แวร์เนอร์ซัดเบิ้ล!!! ช่วยทัพอินทรีเหล็ก “เยอรมัน” บุกไปรัวครึ่งหลัง เอาชนะ “มาซิโดเนียเหนือ” 4-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทีมชาติ มาซิโดเนียเหนือ เปิดสนาม โทเซ่ โพรเอสกี้ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของทัพอินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เจ นัดที่ 8 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ บลาโกย่า มิเลฟสกี้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อาริยัน อาเดมี่ กองกลางห้องเครื่อง เอลีฟ เอลมาส เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ อาดิส ยาโฮวิช ศูนย์ตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย โยชัว คิมมิช กองกลางห้องเครื่องสารพัดประโยชน์ แซร์ช กนาบรี้ ปีกความเร็วสูง และ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 2

เริ่มเกมมาปุ๊ป เป็นทางฝั่งทัพอินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำอน่างรวดเร็ว จากจังหวะ เลออน โกเร็ตซ์ก้า วางบอลเปลี่ยนอกนไปทางกราบซ้ายให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ โยกหาเหลี่ยมเปิดโค้งเข้าไปที่กลางเขตโทษ แล้วเป็น โยชัว คิมมิช โฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ บอลกำลังจะข้ามเส้นเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ควักออกมาได้ทันหวุดหวิด

นาที 10

เจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ ได้ลุ้นยิงประตูขึ้นนำเร็วเหมือนกัน เป็นจังหวะ ติโฮเมียร์ คอสตาดินอฟ จ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โบบัน นิโคลอฟ แต่งหนึ่งที แล้วตะบันด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย เฉียดเสาแรก หลุดออกหลังไปนิดเดียว

นาที 13

ทีมเยือน เยอรมัน บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสบอลโด่ง ลอยย้อยไปเข้าหัว โธมัส มุลเลอร์ ที่กลางประตู เจ้าตัวเทคตัวพยายามจะโหนโหม่ง แต่โดนไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ บอลเบาแถมตรงตัวของ สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้ไม่ยาก 

นาที 17

เจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นเหมือนกัน เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เอลีฟ เอลมาส เปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้ โฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ คนเดียวโล่ง ๆ ทว่ายังไม่ตรงกรอบ ถากเสาใกล้ขวามือ หลุดออกหลังไปแบบน่าเสียดาย

นาที 24

ทีมเยือน เยอรมัน เริ่มเครื่องร้อน มีโอกาสได้ลุ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางฝั่งขวา แล้วเป็น เดวิด รวร์ม รับอาสา ปั่นไซด์ไป ไปแฉลบกำแพงกระดอนไปเข้าทาง แซร์ช กนาบรี้ ได้ยิงเร็วกระดอนพื้นไปโดน สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปัดทิ้งออกไปได้ทัน

นาที 26

เจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว โบบัน นิโคลอฟ ถ่างออกมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ เอลีฟ เอลมาส สอดมาแต่งบอลตัดเข้าซ้าย ก่อนจะซัดเลียดหักข้อยัดมุมแคบไปที่เสาใกล้ติดเซฟของ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ปิดมุมรออยู่แล้ว ล้มตัวรับเอาไว้ได้สบาย

นาที 32

ทีมเยือน เยอรมัน เกือบได้ส้มหล่น เป็นจังหวะ แนวรับมาซิโดเนียเหนือ สกัดบอลไม่ดีไปเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ได้ลากหาช่อง ก่อนจะซัดเร็วเน้น ๆ ด้วยขวา บอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าดันไปตรงตัวของ สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้าซองสบาย

นาที 44

ทีมเยือน เยอรมัน ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เดวิด รวร์ม ดันเกมสูง หลุดขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปในเขตโทษเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ได้วิ่งสอดมาพยายามจะสะกิดเปลี่ยนทางบอล แต่ทำได้ไม่ดี บอลเบาแถมไม่หนีตัวเท่าไหร่  สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบายอีกครั้งหนึ่ง

นาที 45+2

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน เยอรมัน เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โธมัส มุลเลอร์ แทงบอลตามช่องให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้ลากเข้าไปหาช่องยิงในเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกมาเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ เจ้าเก่า ได้ตามมาซ้ำแต่ด็ยังติดบล็อก หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เยอรมัน ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทัพอินทรีเหล็กเป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่อย่างต่อเนื่องอยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่จังหวะจบวันนี้ยังไม่เข้าฝักเท่าไหร่ ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ เกมนี้ถือว่ายังทำได้ดี ช่วยกันตั้งรับแล้วสวนกลับขึ้นมาได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังยิงประตูไม่ได้เช่นกัน สกอร์ตอนนี้ มาซิโดเนีย 0 เยอรมนี 0 !!!

นาที 50 GOAL!!!

เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพอินทรีเหล็ก ทีมชาติเยอรมัน ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะได้บอลสวนกลับหลุดขึ้นมาเป็นแผง แซร์ช กนาบรี้ แทงทะลุช่องให้ โธมัส มุลเลอร์ ได้เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาอย่างใจเย็น ก่อนไหลหักไปที่หน้าประตูถวายพานให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่วิ่งตีคู่ขนาบขึ้นมา ได้แฉโล่ง ๆ ผ่านตัว สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 59

ทีมเยือน เยอรมัน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ลากจี้ขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะแทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ แซร์ช กนาบรี้ วิ่งสอดหลุดไปจิ้มเร็วตามน้ำที่หน้าเสาแรกขวามือ ติดเซฟของ สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาอยู่แล้ว ปัดทิ้งออกมาได้ทัน ไม่มีตัวซ้ำ

นาที 62

ทีมเยือน เยอรมัน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ แซร์ช กนาบรี้ ลากจี้เข้าหาคู่แข่งทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายยัดเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ พยายามจะฝืนหาช่องซัด สุดท้ายหัวหอกค่าตัวแพงก็ยิงไปติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น บอลกระดอนเข้ามือ สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับสบาย เสียดายของสุด ๆ

นาที 69

ทีมเยือน เยอรมัน พยายามบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ โธมัส มุลเลอร์ ครอสเข้าเขตโทษไปที่ ติโม แวร์เนอร์ เจ้าเก่า ที่หันหลังให้ประตู จับบอลลงแล้วพยายามพลิกตัวตวัดยิงเร็วทันที ทว่าหัวหอกเชลซีดูเหมือนจะยังคงหาฟอร์มเก่งไม่เจอตามคาด เจ้าตัวซัดหลุดกรอบออกไปไกลแบบน่าผิดหวังสุด ๆ 

นาที 70 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน ทีมเยือน เยอรมัน มาได้ประตูหนีห่างจนได้เป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ฟลอเรียน เวียร์ทซ ลากขึ้นมาแล้วจ่ายยัดไปที่ โธมัส มุลเลอร์ ได้ตวัดบอลเร็วจังหวะเดียวตั้งเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าสิงห์บลูส์ วิ่งมาสับไกเต็มข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก ปลดล็อคให้ตัวเองได้สำเร็จ

นาที 73 GOAL!!! 

ทีมเยือน เยอรมัน มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ ติโม่ แวร์เนอร์ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกแต่งเข้าในแล้วบรรจงปั่นไซด์ด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงามสุด ๆ

นาที 83 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพอินทรีเหล็ก เยอรมัน มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ คาริม อเดเยมี่ แย่งบอลได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวส่งบอลเร็วฝากขึ้นหน้าไปที่ จามาล มูเซียล่า ได้ลากบอลเข้าไปล่อเป้า บรรจงแปด้วยขวานิ่ม ๆ สวนตัว สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ นายด่านเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม เป็นการยิงประตูเม็ดแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของแข้งดาวรุ่งเสือใต้รายนี้อีกด้วย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เยอรมัน บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น มาซิโดเนียเหนือ ไปได้แบบสบาย ๆ ด้วยสกอร์ 4-0 !!! นำโด่งจ่าฝูงของตารางคะแนนเหมือนเดิม พร้อมทั้งตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ ได้เป็นทีมแรก โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลิกเตนสไตน์ ในวันคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านมาซิโดเนียเหนือ รั้งอันดับที่ 3 ของกลุ่ม นัดต่อไปต้องออกไปเยือนอาร์เมเนีย ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา