มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงไม่ได้ฟาวล์ ทั้งที่ถูก ฌูลส์ คุนเด้ เตะขา พร้อมยอมรับการโดน บาร์เซโลน่า ตีเสมอ ทำให้ตนรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้
แรชฟอร์ด ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ยิงประตูปลุกความหวังให้ทีมบุกไปเสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 ในศึก ยูโรป้า ลีก วันพฤหัสที่ผ่านมา
นั่นทำให้ซีซั่นนี้ แรชฟอร์ด ทำไปแล้ว 22 ประตูจากการลง 35 นัดทุกรายการ เทียบเท่าสถิติยิงสูงสุดของตัวเอง ซึ่งเขาทำไว้ในฤดูกาล 2019-20
ถึงแม้ฟอร์มส่วนตัวจะน่าประทับใจ แต่ดูเหมือนว่าแข้งชาวอังกฤษวัย 25 ปียังไม่พอใจกับผลการแข่งขันของทีมมากนัก
“มันรู้สึกเหมือนความพ่ายแพ้” แรชฟอร์ด ให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ BT Sport
“ช่วงครึ่งแรกพวกเขาอาจเหนือกว่าเล็กน้อย แต่เราทำได้ดีแล้วในการกลับเข้าสู่เกม, เล่นอย่างใจเย็นและมีความสุขุม”
“เมื่อมีโอกาส เราพยายามสร้างจังหวะทำประตู และเรายิงได้ 2 ลูกอย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเป็นฝ่ายกำหนดผลการแข่งขัน”
“มันเป็นเรื่องยากที่ผมจะหามุมยิงจากตำแหน่งนั้น แต่ผมแค่ตัดสินใจและพยายามยิงให้เข้าข้อมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งโชคดีที่สุดท้ายบอลเข้าประตู”
“บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่ดี ซึ่งมีผู้เล่นระดับท็อปหลายคน และหลังจากนั้นพวกเขาทำประตูตีเสมอได้สำเร็จ”
“คุณต้องคาดหวังไว้ก่อนแล้วว่า บาร์เซโลน่า จะกลับมาได้, พวกเขามีผู้เล่นคุณภาพสูงหลายคน, เราให้เวลาพวกเขาได้ครองบอล และพวกเขาก็ลงโทษเรา เรื่องมันเรียบง่ายแค่นี้”
ช่วงนาทีที่ 64 เกิดจังหวะปัญหาขึ้นเมื่อ แรชฟอร์ด กำลังจะหลุดเข้าเขตโทษแล้วปะทะกับ ฌูลส์ คุนเด้ ล้มลงไป ทำให้ทาง ยูไนเต็ด ประท้วงเอาฟาวล์แต่ไม่เป็นผล
เอริค เทน ฮาก กุนซือ ยูไนเต็ด วิจารณ์ผู้ตัดสินทำผิดพลาดในจังหวะนี้ ซึ่ง แรชฟอร์ด ก็คิดคล้ายกันกล่าวเพิ่มเติมว่า
“มันเป็นจังหวะที่สำคัญมากสำหรับเกมนี้ และผมยังไม่ได้ดูภาพช้าย้อนหลัง”
“แต่ในเวลานั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ตัดสิน หรือผู้กำกับเส้น ถึงคิดว่าผมล้มลงไปเอง”
“ผมแตะบอลหลบ คุนเด้ ไปแล้ว เท้าของผมอยู่ข้างหน้าลูกบอล แล้วเขาก็เตะขาผม”
“มันมีการปะทะอย่างชัดเจน, ถึงจะไม่ใช่จุดโทษ แต่เป็นการฟาวล์ใส่ผมแบบ 100 เปอร์เซนต์ แต่ก็อย่างที่บอกไปคือผมยังไม่ได้ดูภาพช้า”