อาร์แซน เวนเกอร์ จวกปารีส แซงต์-แชร์กแมงก์ หลังเล่นแบบใช้อารมณ๋ในแนวทางที่โง่เง่า จนปราชัยให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกนัดแรก
มาร์ควินญอส โขกประตูให้เปแอสเชออกนำไปก่อนในครึ่งหลัง แต่แมนฯ ซิตี้ ทำผลงานได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง มาตามตีเสมอจาก เควิน เดอ บรอยน์ และเป็น ริยาด มาห์เรซ ยิงฟรีคิกเป็นประตูชัย
เปแอสเช ต้องเหลือนักเตะ 10 คน จากจังหวะที่ ไอดริสซ่า เกเย่ ไปเข้าบอลแบบน่าเกลียดใส่ อิลคาย กุนโดกัน ซึ่งเปแอสเชมองว่าความพังของ เปแอสเช ในครึ่งหลังนั้นมาจากระเบียบวินัยที่ย่ำแย่
เขาเริ่มจากพูดถึงลูกฟรีคิกของ มาห์เรซ: “กับกองหลังที่หันหลังให้บอล ระหว่างพาเรเดสและคิมเพ็มเบ้ คุณจะให้นักเตะไปนอนบนพื้นทำไมถ้ากำแพงมีช่องโหว่?
“ส่วนตัวผมเชื่อว่าประตูที่ 2 คือยอมรับไม่ได้นะในเกมระดับนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นนักเตะหันหลัง และซิตี้ก็ฉวยความได้เปรียบจากสิ่งดังกล่าว
“แต่ผมต้องบอกเลยว่าในครึ่งหลังเปแอสเชเล่นแบบระมัดระวัง ไม่ได้เล่นแบบก้าวหน้าอีกแล้ว มันเป็นเพราะร่างกายของพวกเขาไม่ไหวหรือเปล่า?
“พอสกอร์เป็น 1-1 พวกเขาพังแบบชัดเจนเลย พวกเขาใช้อารมณ์แล้วก็เล่นดุดันในแนวทางที่โง่เง่า
“สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ในคืนนี้คือคุณเห็นเลยว่าพอสกอร์กลายเป็น 1-1 ใจของเปแอสเชนี่พังครืนเลยนะ
“มันอาจจะเป็นผลกระทบจากการแพ้ 8 นัดในลีกก็ได้ เรื่องนี้มีอิทธิพลต่อสถานการณ์ในลักษณะนี้
“ตอนที่สกอร์อยู่ 1-1 ทีมของพวกเขารู้ว่าเคยแพ้มาหลายนัด พวกเขาคิดเรื่องนี้ในใจ มันไม่เหมือนฤดูกาลก่อน ๆ ตอนที่พวกเขาแทบไม่แพ้ให้ใครในลีก
“คุณเห็นเลยว่าความมั่นใจของพวกเขาลดลงเยอะมาก และมันก็มีผลกระทบต่อจิตใจตอนที่แมนฯ ซิตี้ตีเสมอได้”