แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดเเผยถึงเช้าวันที่โดนปลดออกจากตำแหน่งกุนซือของ เชลซี และเขาทราบได้ทันทีว่าตัวเองชะตาขาดในตอนที่ได้รับข้อความจาก บรูซ บัค ประธานสโมสร
อดีตกองกลางวัย 42 ปีผ่านการลงสนามให้ เชลซี ไป 648 เกมและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยรวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย กระนั้นเขาทำหน้าที่กุนซือให้กับสโมสรเพียงแค่ 18 เดือนก่อนจะพ้นจากตำแหน่ง
ให้หลังออกสตาร์ทการคุมทีมได้ดูดีมีความหวังในฤดูกาลแรก ซึ่ง แลมพาร์ด ดันนักเตะดาวรุ่งหลายคนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่จากที่ตอนนั้นโดนฟีฟ่าแบนเรื่องการเสริมทัพ สุดท้ายเขาต้องออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แลมพาร์ด ผ่านการทีมจบอันดับ 4 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพในฤดูกาลแรก แต่ก็แพ้ให้กับ อาร์เซน่อล ในเกมที่ เวมบลีย์
พอซีซั่นถัดมาเขาออกจากตำแหน่งกุนซือ “สิงห์บลูส์” ในตอนที่ทีมรั้งอันดับ 9 ของตารางพรีเมียร์ลีกและชนะเพียงแค่เกมเดียวจาก 5 นัดในลีก
โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามารับช่วงต่อและพาทีมทีมคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสิ้นฤดูกาลที่แล้ว
แลมพาร์ด ไปออกรายงาน The Overlap ของ แกรี่ เนวิลล์ บนยูทูปและเขาเล่าถึงวันที่โดนปลดออกจากตำแหน่ง รวมถึงตอนที่ได้รับข้อความจาก บัค ซึ่งทำให้เขาทราบว่าต้องสิ้นสุดการเป็นกุนซือเพียงแค่นี้
“เราเอาชนะ ลูตัน ได้ในเกมเอฟเอ คัพรอบสี่หรืออะไรทำนองนั้น” แลมพาร์ด กล่าว
“จากนั้นเช้าวันถัดมาผมได้รับข้อความจาก บัค, ประธานสโมสร, บอกว่า ‘เลื่อนการซ้อมและมาพบกับเราที่ห้องประชุมได้มั้ย?'”
“นั่นเป็นข้อความแรกด้วย, แบบคุณตื่นมาตอนเช้าและคิดว่า ‘เช็คอินสตาแกรมหน่อยแล้วกัน’ ผมล้อเล่นนะแต่ว่ากันแฟร์ๆนะพอสโมสรตัดสินใจแล้วก็ไม่มีวิธีไหนที่จะบอกลากันด้วยดีๆหรอก”
เนวิลล์ ถามว่า บัค ส่งข้อความมาแบบไหน, แลมพาร์ด ตอบว่า “คุณมาหาเราที่ห้องประชุมใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้มั้ย? ผมก็ทราบทันทีเลย”
“อย่างที่ผมบอกล่ะว่าไม่มีวิธีไหนที่จะปลดกันแบบดีๆหรอก หลายวิธีเป็นวิธีที่มีมารยาทแต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม”
“ตอนที่ผมพบกับ บรูซ และ มาริน่า กรานอฟสกายา น่ะมันดำเนินไปอย่างเป็นมิตรมาก ผมรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่ในตอนนั้นหรอกแต่คุณก็รู้สึกขอบคุณถึงช่วงเวลานั้น”
“เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นแหละ พวกเขาจะต้องเดินหน้าต่อและคุณทำอะไรไม่ได้แล้ว ผมไม่เคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อนทำให้ตอนนั้นรู้สึกเซอร์เรียลหน่อยๆ แต่ตอนที่คุณรับงานแบบนั้นน่ะคุณรู้ว่าอาจโดนปลดเอาได้”
“กับที่ เชลซี น่ะยังไงก็คงจะเกิดขึ้นอยู่แล้วยกเว้นคุณคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดและไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้น”