เอ็มบั๊ปเป้ฮีโร่!!! ซัดทดเจ็บ พา “เปแอสเช” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “เรอัล มาดริด” ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) เปิดสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด (สเปน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเล่นในระบบ 4-3-1-2 นำทีมโดย ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม อังเคล ดิ มาเรีย ปีกจอมลากเลื้อย และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โทนี่ โครส กองกลางตัวคุมจังหวะเกม ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก๋า และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวความหวังของทีม

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ได้ทักทายก่อน แถมหวิดจะได้ประตูขึ้นนำเร็ว จากจังหวะ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากจี้เข้าหาตังประกบโยกหาช่องเปิด ก่อนจะครอสเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ อังเคล ดิ มาเรีย สอดมาตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ทว่าโดนใต้บอลมากเกินไปหน่อย สุดท้ายส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 17

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ลิโอเนล เมสซี่ บรรจงตักบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งสอดเบียดเอาชนะ ดานี่ การ์บาฆัล ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้าเสาแรกซ้ายมือ ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน อ่านเกมขาด ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 19

จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แล้วเป็น ลิโอเนล เมสซี่ รับอาสา บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ ดานิโล เปเรร่า โฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ ไปแฉลบ เอแดร์ มิลิเตา สุดท้ายเปลี่ยนทางไปตรงตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้ามือเอาไว้ได้สบาย

นาที 23

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ป้ายบอลเปลี่ยนแกนออกมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ นูโน่ เมนเดส ที่ดันสูงเติมเกมรุกขึ้นมารับบอล ตัดสินใจเล่นลูกลักไก่ วางเท้าซัดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปที่เสาแรก แต่เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังไม่เหม่อ เขยิบมาคว้าเอาไว้ได้ทันอย่างไม่ยากเย็น

นาที 32

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลหลุดมาถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโชว์ลีลาเลี้ยงแหวกขึ้นมาโยกหลอก ดาวิด อลาบา มาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะพยายามยิงเร็ว ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

นาที 45+1

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้มีโอกาสได้ลุ้นครั้งแรกส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย โทนี่ โครส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น คาเซมิโร่ โฉบตัดหน้าของ เปรสแนล คิมเพ็มเบ้ ได้โขกเหน่ง ๆ ส่งบอลถากเสาแรก หลุดออกหลังไป ผู้ตัดสินเป่าจบทันที

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพมหาเศรษฐีเมืองน้ำหอม ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 61 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว อยู่แทบจะฝั่งเดียวผิดคาด ทว่าโอกาสจบในพื้นที่อันตรายยังทำได้ไม่คมพอ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0 เรอัล มาดริด 0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลังมา รูปเกมยังเหมือนเดิม เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เดินหน้าบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ มาร์โก แวร์รัตติ จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษให้กับ อาชราฟ ฮาคิมี่ ไขว้บอลจังหวะเดียวทำชิ่งสั้น ๆ ต่อไปที่กลางประตูให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะตามมาตวัดยิงเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาทิ้งตัวไปปัดออกมาเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 53

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดึงจังหวะไหลนิ่ม ๆ คืนมาที่หน้ากรอบตั้งให้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้วิ่งสอดมาวางเท้าบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าทิศทางยังไม่ถึงกับมุมเท่าไหร่ แล้วก็เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เจ้าเก่า ยังเซฟเอาไว้ได้เหมือนเดิม

นาที 54

ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ ดีดบอลไหลย้อนตั้งมาที่หน้าเขตโทษให้กับ โทนี่ โครส วิ่งมาวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ระยะร่วม 30 หลา ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมติดไซด์ก้อย เหินเฉียดคาน หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 56

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหลุดขึ้นมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากจี้โยกหาช่อง ก่อนจะเห็นเหลี่ยมวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยอ้อมตัวประกบ ทว่าทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ บอลสุดท้ายเลี้ยวเข้ามือของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 62 จุดโทษ!!!

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลกระชากทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน ดานี่ การ์บาฆัล เข้าบอลเสียเหลี่ยมเสียบสกัดเจ้าตัวร่วงลงไป ช็อตนี้ ผู้ตัดสิน ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ จากอิตาลี่ ไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษทันที แล้วเป็น ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหาร ทว่าดันซัดไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เดาทางพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 75

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โหมบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ เนย์มาร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ลงไปเรียกฟรีคิกระยะอันตรายได้ที่หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วก็เป็น ลิโอเนล เมสซี่ อาสารับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยหลุดออกหลังไป ทำได้แค่เสียว

นาที 77

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ สอดขึ้นมารับบอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหนี โทนี่ โครส ตัดเข้าในมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะเห็นช่อง สบโอกาสได้บรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมเยือน ผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้นอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 87

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังคงเดินหน้าหาประตูขึ้นนำอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ยกบอลข้ามแนวรับอย่างเหนือชั้นให้ เนย์มาร์ ได้สปีดสอดไปถึงบอลที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะพยายามกระดกบอลยิงมุมแคบให้ข้ามตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมเยือน สุดท้ายบอลลอยผ่านหน้าปากประตู หลุดออกอีกเสาไปชนิดหวาดเสียว

นาที 90+4 GOAL!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำที่ต้องการจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ รับบอลตอกส้นของ เนย์มาร์ มาที่ริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวติดเครื่องลากจี้เข้าเขตโทษ ก่อนจะพลิ้วแหวกกลางสองแนวรับ ได้หลุดเดี่ยวทะลุเข้าไปเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ ที่หน้าเสาแรก ส่งบอลพุ่งแรงสวนตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน เรอัล มาดริด ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! เปแอสเชคว้าความได้เปรียบในนัดแรกเอาไว้ได้ก่อน โดยนัดที่สองอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งคู่จะกลับไปเล่นในถิ่นของ เรอัล มาดริด ซึ่งจะเตะกันในคืนวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้