เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ตัดพ้อโดนเพื่อนสโมสรในพรีเมียร์ลีกต่อต้านไม่ทำธุรกิจด้วย โดนโก่งค่าตัวนักเตะเกินจริงไปมาก นับตั้งแต่สโมสรได้กลุ่มทุนซาอุฯเข้ามาเทคโอเวอร์
ทัพสาลิกา ล้มเหลวไม่สามารถเซ็นสัญญากับ แจ๊ค แฮร์ริสัน ปีกซ้ายลีดส์ ยูไนเต็ด, เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์เลสเตอร์ ซิตี้ ไปจนถึงผิดหวังกับการเจรจาเพื่อขอยืมตัว แฮร์ริสัน แอชบี้ กองหลังเวสต์แฮม, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ ของอาร์เซนอล และอีกหลายราย
ฮาว ตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา หลังถูกถามว่า สโมสรในพรีเมียร์มองนิวคาสเซิล เป็นภัยคุกคาม ดังเห็นได้จากตลาดซื้อขายที่ยากลำบากในซัมเมอร์นี้หรือไม่
“มันคือความจริง จะว่าอย่างนั้นก็ได้ นั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ในตลาดซื้อขาย สโมสรในประเทศไม่อยากรถูกมองว่าให้การช่วยเหลือเรา เราต้องยอมรับมัน นั่นคือส่วนหนึ่งที่เราต้องเผชิญในตอนนี้” ฮาว กล่าว
“เราค้นพบว่า ไม่มีใครชื่นชอบเรา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเราเปลี่ยนไป ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับในประเทศ ทีมจะตั้งราคาให้สูงขึ้นถ้าเป็นนิวคาสเซิล มันคือแบบเดียวกับทั่วโลก นั่นคือสิ่งที่เราต้องรับมือ”
“นั่นคือเหตุผลที่เราเดินออกมาจากข้อตกลงบางอย่าง เพราะผมคิดว่ามันสำคัญที่เราจะต้องไม่ถูกมองว่าเป็นสโมสรที่พร้อมจะจ่ายตามที่ขอ ผมคิดว่ามันต้องยุติธรรม”
สำหรับตลาดซื้อขายในรอบนี้ นิวคาสเซิล ใช้เงินเสริมทัพไป 123 ล้านปอนด์ กับ 4 ผู้เล่นใหม่ อย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซาค (63 ล้านปอนด์), สเวน บอตแมน (35 ล้านปอนด์), แมตต์ ทาร์เกตต์ (15 ล้านปอนด์) และ นิค โป๊ป (10 ล้านปอนด์)
รวมแล้วใช้เงินไปมากกว่า 200 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่ตลาดรอบเดือนมกราคม หลังกลุ่มทุนซาอุฯเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรไม่นาน ซึ่ง ฮาวยอมรับว่า ตอนนี้ สโมสรใช้เงินเกินงบประมาณไปมาก
“FFP เป็นอุปสรรคใหม่ที่เราต้องรับมือในตลาดรอบนี้ เราได้ศึกษาแนวทางตามข้อกำหนดแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าจะมีผลกระทบต่องบประมาณในอนาคตหรือไม่ ซึ่งผมให้คำตอบไม่ได้ แต่เราเกินจุดที่เราต้องการมาได้ประมาณหนึ่งแล้ว” ฮาว กล่าว