ความกังวลในเรื่องความไม่สงบด้านการเมืองภายในประเทศตุรกีอาจทำให้ แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ต้องเปลี่ยนสังเวียนกันอีกครั้ง
รายงานจาก ดิ อินเดเพนเดนต์ บอกว่าตอนนี้ยูฟ่ายังยืนกรานที่จะให้นัดชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีกจัดที่อิสตันบูลตามเดิม
อย่างไรก็ตามพวกเขาวางแผนเผื่อไว้หากจำเป็นต้องเปลี่ยนสนาม จากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีของตุรกีจะเกิดขึ้น 1 เดือนก่อนหน้าเกมนัดชิงชนะเลิศที่สนาม อตาเติร์ก สเตเดี้ยม
อิสตันบูลถูกวางคิวให้จัดนัดชิงชนะเลิศมา 2 หนตลอด 3 ปีหลังสุด แต่ปัญหาเรื่องโควิดทำให้ต้องเลื่อนกำหนดการทั้งสองหน
เกมนัดชิงระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2020 นั้นต้องเปลี่ยนไปใช้สนามที่ลิสบอนแทน หลังจากเปลี่ยนการแข่งขันเป็นรูปแบบมินิทัวร์นาเมนต์ชั่วคราว
แล้วในปีถัดมา เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีคิวต้องแข่งที่ตุรกีเหมือนกัน แต่การระบาดของโควิดทำให้ตุรกีติดลิสต์ห้ามเดินทางของสหราชอาณาจักร สุดท้ายก็ต้องย้ายไปแข่งในโปรตุเกสอีกครั้ง
ฤดูกาลที่แล้วนัดชิงระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด มีคิวลงสนามในเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กประเทศรัสเซีย แต่การบุกยูเครนส่งผลให้เปลี่ยนไปใช้สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในปารีส
นัดชิงปีก่อนมีการให้แต่ละเมืองยื่นข้อเสนอว่าควรย้ายนัดชิงไปจัดที่ไหน อย่างไรก็ตามหากมีการเลื่อนนัดชิงปีนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะช่วงเวลาระหว่างการเลือกตั้งกับนัดชิงห่างกันไม่มาก
การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม ส่วนนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกจะเตะกันวันที่ 10 มิถุนายน แต่ยูฟ่าก็เตรียมพร้อมสำหรับการย้ายสังเวียนในเวลากระชั้นชิด โดยใช้บทเรียนจากทัวร์นาเมนต์ตลอดสามปีที่ผ่านมา
หนสุดท้ายที่อิสตันบูลได้จัดนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกก็ต้องย้อนไปปี 2005 โดย ลิเวอร์พูล คัมแบ็คจากการตามหลัง 3-0 กลับมาเอาชนะ เอซี มิลาน ในการดวลจุดโทษ