบุกทวงประตูคืนอย่างหนัก จังหวะนี้ มาร์ลอส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกลให้ อิสไมลี่ สอดมาโขกโล่ง ๆ แต่กดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 90+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะ จอร์จี้ ซูดาคอฟ ที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวล็อคมาแต่งเข้าขวา ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวยทำท่าจะเสียบเสาไกลเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังเหนียวหนึบ ผวาพุ่งไปปัดออกมาได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน ชัคตาร์ โดเนตส์ค ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไปต้องออกไปเยือนเชอร์ริฟฟ์ ในคืนวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านชัคตาร์ โดเนตส์ค รั้งบ๊วยของตาราง นัดต่อไปจะออกไปเยือนอินเตอร์ มิลาน ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา