เรือใบ ฟอร์มดุ ! เบียดหงส์ แชมป์เก่า ตกรอบ 3-2 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้  กับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ใน ศึก คาราบาวคัพ (อังกฤษ) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 ที่คุ้นเคย นำโดยแกนหลีกของทีมเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สเตฟาน ออร์เตก้า,มานูเอล อคันยี่,โรดรี้,เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ 

ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน นำโดยแกนหลักของทีมอย่าง ควีวิต เคลเลเฮอร์,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,สเตฟาน บาจเซติช,ติอาโก้ อัลคันทาร่า,ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นต้น 

นาทีที่ 10 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 1-0

ประตูแรกของเกมไม่ต้องรอนาน แมนซิตี้ จัดให้ก่อนเลย จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เลี้ยงบอลขึ้นเกมทางกราบซ้าย ก่อนจะสบโอกาส โยนเข้ากลางให้ ฮาลันด์ กระโดดดีดบอล ข้ามตัว  เคลเลเฮอร์ ตุงตาข่ายอย่างสวย 

นาทีที่ 20 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1

ลิเวอร์พูล ที่เริ่มจับจังหวะของเกมได้ ในที่สุดพวกเขาก็ตามตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ มาติป เลี้ยงบอลตะลุยขึ้นหน้าไปเอง ก่อนจะฝากต่อให้ มิลเนอร์ แตะบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เปิดบอลตบเข้ากลางให้ คาร์วัลโญ่ วิ่งมายิงโล่งๆ ส่งบอลซูกก้นตาข่ายไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 36

ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล มีเสียวเกือบเสียประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ขึ้นเกมทางฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงเปิดให้ กุนโดกัน หลุดเข้าไปตวัดยิงเร็วในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดาย บอลสุดท้ายยังไม่ผ่านมือของ  เคลเลเฮอร์ 

หมดครึ่งเวลาแรก 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 1

ลิเวอร์พูล – 1

นาทีที่ 47 แมนซิตี้ แซงนำ 2-1

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 2 นาทีเศษ แมนซิตี้ ก็มาได้ประตูแซงนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ โรดรี้ วางบอลยาวให้ มาห์เรซ สปีดตามไปเอาบอลลงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเลือกก้มหน้าซัด ด้วยซ้ายข้างถนัดแบบเน้นๆ ส่งบอลพุ่งหนีมือ เคลเลเฮอร์ เข้าประตู 

นาทีที่ 48 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 2-2 

แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ท้อเร่งเครื่องยิงคืนได้ไวสุดๆ จากจังหวะที่ แชมเบอร์เลน ดีไซน์ก้อยขนานเส้นให้ นูนเญซ กระชากบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนจะเลือกจ่ายให้ ซาลาห์ วิ่งมาแทปอินง่ายๆ ส่งบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ

นาทีที่ 58 แมนซิตี้ พลิกแซง 3-2 !! 

ยิงกันไม่พัก แมนซิตี้ เสียประตูที่สองได้แปปเดียว พวกเขาก็ยิงแซงนำได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เปิดบอลยาวลึกไปเสาไกลให้ อาเก้ แอบวิ่งสอดขี้นมาโหม่งจ่อๆ ระยะเผาขน ส่งบอลตุงตาข่ายอย่างสวย 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่า ส่งผลให้พวกเขาเบียดเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ ด้วยสกอร์รวม 3-2