แทมมี่ซัดโทน!! ช่วยทัพหมาป่า “เอเอส โรม่า” เปิดรังเฉือนเอาชนะทัพกระทิงหิน “โตริโน่” เกาะที่ 5 ของตาราง

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า เปิดสนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพกระทิงหิน โตริโน่ ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 14 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอเอส โรม่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 นำทีมโดย เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม สเตฟาน เอล ชาราวี่ ตัวจี๊ดริมเส้น และ แทมมี่ อับราฮัม ดาวยิงตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โตริโน่ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อีวาน ยูริช มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย ตอมมาโซ่ โพเบก้า มิดฟิลด์ห้องเครื่อง ซาซ่า ลูคิช เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ อันเดรีย เบล็อตติ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 10

เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน โตริโน่ ที่ถือว่าทำผลงานได้ดีกว่า เดินเกมสู้กับเจ้าถิ่นได้อย่างสูสี มีโอกาสได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ เดนนิส ปราท ขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ รุย ปาทริซิโอ้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 15

เจ้าถิ่น โรม่า ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งแรก เมื่อ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเดอะสเปเชี่ยลวัน จัดการเปลี่ยนตัวเอา คาร์เลส เปเรซ ลงสนามมาทำหน้าที่แทนในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 20

ทีมเยือน โตริโน่ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ คอฟฟี่ ฌิฌี้ ดันสูงขึ้นมาแทงบอลออกขวาให้ วิลฟรีด ซิงโก้ หลุดไปทางริมกรอบเขตโทษ ก่อนจะครอสเร็วจังหวะเดียวไปที่หน้าเสาแรกขวามือให้ เดนนิส ปราท วิ่งสอดมาพุ่งโหม่งเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ รุย ปาทริซิโอ้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

นาที 24

ทีมเยือน โตริโน่ พลาดโอกาสทองอีกหน จากจังหวะ รุย ปาทริซิโอ้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เตะเปิดโด่งมาที่กลางสนามโดน เบรเมอร์ เบิ้ลสวนคืนไปที่หน้าเขตโทษให้กับ อันเดรีย เบลอตติ โหม่งชงต่อให้ ซาซ่า ลูคิช แปะบอลสั้น ๆ ไหลมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ ทอมมาโซ่ โปเบก้า ได้วิ่งสอดขึ้นมาซัดแบบฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายโล่ง ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 28

ทีมเยือน โตริโน่ บุกขึ้นมาได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โจซิป เบรกาโล่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกลถึง อันเดรีย เบลอตติ ตวัดเร็วไปแฉลบ เบรเมอร์ กระเด้งมาที่หน้าเสาแรกซ้ายมือเข้าทาง อเลสซานโดร บอนจอร์โน่ ได้กลับตัวยิงจ่อ ๆ ทว่าติดบล็อกของ แทมมี่ อับราฮัม กระโดดมาสไลด์ขวางทางได้ทัน บอลกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมอีกครั้งหนึ่ง

นาที 32 GOAL!!!

ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า ที่มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว มาติอัส วิญ่า จ่ายมาที่กึ่งกลางสนามให้ เฮนริค มาคิทาร์ยาน ลากจี้มาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายยัดตามช่องดื้อ ๆ เข้าไปที่กลางประตูให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้แต่งบอลโล่ง ๆ ตามด้วยแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทางหนีมือ วานย่า มิลินโควิช ซาวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน เบียดเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 42

เจ้าถิ่น โรม่า เกือบได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะ แทมมี่ อับราฮัม จ่ายย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ นิโกโล่ ซานิโอโล่ ดึงจังหวะแทงตามช่องยัดมาถึง สเตฟาน เอล ชาราวี่ ในเขตโทษฝั่งซ้าย ได้ลากตัดเข้าในก่อนจะโดน อเลสซานโดร บอนจอร์โน่ สไลด์กวาดร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ดานิเอเล่ ชิฟฟี่ ชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพหมาป่าทันที ทว่ามีสัญญาณ VAR จากข้างสนามเรียกให้ไปดูอยู่นานถึง 5 นาที 20 วินาที สุดท้ายกลับลงมาริบจุดโทษคืน เนื่องจากมีการล้ำหน้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว รอดตัวไปสำหรับทัพกระทิงหิน

นาที 45

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น โรม่า ที่เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย คาร์เลส เปเรซ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น แทมมี่ อับราฮัม วิ่งโฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลทำท่าจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น วานย่า มิลินโควิช ซาวิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดข้ามคานเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 45+6

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน โตริโน่ ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ คอฟฟี่ ฌิฌี้ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางกราบขวา เจ้าตัวเงยหน้ามอง ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อันเดรีย เบลอตติ โฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ทว่ากดไม่ลง ส่งบอลลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน โตริโน่ ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 64 เปอร์เซ็นต์ ทว่ากลับเป็นทางฝ่ายเจ้าถิ่น โรม่า ที่ชิงออกนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ โรม่า 1 โตริโน่ 0 !!!

นาที 47

เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน โตริโน่ ที่เปิดฉากลุยใส่โรม่าต่อทันที จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมแล้วโดน รุย ปาทริซิโอ้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ชกทิ้งออกมาเข้าทาง วิลฟรีด ซิงโก้ ทางริมเส้นฝั่งขวา ได้ตั้งป้อมบรรจงครอสเข้าไปที่กลางประตูอีกครั้ง แล้วเป็น เบรเมอร์ ได้โขกเหน่ง ๆ แต่บอลทิศทางไม่เข้าเป้า หลุดกรอบลอยออกหลังไปอีก

นาที 53

ทีมเยือน โตริโน่ บุกขึ้นมามีโอกาสได้จบเหน่ง ๆ สองหนติด ๆ กัน เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกนอกกรอบ โจซิป เบรกาโล่ เปิดโด่งลึกไปที่เสาไกลให้ อันเดรีย เบลอตติ ได้โหม่งตั้งเข้ากลางถึง เกรสัน เบรเมอร์ ได้ซัดเน้น ๆ ติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งมาเข้าทาง วิลฟรีด ซิงโก้ ได้ซ้ำอีกทีก็ยังไม่ผ่านผู้เล่นโรม่า ช่วยกันบล็อกป้องกันเอาไว้ได้อีกหน

นาที 55

ทีมเยือน โตริโน่ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ทอมมาโซ่ โปเบก้า จ่ายบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ โจซิป เบรกาโล่ ได้โยกหาช่องแต่งเข้าขวา ก่อนจะตะบันเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมมุดลงไปที่เสาซ้ายมือ ทว่าเป็น รุย ปาทริซิโอ้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปฏิกิริยายังไง ผวาพุ่งไปเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 64

ทีมเยือน โตริโน่ เกือบได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะ วิลฟรีด ซิงโก้ ครอสจากขวาไปที่เสาไกลให้ โจซิป เบรกาโล่ โหม่งตัังเข้ากลางให้ อเลสซานโดร บอนจอร์โน่ กำลังจะได้ง้างเท้ายิงแต่ไปโดน ริค คาร์สดอร์ป รวบล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินทีแรกให้เป็นจุดโทษ ก่อนจะเป่าหยุดเกมเพื่อไปเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมายึดคืน เพราะมีผู้เล่นโตริโน่ล้ำหน้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว 

นาที 68

เจ้าถิ่น โรม่า ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ เฮนริค มาคิทาร์ยาน ลากจี้ขึ้นมาแบบเร็วจี๋ถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายโล่ง ๆ ให้ สเตฟาน เอล ชาราวี่ วิ่งสอดมาจับหนึ่งที ตามด้วยหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าโดนใต้ลูกมากไปหน่อย เจ้าตัวส่งบอลพุ่งเหินข้ามคาน ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 75

เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย สถานการณ์ของทีมเยือน โตริโน่ ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ทัพกระทิงหินครองบอลบุกได้มากกว่าเยอะถึง 68 เปอร์เซ็นต์ ทว่าโอกาสเจาะแนวรับเจ้าถิ่น เข้าไปลุ้นประตูตีเสมอแทบจะไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น สกอร์ตอนนี้ยังคงอยู่ที่ โรม่า 1 โตริโน่ 0 !!!

นาที 77

อิวาน ยูริช กุนซือของทางฝั่งทีมเยือน โตริโน่ เห็นเกมไม่กระเตื้องขึ้น ตัดสินใจถอดสามคนรวดอย่าง อเลสซานโดร บอนจอร์โน่, เมอร์กิม วอจโวด้า และ เดนนิส ปราท ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง ดานิเอเล่ บาเซลลี่, ซิโมเน่ ซาซ่า และ มาร์โค เปียช่า ลงสนามมาช่วยเกมรุกแทน

นาที 79

สถานการณ์ของทีมเยือน โตริโน่ เลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อ อันเดรีย เบลอตติ ศูนย์หน้าตัวกลั่นของทีม โชคร้ายมีปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นต่อไปไม่ไหว ถูกหามปีกออกจากสนามไป ก่อนจะเป็น อันโตนิโอ ซานาเบรีย ที่ถูกส่งลงมาทำหน้าที่แทนในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 84

เจ้าถิ่น โรม่า พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะที่ แทมมี่ อับราฮัม พักบอลบริเวณกึ่งกลางสนามแปะให้ สเตฟาน เอล ชาราวี่ ดึงจังหวะตวัดแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายอย่างสวยให้ นิโกโล่ ซานิโอโล่ วิ่งสอดหลุดไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 90 

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน โตริโน่ มาได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะ ดานิเอเล่ บาเซลลี่ บรรจงชิพบอลโด่งเข้าไปที่เสาไกลให้ อันโตนิโอ ซานาเบรีย โหม่งตั้งเข้ากลางมาเข้าทาง ซิโมเน่ ซาซ่า ได้พยายามจะยิงโอเวอร์เฮดคิก ทว่าหวดโดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปไกล 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น โรม่า เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน โตริโน่ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งอันดับที่ 5 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนโบโลญญ่า ในคืนวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ส่วนทางด้านโตริโน่ อยู่อันดับที่ 13 นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเอ็มโปลี ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้