“แมนฯยูไนเต็ด” เปิดบ้านเสมอ “มิดเดิ้ลสโบรช์” ไปด้วยสกอร์ 1-1 ก่อนพ่ายดวลจุดโทษ !!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ (แชมเปี้ยนส์ชิพ) ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราล์ฟ รังนิก มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์จอมถล่มประตู มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้ากึ่งปีกจอมลากเลื้อย และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงระดับพระกาฬของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คริส ไวล์เดอร์ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย จอนนี่ ฮาวสัน กองกลางห้องเครื่อง มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ โฟลาริน บาโลกัน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 2

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ ความผิดพลาดของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมารับบอลแต่ดันไปชนเข้ากับ ดาเอล ฟราย สุดท้ายบอลหลุดมือกระฉอกออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง เจดอน ซานโช่ วิ่งมาบรรจงชิพนิ่ม ๆ ส่งบอลลอยย้อยไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 6

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เจดอน ซานโช่ ไหลสั้น ๆ ตามช่องให้กับ ลุค ชอว์ ได้หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อคหาจังหวะยกบอลติดไซด์ก้อยเข้าไปที่กลางประตูให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ถอยมากระโดดยิงจักรยานด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

นาที 12

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึงเกมรุกเข้าใส่คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำชิ่ง 1-2 กับ ดีเอโก้ ดาโลต์ ดึงจังหวะจ่ายยัดคืนกลับมาให้เจ้าตัวในเขตโทษฝั่งขวา หัวหอกจอมถล่มประตูงัดบอลให้ลอยขึ้น ก่อนจะพยายามกระดกบอลยิงด้วยขวาอย่างเหนือชั้น ส่งบอลลอยย้อยไปถูก โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมาคว้าเอาไว้ได้สบาย ไม่มีปัญหา

นาที 17

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ ลุค ชอว์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกล แล้วเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ วิ่งสอดมาที่จุดนัดพบ ได้เทคตัวโถมมาโขกเน้น ๆ ทว่ากดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกหลังไป ทำได้แค่หวาดเสียว

นาที 19 จุดโทษ!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองฝังเพชรที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ความโชคดีในโชคร้ายของทางฝั่ง เดอะ โบโร่ เมื่อ อันเฟอร์นี่ ไดจ์คสตีล ไปลื่นล้มใส่ขาหลังของ ปอล ป็อกบา ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพผีแดงทันที แล้วก็เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหาร ทว่าเจ้าตัวดันซัดพลาด ส่งบอลหลุดข้างเสาซ้ายมือออกไปเองแบบไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายของสุด ๆ ช็อตนี้

นาที 25 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วางบอลยาวจากวงกลมกลางสนามให้ เจดอน ซานโช่ ได้หลุดเข้าไปเกี่ยวบอลลงในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโชว์ความพลิ้ว โยกหนีตัวประกบไปทางมุมแคบ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าซัดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบปลายเท้า อิไซอาห์ โจนส์ ลอยผ่านมือ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 29

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้วิ่งสอดตามไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งกระดอนพื้นหนีมือ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 30

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับไปที่บริเวณหัวกระโหลกให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้พลิกตัวยิงตามน้ำด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นสวนตัวผ่านมือ โจ ลัมลี่ย์ นายทวารทีมเยือน เข้าประตูไป ทว่าดันมีธงล้ำหน้ายกตามหลังขึ้นมา สกอร์ยัง 1-0 เท่าเดิม เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ ปีศาจแดง

นาที 33 

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว บรูโน่ แฟร์นันด์ส แทงบอลทะลุช่องเร็วเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้รุ่นพี่อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้สปีดวิ่งสอดไปซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก โจ ลัมลี่ย์ นายทวารทีมเยือน ที่พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด 

นาที 34

ทีมเยือน ทัพสิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ จอนนี่ ฮาวสัน จ่ายบอลโต้กลับเร็วมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โฟลาริน บาโลกัน ได้โยกหนี ราฟาแอล วาราน ตัดเข้ากลางมาถึงบริเวณหัวกระโหลก ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย หลุดกรอบเสาไกลขวามือ ลอยออกหลังไป ยังไม่ได้ลุ้น

นาที 39

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้ ลุค ชอว์ เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นย้อนหลังเข้าไปที่กลางประตูให้ ดีเอโก้ ดาโลต์ ข้ามหลอกปล่อยไหลมาที่หัวกระโหลกต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้วิ่งมากดด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่กดไม่ลง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 40

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาอีกครั้ง จังหวะนี้ ลุค ชอว์ เล่นลูกสูตรอีกครั้งจ่ายสั้นเข้ากลางให้ เจดอน ซานโช่ พลิกแล้วไหลนิ่ม ๆ มาที่หัวกระโหลกคล้าย ๆ เดิมตั้งให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมากดด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ คราวนี้บอลพุ่งแรงเข้ากรอบแต่ดันไปตรงตัวของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงหยอดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ โดนไม่เต็มเท่าไหร่ บอลเบาแถมตรงตัวของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบายอีกครั้งหนึ่ง

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทัพสิงห์แดง อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 มิดเดิ้ลสโบรช์ 0 !!!

นาที 54

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ ลุค ชอว์ แทงบอลขึ้นหน้ามาให้กับ เจดอน ซานโช่ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหนีแนวรับแล้วตักบอลเร็วไปที่หน้าเสาไกลถวายพานให้ มาร์คัส แรซฟอร์ด วิ่งสอดมากระโดดแปด้วยขวาโล่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลหลุดกรอบออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายสุด ๆ ช็อตนี้

นาที 55

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลย้อนมาที่หน้าเสาแรกตั้งให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งโฉบมาตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เสียบหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 57

ทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นตีเสมอ จังหวะนี้ แม็ตต์ ครู้กส์ ไหลออกไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ได้หลุดโล่ง ๆ สอดมาคัทแบ็คเข้าไปที่กลางประตูให้ อิไซอาห์ โจนส์ สอดมาซัดเน้น ๆ ส่งบอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปฏิกิริยายังไว ผวาปัดพ้นอันตรายเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 64 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพสิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ครอสโด่งจากทางฝั่งขวาไปที่เสาไกลให้ ดันแคน วัตมอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้สอดมาจับบอลลง ก่อนจะตวัดโด่งข้ามแนวรับไปที่หน้าเสาขวามือถวายพานให้ แม็ตต์ ครู้กส์ โฉบมาทิ้งตัวชาร์จจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ช็อตนี้ ผู้เล่นปีศาจแดง โวยวายฟ้องจะเอาเป็นแฮนด์บอลกันใหญ่ ทว่าไม่เป็นผล ผู้ตัดสินยืนยันให้เป็นประตู

นาที 71

หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งสติบุกกันขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด สบโอกาสได้ง้างไกยิงด้วยขวาเน้น ๆ ในเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมคุมเสารอยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 72

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะ ความผิดพลาดของแนวรับเดอะ โบโร่ แล้วก็เป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ขโมยบอลได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสได้แต่งเข้าไปซัดเลียดด้วยเน้น ๆ โล่ง ๆ ที่กลางประตู ส่งบอลพุ่งไปชนเสาซ้ายมืออย่างจัง บอลกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 90+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวิดได้ประตูชัย จากจังหวะ เฟร็ด ดันสูงวิ่งขึ้นมารับบอล ก่อนจะบรรจงคอสเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ทว่าดันส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

นาที 107

ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โหมบุกอย่างหนัก แต่ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า จังหวะนี้ ดีเอโก้ ดาโลต์ ดันสูงหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สอดมาเทคตัวโขกสะบัดเน้น ๆ บอลไม่หนีมือเท่าไหร่โดน โจ ลัมลี่ย์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งปัดเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 120

หมดเวลา 120 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ก่อนที่จะเป็นทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ที่ยิงแม่นกว่า เอาชนะเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 7-8 เขี่ยทัพปีศาจแดง ตกรอบ 4 ของฟุตบอล เอฟเอคัพ ไปเป็นที่เรียบร้อย

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ สร้างเซอร์ไพรส์ บุกมายันเสมอกับเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 1-1 ก่อนที่ทัพสิงห์แดงจะดวลจุดโทษเอาชนะปีศาจแดงไปได้ด้วยสกอร์ 7-8 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของฟุตบอล เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ

สนับสนุนบทความโดย ufabet