เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก) เปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีม เชลซี (พรีเมียร์ลีก) ในศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตรระดับสโมสรช่วงปรีซีซั่น เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ ที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางเท้าหนักคอยคุมจังหวะเกม นิโกล่าส์ เปเป้ ปีกตัวพลิ้วค่าตัวแพง และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย ฮาคิม ซีเย็ค เพลย์เมกเกอร์จอมเทคนิค คริสเตียน พูลิซิช ปีกความเร็วสูง และ ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 3
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย เลี้ยงจี้ตัดเข้าในทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนจะไหลมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ รูเบน ลอฟตัส ชีค ได้วิ่งมาวางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งไปติดบล็อกของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ กระดอนหลุดออกหลังไป
นาที 4
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมาทางซ้าย ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง กระชากพาบอลขึ้นมาเองด้วยความเร็ว หลุดมาถึงเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดมาที่หน้าเสาไกลให้ เอมิล สมิธ โรว์ ที่วิ่งสอดขึ้นมา กำลังจะได้ง้างเท้ายิงโล่ง ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน อ่านเกมได้ดี ออกมาตัดบอล คว้าไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 5
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล มีโอกาสได้ลุ้นประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ คีแรน เทียร์นี่ย์ เติมเกมรุก ดันสูงหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสบอลพุ่งโค้งมาที่หน้าปากประตูให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ได้วิ่งโฉบมาชาร์จจ่อ ๆ แต่เจ้าตัวโดน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ตามมาเบียดจากด้านหลัง ทำให้ยิงวืด บอลผ่านหน้าปากประตู หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 20
ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างสนุกสูสี ต่างฝ่ายต่างก็หลุดขึ้นมาเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่ก็แนวรับของทั้งสองทีม ก็ยังตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น รูปเกมเป็นทาง เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ถ้าพูดถึงจังหวะเข้าทำ เป็นทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ที่ดูวูวาบ น่ากลัวกว่าพอสมควร
นาที 25 GOAL!!!
ทีมเยือน เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ติโม แวร์เนอร์ ลากจี้ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวหันไปมอง แล้วแทงบอลขวางสนามตามช่อง ทะลุแหวกกลางแนวรับไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่วิ่งขนาบขึ้นมาอีกฝั่ง ได้แตะบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัว แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบสามเหลี่ยมเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 29
ทีมเยือน เชลซี บุกขึ้นมาอีกชุดเกือบได้ประตู เป็นจังหวะ กองหลังเจ้าถิ่นดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนาม สิงห์บลูตัดบอลได้แล้วแทงบอลสวนกลับเร็วขึ้นหน้าให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้อาศัยความเร็ว กระชากพาบอลหนีแนวรับเจ้าถิ่น หลุดเดี่ยวทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายได้สวย แต่ดันมาตกม้าตายจังหวะสุดท้าย จิ้มบอลด้วยขวายัดไที่เสาแรก เข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 30
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ โต้กลับเร็ว บุกสวนขึ้นมาตรงกลาง เจ้าหนู เอมิล สมิธ โรว์ กระชากพาบอลขึ้นมาเอง ถึงหัวกระโหลก มีเพื่อนวิ่งขนาบซ้ายขวา แต่สุดท้าย เจ้าตัวตัดสินใจซัดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนโคนเสาขวามืออย่างจัง บอลกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 32
เกมเปิดแลกกัน ทีมเยือน เชลซี บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้ ติโม แวร์เนอร์ ได้บอล ติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกหนี คัลลั่ม แชมเบอร์ส แล้วซัดเร็วด้วยซ้าย ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่บอลเบาแถมตรงตัวของ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนรอที่เสาอยู่แล้ว รับไว้ได้สบาย
นาที 38
ทีมเยือน เชลซี บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกตัดเข้าใน แล้วปั่นเร็วด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวย เฉียดสามเหลี่ยมออกไปไม่ไกล ได้หวาดเสียวเหมือนกัน
นาที 40
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ค่าตัวแพง เกิดมีอาการบาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว มิเกล อาร์เตต้า กุนซือหนุ่มไฟแรง ต้องตัดสินใจ ถอดเจ้าตัวออกมาดูอาการข้างสนาม แล้วจัดการส่ง กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ห้องเครื่องชาวสวิสเซอร์แลนด์ ลงสนามมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน
นาที 40
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล มีโอกาสได้ลุ้นเล็ก ๆ เป็นจังหวะ แทงบอลขึ้นหน้าขึ้นมาทางกราบซ้าย ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง สปีดมาเก็บบอล หลุดมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะปาดเลียดไปที่กลางประตูให้ นิโคล่าส์ เปเป้ กำลังจะได้เข้าชาร์จซัดโล่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่ายังคงเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่อ่านเกมได้ดี พุ่งออกมาตัดบอล คว้าเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 42
ทีมเยือน เชลซี น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ทำเสียบอลที่หน้าเขตโทษของตัวเอง ติโม แวร์เนอร์ ได้บอลลากจี้ขึ้นมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะป้ายเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฮาคิม ซีเย็ค ได้เลี้ยงจี้เข้าหาตัวประกบ แล้วซัดเลียดด้วยซ้ายลอดหว่างขา ร็อบ โฮลดิ้ง ไปได้ดื้อ บอลพุ่งหนีมือ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนไปชนเสาไกลขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 45+2
ทีมเยือน เชลซี เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะความยอดเยี่ยมของ คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ที่ได้บอลทางซ้ายของกรอบเขตโทษ โชว์ความพลิ้วโยกหนี ปาโบล มารี หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษอย่างสวย ก่อนที่เจ้าตัวจะลากจี้เข้าหาประตู แล้วซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่เป็น แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว กางแขนกางขา บล็อกลูกยิงไว้ได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก เป็นทางฝั่งเจ้า อาร์เซน่อล ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเยือน เข้าไปลุ้นประตูจั๋ง ๆ ได้เลย สวนทางกับทีมเยือน เชลซี ที่บุกสวนขึ้นมาแต่ละทีได้ลุ้นสุด ๆ สกอร์ตอนนี้ อาร์เซน่อล 0 เชลซี 1 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ถอดเอา ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ครึ่งแรกรั่วเหลือเกิน ออกไปพักข้างสนาม แล้วจัดการส่ง เบน ไวท์ กองหลังป้ายแดงค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ลงสนามมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน ส่วนทางด้านทีมเยือน เชลซี เปลี่ยนแทบจะยกชุด ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ดาวรุ่ง นักเตะที่คุ้น ๆ ชื่อที่ลงมา ก็เห็นจะมีแค่ แทมมี่ อบราฮัม, แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ และ ดาวิเด้ ซาปาคอสต้า
นาที 49
ทีมเยือน เชลซี ได้ลุ้นก่อน เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เล่นสั้นส่งมาให้ ดาวิเด้ ซาปาคอสต้า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ โยกหนี ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง หลุดไปถึงสุดเส้น ก่อนจะปาดเลียดไปที่เสาแรกให้ แทมมี่ อบราฮัม ได้แปด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไปติดบล็อกของ เบน ไวท์ ที่ล้มตัวขวางเอาไว้ได้ทัน บอลกระดอนออกหลัง ได้เป็นเตะมุม
นาที 50
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล โต้กลับเร็วขึ้นมา อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ตัดบอลได้ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน เจ้าตัวแทงทะลุช่องเร็วให้ นิโคล่าส์ เปเป้ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโยกหลอกตัวประกบเข้าเหลี่ยมเท้าขวา แล้วซัดเลียดเน้น ๆ เล่นทาง บอลกลิ้งผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาที 54
ทีมเยือน เชลซี พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ฮาคิม ซิเย็ค ได้บอลหลุดเข้าไปที่หน้าปากประตู แต่เจ้าตัวไม่ยอมยิง มัวแต่โชว์ทักษะ ล็อกบอลหลอก คัลลั่ม แชมเบอร์ส แล้วยิงด้วยขวาไปติดบล็อกของ เบน ไวท์ ที่ตามมาช่วย สไลด์ขวางเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 55
เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ได้ฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหัวกระโหลกตรงกลางพอดี แล้วเป็น อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ รับหน้าที่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ อ้อมกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย กำลังจะเสียบโคนเสาขวามืออยู่แล้ว แต่เป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดออกมาได้ทัน อย่างไม่น่าเชื่อ ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 68 GOAL!!!
ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย นิโคล่าส์ เปเป้ บรรจงเปิดบอลโด่ง ไซด์โค้งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น กรานิต ชาก้า ได้เทคตัวขึ้นโหม่งกดลงพื้นคนเดียวเน้น ๆ บอลพุ่งกระเด้งพื้น ย้อนศรเสียบตาข่ายหน้าต่างเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แต่หันมอง
นาที 72 GOAL!!!
ทีมเยือน เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ ได้ส้มหล่นจากความผิดพลาดของ เอ็คตอร์ เบเญริน ที่จ่ายบอลคืนหลังไม่ดู กลายเป็นส่งถวายพานให้ แทมมี่ อบราฮัม หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ได้ล่อเป้าบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง สวนตัว แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 85
ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล พยายามโหมบุกหนัก หวังตามตีเสมอให้ได้ แต่ทว่า แนวรับทีมเยือน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ก็ยังช่วยกันได้ดี ตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น เอาตัวรอดไว้ได้ตลอด สุดท้ายจบเกม ทีมเยือน ที่เล่นได้แน่นอนกว่า คว้าชัยชนะไปครองได้สำเร็จ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชลซี บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! โดยเชลซี จะมีคิวอุ่นแข้งกับทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางอาร์เซน่อล จะมีโปรแกรมต้องพบกับทีม สเปอร์ส เช่นเดียวกัน แต่เป็นวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม ถัดมา