เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด (สเปน) เปิดสนาม เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ดี นัดสุดท้าย เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส คาเซมิโร่ กองกลางห้องเครื่อง วินิซิอุส จูเนียร์ ตัวจี๊ดริมเส้นความเร็วสูง และ ลูก้า โยวิช ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย นิโกโล่ บาเรลล่า กองกลางห้องเครื่อง ฮาคาน คัลฮาโนกลู เพลย์เมกเกอร์จอมปั่นฟรีคิก และ เอดิน เชโก้ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 2
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่ได้โอกาสลุ้นประตูทักทายก่อน จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหาเหลี่ยม ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลไปแฉลบบล็อกของ มิลาน สคริเนียร์ กระดอนเฉียดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 7
ทีมเยือน ทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ที่ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ อิวาน เปริซิช ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ สอดมาโหม่งย้อนหลังมาที่หน้ากรอบตั้งให้ มาร์เซโล่ โบรโซวิช ได้ตั้งป้อมวางเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนกลับเข้าไป ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมฮุคลง ลอยไปตกหลังคานประตู หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดาย
นาที 12
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง จังหวะนี้ นิโคโล่ บาเรลล่า แทงบอลทะลุช่องให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ ดันสูงหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ อิวาน เปริซิช วิ่งสอดมาเอี้ยวตัว ตวัดยิงวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของ เอแดร์ มิลิเตา กระเด้งออกมาต้องตั้งกันใหม่
นาที 17 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ โรดริโก้ โกเอส ลากบอลขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวเงยหน้ามองแล้วปาดเลียดมาที่หน้าหัวกระโหลกถึง คาร์ลอส คาเซมิโร่ ปล่อยบอลหลอกต่อให้ โทนี่ โครส หน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ได้แต่งเข้าซ้ายหนึ่งที ก่อนจะบรรจงก้มหน้าหวดเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงแถมฮุคลงผ่านมือ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระดอนเสียบโคนเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 22
ทีมเยือน ทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน พยายามจะตั้งเกมบุกเพื่อทวงคืนโดยเร็ว จังหวะนี้ นิโคโล่ บาเรลล่า รับบอลมาที่หน้ากรอบ เจ้าตัวยกบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายต่อให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ วิ่งสอดหลุดทะลุเข้าไปตวัดยิงเร็วด้วยซ้าย แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลไต่หลังเท้า ปลิ้นหลุดกรอบออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 25
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อิวาน เปริซิช ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวตัดสินเปิดบอลยาวข้ามฟาก เปลี่ยนแกนไปที่เสาไกลให้ เอดิน เชโก้ โฉบมาพยายามเทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ ทว่าบอลเบาแถมยังไปตรงตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 35
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ฮาคาน คัลฮาโนกลู บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น อิวาน เปริซิช โฉบมาทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ คนเดียว ส่งบอลพุ่งแรงผิดเหลี่ยม เหินข้ามคานออกไปไกล หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 36
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ดานี่ การ์บาฆาล ได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะแทงทะลุช่องขวางสนามตัดหลังแนวรับให้ ลูก้า โยวิช วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวพยายามยกบอลหนี ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน อย่างเหนือชั้น ทว่าบอลดันไม่ตรงกรอบ กระดอนหลุดเสาออกไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 45
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ โทนี่ โครส จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โรดริโก้ โกเอส ได้มีโอกาสพลิกเร็วหนีตัวประกบ ก่อนจะวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนเสาขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 45+1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นประตูเพิ่มทิ้งทวนอีกครั้ง จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม แล้วเป็น คาร์ลอส คาเซมิโร่ เก็บแถวสองแล้วจ่ายตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โรดริโก้ โกเอส หลุดทะลุเข้าไปวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลก ต่อสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทางทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า ทว่าเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด จังหวะสุดท้ายในพื้นที่อันตราย ดูวูบวาบน่ากลัวว่าเยอะพอสมควร ฉวยโอกาสยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ มาดริด 1 อินเตอร์ 0 !!!
นาที 48
เริ่มครึ่งหลังมา ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ได้ลุ้นประตูตีเสมอทักทายก่อนเลยทันที จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม ฮาคาน คัลฮาโนกลู ลากขึ้นมาแล้วแทงทะลุช่องให้ นิโคโล่ บาเรลล่า ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 52
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น คาร์ลอส คาเซมิโร่ ได้เทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ แต่ยังไม่เข้าเป้า กดไม่ลง ส่งบอลข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล
นาที 55
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ แทงตามช่องให้ ลูก้า โยวิช ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตัดสินซัดมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปที่เสาแรกโดน ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสารอดักทางไว้อยู่แล้ว ปิดมุมป้องกันเอาไว้ได้สบาย อย่างไม่ยากเย็น
นาที 58
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ คาร์ลอส คาเซมิโร่ สอดขึ้นมารับบอลตรงกลาง ก่อนจะขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวานอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมาเซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 64 ใบแดง!!!
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ นิโคโล่ บาเรลล่า ไปหัวร้อนสาวหมัดใส่ขาของ เอแดร์ มิลิเตา จนเหตุการณ์เกือบจะบานปลาย ยังดีที่ผู้เล่นของทั้งสองฝั่ง วิ่งมาช่วยกันเข้าไปห้ามเอาไว้ได้ทัน สุดท้าย เฟลิกซ์ ไบรช์ ผู้ตัดสินจากเยอรมัน ควักใบแดงไล่ตะเพิดเจ้าตัวออกจากสนามไป
นาที 69
ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ที่ตัวผู้เล่นน้อยยกว่า เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ อิวาน เปริซิช ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าประตูให้ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ โฉบมาโหม่งเหน่ง แต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อยู่มือ
นาที 70
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลางสนาม แล้วเป็น คาร์ลอส คาเซมิโร่ กระดกเบิ้ลบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ โรดริโก้ โกเอส วิ่งสอดหลุดเข้าไปตัดสินใจซัดมุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู กระดอนเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 79 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ทัพราชันชุดขาวเล่นสั้นต่อบอลไปมาซ้ายขวา สุดท้ายมาจบที่ มาร์โก อเซนซิโอ้ บริเวณหน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวแต่งหนึ่งที ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยไปชนเสาไกลซ้ายมือ กระเด้งเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่มองตาปริบ ๆ
นาที 85
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน ทัพงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน ได้ลุ้นตีไข่แตกเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วก็เป็น มิลาน สคริเนียร์ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ทว่าบอลก็ดันไม่มุมเท่าไหร่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! คว้าแชมป์กลุ่มไปครองได้สำเร็จ ส่วนทางด้านอินเตอร์ มิลาน จบที่อันดับ 2 ของตารางคะแนน กอดคอกันผ่านเข้ารอบต่อไป โดยการจับสลากประกบคู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)