นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ กับ เยอรมัน ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ในศึก ยูฟ่า เนชั่น ลีก (ทีมชาติ) เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ อังกฤษ จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-2-1 นำโดยตัวหลักจากเกมล่าสุดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นิค โป๊ป,แฮร์รี่ แม็คไกวร์,จู้ด เบลลิ่งแฮม,รีซ เจมส์,ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แฮร์รี่ เคน
ขณะที่ เยอรมัน จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 แผนที่พวกเขานิยมใช้บ่อยที่สุด นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น,นิคลาส ซูเล่,จามาล มูเซียล่า,อิลกาย กุนโกัน และ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นต้น
นาทีที่ 30
ครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมเหมือนเล่นเพื่อดูเชิง ไม่ได้มีจังหวะให้ลุ้นประตูมากนัก แม้ว่าทีมเยือนจะครองเกมได้มากกว่า แต่ความเด็ดขาดในพื้นที่สุดท้าย ก็ยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยโอกาสเป็นประตู
หมดครึ่งเวลาแรก
อังกฤษ – 0
เยอรมัน – 0
นาทีที่ 52 เยอรมัน นำก่อน 1-0
เริ่มครึ่งหลัง ได้แปปเดียว ก็มีสกอร์ขยับจนได้ และเป็นทีมเยือนที่ ยิงนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แม็คไกวร์ ไปแหย่ขาสกัด มูเซียล่า ล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งตอนแรกเหมือนจะรอดไม่โดนลูกโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะ VAR ยืนยันว่าฟาวล์จริง กรรมการวิ่งมาเป่าให้ เยอรมัน ได้จุดโทษ แล้วก็เป็น กุนโดกัน ที่รับหน้าที่สังการลูกนี้เจ้าไปไม่มีพลาดเป้า
นาทีที่ 67 เยอรมัน นำห่าง 2-0
อังกฤษ เสียประตูที่สองอีกแล้ว จากความผิดพลาดของ แม็คไกวร์ ที่ไปฝืนเลี้ยงบอลจนโดน ผู้เล่นของ เยอรมัน ตัดได้ แล้วรีบจ่ายต่อให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ติดเครื่องลากจี้เข้าหาประตู ก่อนจะตัดสินใจ ปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบด้วยตัวเอง ส่งบอลพุ่งหนีมือ นิค โป๊ป มุดใต้คานเป็นประตูไม่มีเหลือ
นาทีที่ 72 อังกฤษ ตีไข่แตก 2-1
อังกฤษ ไม่ยอมแพ้ ขึ้นเกมมาได้จบสกอร์ ยิงประตูคืนมาได้ลูกนึง จากจังหวะที่ เจมส์ โยนบอลเข้าไปหน้าประตู แต่ไม่มีใครเข้าถึงบอล สุดท้ายเลยไปถึง ชอว์ เจ้าตัวจึงรีบ ตวัดยิงเร็วตามน้ำทันทีส่งบอลสวนตัว แตร์-สเตเก้น เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 75 อังกฤษ ตีเสมอ 2-2
ได้ประตูตีไข่แตก ไม่ถึง 3 นาที อังกฤษ ก็ตามตีเสมอ เยอรมัน จนได้ จากจังหวะที่ ซาก้า เลี้ยงบอลแหวกสามผู้เล่นของ เยอรมัน ก่อนจะสบโอกาสไหลตามช่องให้ เม้าท์ เติมขึ้นมายิงเล่นทาง เบียดเสาแรกเข้าประตูไม่มีเหลือ
นาทีที่ 83 อังกฤษ แซงนำ 3-2
อังกฤษ มาเป็นชุด พวกเขาบุกขึ้นมาได้ประตูเพิ่มอีกแล้ว จากจังหวะที่ ซาก้า จ่ายทะลุช่องให้ เคน กลับตัวยิงในกรอบเขตโทษ หลุดกรอบออกหลัง แต่จังหวะนี้มีการย้อนกลับไปเช็ค VAR ในจังหวะที่ จู้ด เบลลิ่งแฮม โดนเสียบจากด้านหลัง ซึ่งสุดท้าย อิตาลี ก็ไม่รอดรอดเสียจุดโทษ แล้วก็เป็น เคน ที่อาสายิงเอง ส่งบอลซุกก้นตาข่ายไม่มีพลาดเป้า
นาทีที่ 87 เยอรมัน ตีเสมอ 3-3
เกมทำท่าจะจบอยู่แล้วแต่ เยอรมัน ไม่ยอมแพ้ มาตามตีเสมอ 3-3 ท้ายเกมจนได้ จากจังหวะที่ นิค โป๊ป โชว์เหวอ รับลูกยิงของ กานาบรี้ ไม่อยู่ ซองแตก บอลปลิ้นไปเข้าทาวปืน ไค ฮาแวร์ตซ์ ซ้ำดาบสองระยะเผาขนเป็นประตูไม่ยาก เยอรมัน ตีเสมอ 3-3 !!
หมดเวลาการแข่งขัน กลายเป็นว่าทั้งสองทีมกินกันไม่ลง สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยผลเสมอไปตามระเบียบ แบ่งแต้มกันไปทีมละ1คะแนน