“แมนซิตี้” เฉือนชนะ “ไก่เดือยทอง” ท้ายเกม 1-0! คว้าแชมป์ไปครอง

เกมการแข่งขัน ระหว่างทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ ลีก) พบกับทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (พรีเมียร์ ลีก) ในศึกฟุตบอล คาราบาว ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ (สนามกลาง)

เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ อิลคาย กุนโดกัน ห้องเครื่องทีมชาติเยอรมัน และ ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งฟอร์มแรงทีมชาติอังกฤษ ขณะที่ทางฝั่งทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย ลูคัส มูร่า ปีกแซมบ้าจอมพลิ้ว ซน ฮึง มิน กองหน้าความเร็วสูงทีมชาติเกาหลีใต้ และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวความหวังของทีม

นาที 7

เริ่มเกมมาเป็นทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะวางบอลยาวทิ้งขึ้นหน้าไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สปีดควบไปเอาบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ พลิ้วหลบ แซร์จ โอริเย่ร์ มาเข้าซ้าย แล้วปาดมาที่เสาแรกให้ ฟิล โฟเด้น โฉบมายิงเร็ว หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

นาที 8

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกใส่ต่อเนื่อง เป็นจังหวะ ริยาด มาห์เรซ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ดึงจังหวะหลอกนิดนึง ก่อนจะไหลคืนย้อนหลังให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ดันสูงขึ้นมาได้เปิดไปที่เสาแรกให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โฉบมาโหม่ง หลุดกรอบออกไปอีก

นาที 14

รูปเกมยังเป็นการบุกอยู่ฝั่งเดียวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ลูกทุ่มทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ฟิล โฟเด้น พลิกทะลุไปเปิดที่สุดเส้นหลัง บอลลอยมาถึงบริเวณจุดโทษ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้จบแต่ติดบล็อกกองหลังสเปอร์ส ออกหลังไปได้เตะมุม

นาที 20

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้ลุ้นขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ ได้เตะมุมซ้าย ซน ฮึง มิน เปิดโค้งมาที่กลางประตูโดนโหม่งสกัดไว้ได้ บอลลอยออกมาหน้ากรอบเขตโทษ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เก็บได้ แล้วลองส่องไกลด้วยขวา บอลพุ่งเลียดเฉียดเสาแรกซ้ายมือออกไปนิดเดียว

นาที 26

เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะเพลสซิ่งไล่กดดัน จนทำให้ เอริก ดายเออร์ จ่ายเสีย เควิน เดอ บรอยน์ โต้กลับเร็ว พาบอลขึ้นมาเองทางขวา ก่อนจะครอสบอลโค้งสวยเข้าไปในเขตโทษ บอลถูกกองหลังสเปอร์ส ดักไว้ได้นิดนึง บอลยังหลุดมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ได้ยิงจ่อ ๆ ระยะเผาขน แต่กองหลังสเปอร์ส ก็ยังตามมาบล็อกไว้ได้เฉียดฉิว

นาที 30

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกหนักมาอีกระลอก เป็นจังหวะ แฟร์นันดินโญ่ แทงบอลทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สอดตามช่องหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายมาสวย แล้วตัดสินใจชิพบอล พยายามจะให้ข้ามตัว ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ปิดมุมอยู่ แต่บอลลอยหลุดคานเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 35

เรือใบสีฟ้า ยังบุกต่อเนื่องขึ้นมาอีก ริยาด มาห์เรซ ได้บอลทางขวา เลี้ยงจี้หาตัวประกบ ก่อนจะกระชากตัดเข้ากลางมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วปั่นโค้งด้วยซ้าย พุ่งไปที่เสาสองซ้ายมือ บอลเฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น

นาที 37

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ ขึงเกมรุกกันอยู่หน้ากรอบเขตโทษ แฟร์นันดินโญ่ ไหลออกมาทางขวาให้ ริยาด มาห์เรซ เจ้าเก่า ได้พลิ้วหนีผู้เล่น กระชากเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษสูตรเดิม แล้วปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลโค้งสวยกำลังจะเสียบเสาแต่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังพุ่งไปปัดไว้ได้ทัน

นาที 45+1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกที เป็นจังหวะ ริยาด มาห์เรซ ครองบอลอยู่ทางขวา โยกตัดเข้าในเหมือนเดิม แต่คราวนี้หยอดไปหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ ชูเอา คันเซโล่ ที่วิ่งเติมสูงขึ้นมา ได้ใส่ด้วยซ้ายเต็ม ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลแรงแต่ทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ปัดทิ้งออกไปได้ทัน

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน ปูพรมโหมบุกใส่ทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่ยังทำได้แค่เกือบขึ้นนำ สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 47

เริ่มครึ่งหลังมาแปปเดียว เป็นทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้ลุ้นก่อน เป็นจังหวะ ลูคัส มูร่า กระชากพาบอลหนีผู้เล่นแมนซิตี้ หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจะไหลเข้ากลางไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้ โจวานี่ โล เซลโซ่ ได้วิ่งมากดเต็ม ๆ แต่ แซ็ค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังปัดทิ้งออกไปได้ทัน

นาที 54

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวาที่ ริยาด มาห์เรซ เจ้าตัวพาบอลขึ้นมาเอง เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ โยกหลอกกองหลังเข้าขวา แล้วยิงเร็วยัดไปที่เสาแรกทันที บอลแฉลบนิดนึง ไหลเข้ามือ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รับได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 61

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ เติมสูงขึ้นมารับบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งไปตรงกลางประตู บอลโดนแนวรับสเปอร์สโหม่งสกัดเลยออกมาทางขวาที่ ริยาด มาห์เรซ ได้ครอสบอลเข้าไปใหม่ให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้สอดขึ้นไปโหม่ง แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

นาที 71

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ฟิล โฟเด้น โยนโค้งไปที่กลางประตู โดนแนวรับโหม่งสกัดออกมา แต่แถวสองเก็บได้ เควิน เดอ บรอยน์ ทางขวาโยนโค้งกลับเข้าไปที่เสาไกลให้ แฟร์นันดินโญ่ สอดมาโหม่งเหน่ง ๆ กดลงพื้น แต่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังทิ้งตัวไปรับไว้ได้ทัน

นาที 72

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาได้น่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาสวยตรงกลางสนาม อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเข้าไปฝั่งซ้าย แต่โดนขวาง เลยดึงจังหวะแล้วไหลคืนกลับมาหน้ากรอบเขตโทษตรงกลางตั้งให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้วิ่งมาวางเท้ายิงด้วยขวาเต็มข้อแบบไม่จับ บอลพุ่งหลุดกรอบไปออกไปแบบได้ลุ้นทีเดียว

นาที 73

เกมทุกอย่างเป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมดแล้ว จังหวะ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลทางขวา เลี้ยงจี้ติดเครื่องกระชากตัดเข้าในตามสูตร แต่งหาช่องก่อนจะซัดด้วยซ้ายหักข้อหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงไปที่เสาแรก แต่ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังพุ่งไปปัดไว้ได้ทัน

นาที 82 GOAL!!!

ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้ประขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกฟรีคิกบริเวณเกือบ ๆ มุมธงฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ เปิดโด่งพุ่งโค้งเข้าไปที่หน้าประตูให้ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ได้โขกจ่อ ๆ ระยะแต่ 6 หลา เข้าประตูไปตุงตาข่าย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฉือนเอาชนะทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไปได้ 1-0 !!! คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ไปได้สำเร็จ เป็นแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกันของทีมเรือใบสีฟ้าอีกด้วย