เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงโตเขียวขาว สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) เปิดสนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด, กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ รูเบน อโมริม มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย มาเตอุส รุยส์ กองกลางห้องเครื่อง ปาโบล ซาราเบีย ตัวทำเกมริมเส้น และ เปาลินโญ่ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมลากเลื้อย และ ฟิล โฟเด้น ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 7 GOAL!!!
เปิดฉากมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ที่มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ แทงตามช่องให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งสอดหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย เจ้าตัวหักเข้ากลางต่อมาให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดยิงเร็วไปติดเซฟของ อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดมาเข้าเท้าของ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลนิ่ม ๆ ถวายพานมาที่หน้าประตูตั้งให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาแปด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ทีแรกไลน์แมนยกธงว่าล้ำหน้า สุดท้ายมีสัญญาณ VAR เรียกให้ผู้ตัดสิน เซอร์ดาน โยวาโนวิช วิ่งไปดูก่อนจะกลับลงมาเป่าให้เป็นสกอร์เรียบร้อย
นาที 11
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงวางบอลยาวจากกลางสนามมาที่หน้ากรอบฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ครอสโด่งต่อเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มาเตอุส โหม่งสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ จอห์น สโตนส์ พยายามโฉบมาโขกตัดหน้า อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ส่งบอลถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปเองแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 16
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา ปีกแอลจีเรียพยายามจะเลี้ยงแหวกแต่โดนขวางสอง เจ้าตัวตัดสินเลือกไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ เควิน เดอ บรอยน์ โยกหนีตัวประกบแต่งเข้าซ้าย ก่อนจะวางเท้าหวดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกกระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 17 GOAL!!!
จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ บรรจงเปิดบอลโด่ง ลอยลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น แนวรับเจ้าบ้านโหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลลอยไม่ไปไหนมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งมาบรรจงวางเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ในเขตโทษฝั่งซ้ายแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดยัดไปที่เสาซ้ายมือแสกหน้าของ อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดไม่อยู่เสยเสียบใต้คานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 20
เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เปโดร ปอร์โร่ รับบอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวแทงทะลุตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เปโดร กอนซัลเวส วิ่งสอดหลุดเข้าไปซัดเร็วติดบล็อกอยู่สองที ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะลองปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลหลุดกรอบเสาไกลออกหลังไป ไม่มีอะไรมาก
นาที 22
เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ลุ้นตีตื้นจากลูกส้มหล่น เป็นจังหวะที่ โรดรี้ จ่ายบอลพลาดในแดนตัวเองเข้าทาง เปโดร กอนซัลเวส ได้ลากจี้ดวลกับ ชูเอา คันโซโล่ ก่อนจะผ่านเข้ากำลังจะได้ซัดเน้น ๆ แต่เป็น อายเมริค ลาปอร์กต์ อ่านเกมขาด ตามมาดักซ้อน ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 32 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดขึ้นมาในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวสับขาแล้วโยกหลอกตัวประกบได้สวย ก่อนจะตวัดเลียดลอดหว่างขาเข้าไปที่กรอบ 6 หลากลางประตูให้ ฟิล โฟเด้น ได้สอดมาจับหนึ่งที ตามด้วยดึงจังหวะแปด้วยขวาโล่ง ๆ ส่งบอลเบียดเสาแรกผ่านมือ อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 37
เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทรงบอลสู้ไม่ได้ไม่ได้อย่างรุนแรง จังหวะนี้ เปาลินโญ่ จ่ายบอลทำชิ่ง 1-2 คืนมาที่หน้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เปโดร กอนซัลเวส ตัดสินใจวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล พยายามจะขอทวงคืนสักประตูแต่ทำได้ไม่สำเร็จ
นาที 44 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ บรรจงเปิดบอลข้ามแนวรับเข้าไปที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง วิ่งสอดตามขึ้นไปเก็บ ก่อนจะดึงจังหวะรอแล้วจ่ายย้อนมาที่หน้าเสาแรกนิ่ม ๆ ตั้งให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งมาวางเท้าแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแฉลบหว่างขาของ กอนชาโล่ อินาโซ่ เปลี่ยนทางทำให้ อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น หลงไปอีกทาง สุดท้ายบอลปลิ้นลอยเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 45+3
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นทิ้งทวน จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ กระชากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตัดสินวางเท้าหวดไกลเองด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแต่กดไม่ลง สุดท้ายเหินข้ามคานลอยหลุดออกหลังไป ชนิดได้เสียว
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ เป็นฝ่ายปูพรมพับสนาม ขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ทัพสิงโตเขียวขาว อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูมิ้งห่างไปแล้วถึงสี่ลูก สกอร์ตอนนี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 !!!
นาที 50
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โหมบุกใส่คู่แข่งทันที แถมเกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโดนขวางเลือกไหลสั้น ๆ ย้อนมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สอดมาเทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นมุมแคบเหน่ง ๆ ส่งบอลเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป ไม่เหลือซาก ทว่าสัญญาณ VAR ฟ้องว่าล้ำหน้าซะก่อน สุดท้ายผู้ตัดสินริบสกอร์คืน สกอร์ยัง 4-0 เหมือนเดิม เจ้าตัวชวดทำแฮตทริกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 58 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 5-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ โรดนี้ โหม่งดักบอลได้ตรงกลางสนาม แล้วเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา แทงเร็วยัดมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้แต่งบอลโยกเข้ากลางมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนนะก้มหน้าบรรจงปั่นไซดฺ์โป้งเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 64
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียว จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เล่นลูกสูตรจ่านสั้นมาถึง ริยาด มาห์เรซ ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่เสาไกลให้ เควิน เดอ บรอยน์ โฉบมาโหม่งชงยัดเข้าไปที่กลางประตูให้ อายเมริค ลาปอร์กต์ สบโอกาสซัดโด่งออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้น
นาที 75
เกมผ่านมาจนถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายขึงเกมรุก พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเดิมทั้งเกม เจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่มีโอกาสส่องเข้ากรอบของทัพเรือใบได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
นาที 79
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขึ้นเกมทางกราบขวา เจ้าตัวพยายามพลิ้วเข้าเขตโทษแต่โดนขวางหลายด่าน สุดท้ายบอลกระฉอกมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายเข้าทาง ชูเอา คันเซโล่ ดันสูงวิ่งมาวางเท้าซัดไกลเน้น ๆ ส่งบอลหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกหลังไปไกล
นาที 87
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่อนเกมลงไปอย่างเห็นได้ชัด ค่อย ๆ ต่อบอลหาช่องเรื่อย ๆ ไม่รีบ จังหวะนี้ โอเล็กซานเดร้ ซินเชนโก้ เติมสูงหลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวบรรจงครอสเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ เลียม ดีแล็ป กำลังจะได้ซัดโล่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด พุ่งออกมาตัดบอล คว้าเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปแบบไม่ไว้หน้า 5-0 !!! ตุนสกอร์แบบขาดลอยไปก่อนในนัดแรก โดยนัดต่อไปจะกลับไปเล่นในบ้านของทัพเรือใบในคืนวันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ซึ่งโอกาสเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายช่างสดใสเหลือเกิน