“แมนฯซิตี้” บุกมาชนะ “เลสเตอร์” ถึงถิ่น 2-0 !!

เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมจิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม คิงเพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

เกมนี้ ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นด้วยความรัดกุม เพราะเจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งรับและคอยสวนกลับได้น่ากลัวตามสไตล์ถนัด ก่อนที่ครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าจะมาปลดล็อก ยิงสองประตู บุกมาเอาชนะไปได้ 2-0 !!! รั้งจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม ทิ้งห่างอันดับที่ 2 อยู่ถึง 17 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 2 นัด

เกมนี้ เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 นำทีมโดย เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กองหน้าฟอร์มแรงทีมชาติไนจีเรีย และ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าดาวซัลโวประจำทีม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวบัญชาเกมคนสำคัญ และ เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าดาวยิงสูงสุดของสโมสร

นาที 4

เริ่มเกมมาไม่ถึง 5 นาที เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายและได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะ โยนบอลสาดเข้าไปในเขตโทษ เวสเล่ย์ โฟฟาน่า โหม่งเคลียร์บอลออกมาหน้ากรอบเขตโทษ บอลมาเข้าทางปืนของ แฟร์นันดินโญ่ วิ่งมากดด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งแรงและกระดอนต่ำ ไปเสียบเสาซ้ายมือ เข้าประตูไปอย่างเฉียบคม

แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เพราะมองว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ไปยืนทำท่าเหมือนจะเล่นบอลทำให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียจังหวะ

นาที 20

ทีมเยือน ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลาง แฟร์นันดินโญ่ แทงบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ หน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวพลิกได้ แล้วบรรจงใส่ด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล ก่อนที่ผู้ตัดสินใจ จะเป่าย้อนมาให้เป็นลูกฟรีคิก เพราะเหมือนว่า ก่อนจะง้างเท้ายิงโดน  วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แซะจากด้านหลังนิดนึง

นาที 22

ทีมเยือน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้องๆไปทางซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงปั่นไซด์ด้วยขวาเน้นๆ บอลข้ามกำแพงแล้วมุดลง พุ่งไปชนคานสนั่นหวั่นไหว ก่อนจะกระเด้งออกมา

นาที 40

ทีมเยือน เกือบได้ประตูอีกครั้ง เป็นจังหวะ ได้ทุ่มทางขวาของกรอบเขตโทษ บอลถูกทุ่มลอยเข้ามาให้ กาเบรียล เชซุส ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวแตะบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกจังหวะเดียวให้สั้นๆมาที่ ริยาด มาห์เรซ ที่วิ่งสอดเข้ามาเอาบอลต่อ ไปที่หน้าประตู ก่อนจะกดเลียดเน้นๆด้วยซ้าย แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ เอาขาสกัดไว้ได้ทัน

นาที 41

เป็นจังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่หน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น โรดรี้ ไหลบอลย้อนหลังมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้แต่งเข้าขวา แล้วปั่นด้วยขวาเน้นๆนอกกรอบเขตโทษ บอลทิศทางโค้งสวย พุ่งไปเฉียดเสาไกลขวามือ ออกไปแบบได้ลุ้น

นาที 43

ทีมเยือน สวนขึ้นมาตรงกลาง เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องไปให้ กาเบรียล เชซุส หลุดไปดวลกับ จอนนี่ อีแวนส์ กองหลังเจ้าถิ่นในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเจ้าตัวจะโยกออกมุมกว้าง แล้วแตะตัดเข้าในมาที่กลางประตู แล้วใส่เร็วหักข้อด้วยขวาทันที แต่บอลพุ่งเฉียดสามเหลี่ยมเสาไกลออกไป ได้เสียวเหมือนกัน

นาที 45+1

เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม แล้วแทงบอลเร็วต่อให้ อาโยเซ่ เปเรซ ได้เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แตะหลบ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน แล้วซัดเข้าประตูไป ก่อนจะผู้ช่วยผู้ตัดสิน จะยกธงว่าล้ำหน้าเสียก่อน

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และมีโอกาสได้จบสวยๆอยู่หลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ส่วนเจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีจังหวะสวนกลับสวยๆอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ยังเจาะไม่เข้าเหมือนกัน สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 47

เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นทันที เป็นจังหวะ บุกขึ้นมาทางกราบขวาโดย มาร์ค อัลไบรท์ตัน ก่อนจะไหลให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ตรงกลาง เจ้าตัวเลี้ยงหนีผู้เล่นทีมเยือนมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะยิงด้วยซ้ายไปที่เสาไกลซ้ายมือทันที แต่บอลไม่แรงพอแถมยังไม่หนีมือเท่าไหร่ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย

นาที 49

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นเหมือนกัน เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นโค้งไปที่กลางประตู รูเบน ดิอาส สอดมาแหย่ขาชาร์จตรงหน้าประตู วืดไปนิดเดียว บอลเลยไปที่เสาไกล โรดรี้ บอลจวนตัว ชนบอลออกหลังไปเองแบบน่าเสียดายสุดๆ

นาที 50

เจ้าถิ่น เจมี่ วาร์ดี้ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วสวนกลับเร็ว บอลมาถึง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ล็อกหลบแนวรับไปที แล้วไหลบอลให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ที่เติมขึ้นมา ได้ทะลุเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะกดเร็วด้วยขวาทันที แต่เป็น รูเบน ดิอาส กองหลังทีมเยือน ตามมาสไลด์บล็อกลูกยิงไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 58 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มจาก เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ ริยาด มาห์เรซ ได้กดด้วยขวาเต็มข้อ บอลตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทุบทิ้งออกมา

บอลกระดอนมาริมเส้นฝั่งขวา โรดรี้ ครอสมาที่เสาไกลซ้ายมือ แนวรับเจ้าถิ่นโหม่งสกัดไม่ดี บอลมาตกที่ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ตรงจุดโทษเยื้องๆไปทางซ้าย ล็อคหลอก มาร์ค อัลไบรท์ตัน มาเข้าขวา แล้วแปด้วยขวาเน้นๆเสียบเสาขวามือเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาที 73 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาสวยตรงกลางสนาม เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอล ก่อนจะแทงบอลยาวทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวใจกว้างตัดสินใจปาดมาเสาซ้ายมือให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ล็อคหลอกแนวรับหลังหัก ก่อนจะจ่ายคืนให้ กาเบรียล เชซุส ได้ แหย่ขายิงที่เสาขวามือ เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

นาที 77

ทีมเยือน น่าจะได้ประตูที่สามแบบสุดๆ เป็นจังหวะ แนวรับเจ้าถิ่นทำพลาด เสียบอลที่หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง กาเบรียล เชซุส ขยันปั๊มแย่งบอลมาได้ ก่อนจะไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ที่หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวแทงบอลทะลุช่องเร็วให้ ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดไปเลือกมุมยิงที่หน้าเสาขวามือ แต่เจ้าตัวปั่นด้วยซ้ายเล่นทางไปที่เสาไกลซ้ายมือ หลุดกรอบออกไปเอง แบบน่าผิดหวังสุดๆ

นาที 82

เจ้าถิ่น ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง บอลชุลมุนเล็กน้อย ก่อนจะมาถึง เจมส์ แมดดิสัน ตัวสำรองหน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวปั่นด้วยขวาเน้นๆ เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

นาที 85

เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางซ้าย ติโมธี กาสตาญ เปิดโด่งมาที่เสาไกลให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า แตะบอลจังหวะเดียวตั้งให้ เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมาฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาตรงจุดโทษพอดี แต่บอลเบาและไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวรับสบาย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมายิงในครึ่งหลัง เอาชนะเจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้เบาะๆ 2-0 !!! รั้งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ โดยทิ้งห่างที่ 2 แมนยู อยู่ถึง 17 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 2 นัด โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับลีดส์ ยูไนเต็ด ด้าน เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่อันดับที่ 3 ของตารางคะแนน นัดต่อไปต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด