เบาดูฮีโร่! ซัดเบิ้ลท้ายเกมช่วยกังหัน เฉือนเอาชนะ “ฝรั่งเศส” ไปอย่างสนุก 2-1

เกมการแข่งขัน ระหว่างทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ กับ ทีมชาติ ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอล ยูโร ยู-21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเล่นกันที่ บอซซิค อารีน่า (สนามกลาง)

เกมนี้ ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ เออร์วิน ฟาน เดอ ลุย มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อับดู ฮาร์รอย กองกลางห้องเครื่องจากสปาร์ต้า ร็อตเทอร์ดัม ดานี่ เดอ วิท เพลย์เมกเกอร์จากอัคล์มาร์ และ จัสติน ไคลเวิร์ต ปีกตัวจี๊ดจากโรม่า ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ ซิลแว็ง รีโปลล์ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังป้ายแดงจากลิเวอร์พูล ฮุสเซม อาอูอาร์ เพลย์เมกเกอร์จากลียง และ มุสซ่า ดิยาบี้ ปีกตัวจี๊ดจากเลเวอร์คูเซ่น

นาที 11

เนเธอร์แลนด์ ได้ลุ้นเล็ก ๆ ก่อนเลย เป็นจังหวะ อับดู ฮาร์รอย ลากจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะบรรจงครอสบอลลึกไปที่เสาไกลให้ มายรอน เบาดู กำลังจะได้เก็งคอรอโหม่งโล่ง ๆ อยู่แล้ว แต่ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส อ่านเกมได้ดี วิ่งโฉบออกมาตัดบอลไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 13

ฝรั่งเศส ต้องมาเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โกแล็ง ดักบา แบ็คขวาตัวเก่ง เป็นจังหวะที่ เจ้าตัวเติมสูงมารับบอลทางกราบขวา แล้วโดน ไทเรล มาลาเซีย สไลด์ติดดาบเสียบที่ข้อเท้าเต็ม ๆ จนล้มลงไปนอน สุดท้ายบาดเจ็บหนัก เล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ปิแอร์ คาลูลู ลงมาเล่นแทนตั้งแต่ต้นเกม

นาที 18

เนเธอร์แลนด์ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วขึ้นมาทางขวา คัลวิน สเตงส์ ลากพาบอลขึ้นมาเอง แล้วกระชากตัดเข้าในมาถึงบริเวณหัวกระโหลก ก่อนวางเท้าซัดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส เฉียดเสาแรกขวามือ ออกหลังไปนิดเดียว

นาที 20

เนเธอร์แลนด์ ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ ไทเรล มาลาเซีย แบ็คซ้ายจอมบุก เติมเกมสูงขึ้นมารับบอล ก่อนจะอาศัยความเร็ว กระชากหนีตัวประกบ หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วปาดเลียดมาตรงกลางประตูให้ คัลวิน สเตงส์ ได้วิ่งบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ แต่ก็ถูก ปิแอร์ คาลูลู กองหลังตัวสำรอง วิ่งมาบล็อกลูกยิงไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 22

ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร โชนาต็อง อิโกเน่ ได้บอลบริเวณกึ่งกลางสนาม ก่อนจะติดเครื่อง กระชากหนีผู้เล่นเนเธอร์แลนด์ หลุดมาถึงหน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วจัดการสับไกด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแล้วมุดลง กำลังจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ผวาพุ่งปัดข้ามคานไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 23 GOAL!!!

จังหวะต่อเนื่องจากเมื่อตะกี้ ฝรั่งเศส ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งขวา มุสซ่า ดิยาบี้ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังตัวใหม่ของลิเวอร์พูล ได้เทกตัวขึ้นโหม่งสะบัดเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงไปเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่ายอย่างสวยงาม หมดสิทธิ์สำหรับ จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์

นาที 32

ฝรั่งเศส น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ต่อบอลขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเนเธอร์แลนด์ มุสซ่า ดิยาบี้ ได้บอลทางกราบขวา ก่อนจะเงยหน้ามอง แล้วบรรจงหยอดบอลคิลเลอร์พาส เข้าไปในพื้นที่ว่างบริเวณจุดโทษให้ ฮุสเซม อาอูอาร์ ได้วิ่งสอดมาตวัดยิงด้วยขวาตามน้ำโล่ง ๆ ที่หน้าประตู แต่เหมือนจะโดนใต้บอลไปหน่อย บอลเหินข้ามคานออกไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 41

เนเธอร์แลนด์ ก็น่าจะได้ประตูตีเสมอเหมือนกัน เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ดานี่ เดอ วิท ลากจี้ขึ้นมาเองตรงกลางถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลคิลเลอร์พาสตัดหลังแนวรับให้ จัสติน ไคลเวิร์ต ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษตรงกลาง แต่เจ้าตัวตะบันด้วยขวา เหินข้ามคาน ลอยโด่งออกหลังไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เกมส่วนใหญ่จะชิงจังหวะกันอยู่ตรงกลางสนาม เกมรับของทั้งคู่ยังถือว่าช่วยกันได้ดี แต่สุดท้าย ก็เป็น ฝรั่งเศส ที่ฉวยโอกาสยิงขึ้นนำไปก่อนได้สำเร็จ 1-0 !!!

นาที 50 GOAL!!!

เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นทาง เนเธอร์แลนด์ ที่มาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร อับดู ฮาร์รอย ส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น กองหลังฝรั่งเศส ที่เช็คล้ำหน้าผิดพลาด บอลพุ่งเลียดไปตรงตัวเข้าทาง มายรอน เบาดู ได้พลิกบอลหลุดเดี่ยวโล่ง ๆ เข้าไปยิงสวนตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส ติดขานิดนึง แต่ด้วยความแรง ก็ยังเสียบมุมแคบเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 52

ฝรั่งเศส มีโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ ฮุสเซม อาอูอาร์ ลากบอลพลิ้วหนีกองหลัง หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดมาที่เสาแรกให้ เฟียสเอาท์ มาออสซ่า วิ่งมากดด้วยซ้ายเน้น ๆ จังหวะเดียวไปที่เสาไกลขวามือ แต่ จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ผวาพุ่งไปปัดทิ้งออกหลังไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 56

เนเธอร์แลนด์ ต่อบอลขึ้นมาตรงกลาง ดานี่ เดอ วิท ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางขวาให้ อับดู ฮาร์รอย ได้วิ่งมาตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษจังหวะเดียว บอลพุ่งแรงเป็นจรวดติดไซด์ก้อย เฉียดสามเหลี่ยมออกไปไม่ไกล ได้หวาดเสียวเหมือนกันจังหวะนี้

นาที 63

เนเธอร์แลนด์ บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย เฟอร์ดี้ คาดิโอกลู ตัวสำรอง รับบอลมาแล้วกระชากตัดเข้าในมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเอี้ยวตัวปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่ก็ยังโค้งไม่พอ หลุดกรอบเสาไกลขวามือออกไปนิดเดียว

นาที 65

ฝรั่งเศส น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว โชนาต็อง อิโกเน่ พลิกบอลหลอกตัวประกบมาได้สวย แล้วกระชากหนีกองหลัง หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายสวนตัว จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ บอลกำลังจะเข้าที่กลางประตูอยู่แล้ว แต่ แปร์ ชูร์ส์ กองหลังเนเธอร์แลนด์ วิ่งตามมาสไลด์ขวางบอลได้ทัน แต่บอลก็ยังไม่พ้นอันตราย กระดอนกลับมาเข้าทาง อโกเน่ อีกครั้ง แต่คราวนี้ เจ้าตัวซ้ำไปชนเสาแรกขวามือเต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 71

ฝรั่งเศส ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเนเธอร์แลนด์ จังหวะ ฮุสเซม อาอูอาร์ กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วลากไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะตวัดกึ่งยิงกึ่งผ่าน ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่ จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ก็ยิงวิ่งออกมาปิดมุม เซฟออกหลังไปได้ทัน ได้เป็นเตะมุม

นาที 72

จากจังหวะเตะมุม แล้วโดนโหม่งสกัดออกมา ฝรั่งเศส ยังเก็บบอลแถวสองได้ต่อ จังหวะนี้ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ ได้บอลหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะแต่งเข้าขวา แล้วตะบันเต็มข้อนอกกรอบทันที บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ จัสติน บิลโรว ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ พุ่งไปคว้าไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 78

ฮุสเซม อาอูอาร์ ทำชิ่ง 1-2 กับ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ หลุดมาถึงในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะหวดด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลก็พุ่งเหินข้ามคานออกไปอีกครั้งหนึ่ง ใช้โอกาสเปลืองจริง ๆ สำหรับฝรั่งเศส

นาที 90+3

เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว บอลโด่งทิ้งยาวขึ้นมาทางกราบขวา จัสติน ไคลเวิร์ต สปีดตามมาเอาบอลได้ ก่อนจะใช้ความเร็วกระชากหนีกองหลังมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วปาดเลียดไปที่เสาไกลซ้ายมือให้ มายรอน เบาดู ได้วิ่งเข้ามาล้มตัวชาร์จด้วยซ้าย ย้อนศรสวนตัว  อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูฝรั่งเศส ลอยย้อยไปที่เสาแรกขวามือ เข้าประตูไป อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เฉือนเอาชนะทีมชาติ ฝรั่งเศส ไปได้อย่างสนุก 2-1 !!! ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในศึกฟุตบอล ยูโร ยู-21 ได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับทีมชาติ เยอรมัน ในรอบต่อไป