เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพค้างคาว บาเลนเซีย เปิดสนาม เอสตาดิโอ เด เมสตาย่า, เมืองบาเลนเซีย แคว้นบาเลนเซีย ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน นัดที่ห้า เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น บาเลนเซีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โฆเซ่ บอร์ดาลาส มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย การ์ลอส โซเลร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม ดาเนี่ยล วาส ตัวจี๊ดริมเส้น และ มักซี่ โกเมซ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวบัญชาเกม เอแด็น อาซาร์ ปีกจรวดทางเลียบ และ คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าดาวซัลโวตัวความหวังของทีม
นาที 7
ออกสตาร์ทครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ดานี่ การ์บาฆาล เติมสูงขึ้นมาเปิดไปแฉลบบล็อก กระดอนออกมาเข้าทาง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ได้แต่งเข้าซ้าย ก่อนจะซัดไปติดบล็อกอีกครั้ง กระเด้งเข้าทาง กาเซมีโร่ ได้ซ้ำนอกกรอบอีกที คราวนี้ บอลหลุดเสาแรกขวามือ ลอยออกหลังไป
นาที 11
ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เอแด็น อาซาร์ ลากบอลพาบอลขึ้นมาเองทางกราบขวา ก่อนจะแทงบอลตามช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปยิงด้วยขวาตามน้ำ ส่งบอลไปติดเซฟของ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดมุมอยู่ ปัดทิ้งออกมาได้ทัน วินิซิอุส จูเนียร์ วิ่งปรี่มาตามซ้ำ แต่แนวรับเจ้าถิ่นก็ยังเคลียร์ทิ้งออกมาได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 14
ทีมเยือน ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ แทงบอลทะลช่องลอดหว่างขาของ เธียร์รี่ กอร์เรอา ให้กับ เอแด็น อาซาร์ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโชว์ทักษะดึงบอลหลบอย่างเหนือชั้น ก่อนจะซัดมุมแคบด้วยขวายัดไปที่เสาแรกทันที ทว่าบอลพุ่งไปติดบล็อก หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 15
เจ้าถิ่น บาเลนเซีย ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อ การ์ลอส โซเลร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทีม มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ โฆเซ่ บอร์ดาลาส กุนซือทัพค้างคาว จำใจต้องเปลี่ยนเจ้าตัวออกไปพัก ก่อนจะส่ง ยูนุส มูซาห์ ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 23
เจ้าถิ่น ไอ้ค้างคาว บาเลนเซีย ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอีกครั้ง เป็นคนที่สอง เมื่อ เธียร์รี่ กอร์เรอา แบ็คขวาจอมบุก มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โฆเซ่ บอร์ดาลาส ถอดเอาเจ้าตัวออกไปพัก แล้วจัดการส่ง โทนี่ ลาโต้ ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 26
ผ่านมาครึ่งทางของครึ่งแรก ด้านทีมเยือน เรอัล มาดริด ต้องเปลี่ยนตัวเร็วตั้งแต่ต้นเกมเช่นกัน เมื่อ ดานี่ การ์บาฆาล แบ็คขวาตัวเก่ง มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมากประสบการณ์ ถอดเจ้าตัวออกไปพัก แล้วจัดการส่ง ลูกัส บาซเกซ ลงสนามไปเล่นแทน
นาที 31
เจ้าถิ่น บาเลนเซีย มีโอกาสได้ลุ้นประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มักซี่ โกเมซ ถ่างออกมารับบอลทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษที่กรอบ 6 หลาให้ อูโก้ ดูโร่ ได้สอดมาเหยียดขายิงโดนถาก ๆ เปลี่ยนทางผ่านหน้าปากประตู หลุดเสาไกลซ้ายมือไปแบบได้เสียว
นาที 32
ต่อมาไม่ถึงนาที เป็นทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่บุกสวนกลับเร็วขึ้นมาเกือบได้ประตู เอแด็น อาซาร์ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวไหลบอลย้อนคืนมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ วิ่งมาวางเท้าอัดด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 43
เจ้าถิ่น บาเลนเซีย เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แล้วเป็น ดาเนี่ยล วาส รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลโค้งมาที่กลางประตูให้ กาเบรียล เปาลิสต้า ได้สอดมาโหม่งสะบัดเปลี่ยนทางบอลเน้น ๆ พุ่งตรงกรอบ ทว่าทิศทางยังไม่มุมพอที่จะผ่านมือ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดออกไปได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่าเจ้าถิ่น บาเลนเซีย อยู่นิดหน่อย จังหวะเข้าทำสูสี เกมถือว่ายังเปิดเกมแลกกันมากเท่าไหร่ จังหวะจบเหน่ง ๆ มีให้แฟน ๆ ได้เห็นกันแค่ไม่กี่ครั้ง สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 51
เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น บาเลนเซีย ที่น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ จากจังหวะ ยูนูส มูซาห์ เลี้ยงตะลุย พลิ้วหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเลียดเข้าไปที่กลางประตูบริเวณจุดโทษให้ กอนซาโล่ เกเดส ได้วางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มแรง ส่งบอลเหินคาน หลุดกรอบออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 54
เจ้าถิ่น บาเลนเซีย บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน กอนซาโล่ เกเดส ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวดึงจังหวะแล้วไหลเข้าไปที่กลางประตูให้ อูโก้ ดูโร่ วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าบอลพุ่งเลียดไปตรงตัวของ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟเอาไว้ได้สบาย
นาที 59
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ บรรจงครอสบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น โอมาร์ อัลเดเรเต้ โหม่งเคลียร์ออกมาที่หน้ากรอบเขตโทษเข้าทาง ลูกัส บาสเกซ ได้วอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งสวนกลับเข้าไปตรงตัวของ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 62
ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ เอแด็น อาซาร์ แทงบอลตามช่องให้ ลูกัส บาสเกซ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้ากดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรก แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาอยู่ ปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 65
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ดันสูงกันขึ้นมา ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวโยกหาช่อง ก่อนจะอัดด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ บอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ดันไปตรงตัวของ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบายอีกครั้งหนึ่ง
นาที 66 GOAL!!!
ทำไปทำมา กลายเป็นฝั่งเจ้าถิ่น บาเลนเซีย ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะ ดิมิทรี ฟุลกีเยร์ ตั้งป้อมครอสบอลจากทางกราบขวาไปที่หน้าประตู แล้วเป็น ลูกัส บาซเกซ โหม่งสกัดบอลไม่ดีกลายเป็นเลยไปที่เสาไกลตั้งให้ อูโก้ ดูโร่ ได้วิ่งมาหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งผ่านบล็อกของ เอแดร์ มิลิเตา ต่อด้วยหนีมือ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 68
ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูตีเสมอทันควัน เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า พาบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกหาช่อง ก่อนจะเห็นเหลี่ยมแล้วกดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 75
ทีมเยือน เรอัล มาดริด โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ คาริม เบนเซม่า เจ้าเก่า ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เขยิบมารับเอาไว้ได้สบาย
นาที 86 GOAL!!!
หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูตีเสมอจนได้เป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า ครองบอลอยู่ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้หลุดเข้าไปเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบขาของ ดิมิทรี ฟุลกีเยร์ เปลี่ยนทางเสียบเสาแรกเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย แบบงง ๆ หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ จอร์จี้ มามาร์ดาสวิลี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น
นาที 88 GOAL!!!
ถัดมาแค่สองนาที ทีมเยือน ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ คาริม เบนเซม่า โฉบมาโขกแปก ๆ บอลไปโดนหัวไหล่ กระแทกเปลี่ยนทางเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก เป็นประตูที่ 6 ในลีกของเจ้าตัวในฤดูกาล ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวในขณะนี้อีกด้วย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น บาเลนเซีย ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! รั้งจ่าฝูงแบบเดี่ยว ๆ โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเรอัล มายอร์ก้า ในคืนวันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านบาเลนเซีย อยู่อันดับที่ 3 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเซบีย่า ในวันเดียวกัน