“แอต มาดริด” บุกมาซัดจุดโทษทดเจ็บ พลิกแซง “เอซี มิลาน” สิบตัว ไปสุดมันส์ 2-1 !!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน (อิตาลี) เปิดสนาม ซาน ซีโร่, เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด (สเปน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป บี นัดที่ 2 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ฟร้องค์ เกสซีเย่ กองกลางห้องเครื่อง บราฮิม ดิอาซ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ อันเต้ เรบิช ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย กองกลางห้องเครื่อง ยานนิค การ์ราสโก้ ปีกตัวจี๊ดริมเส้น และ หลุยซ์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวความหวังของทีม

นาที 11

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้ทักทายก่อน จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น ฟร้องค์ เกสซีเย่ หวดสกัดบอลกระเด้งไปโดนแขนของ ฟิกาโย่ โทโมริ  ผู้ตัดสิน กูเน็ต ชาคีร์ จากตุรกี เป่าหยุดเกมแล้วไปเช็ค VAR ก่อนจะกลับมาลงเป่าให้เล่นกันต่อไป ไม่ได้ว่าอะไร โดยมองว่าบอลทูแฮนด์

นาที 13

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ ฟิกาโย่ โทโมริ ดักบอลได้ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจ ขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า ปลิ้นหลุดกรอบออกไปไกล

นาที 17

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เริ่มตั้งเกมบุกได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว บราฮิม ดิอาซ กระชากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดเองด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย

นาที 18

คราวนี้เป็นเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ที่โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษบ้าง เป็นจังหวะ ราฟาเอล เลเอา ชิพบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น มาริโอ เอร์โมโซ่ หุบเข้ากลางมาโขกสกัดพุ่งไปโดนมือของ โฮเซ่ คิเมเนซ ก่อนจะหวดเคลียร์ทิ้งออกมา ทว่าผู้ตัดสิน รอฟังสัญญาณ VAR จากข้างสนามอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายไม่มีมา เลยไม่เป่าให้ และให้เล่นกันต่อไป

นาที 19

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วตรงกลางสนาม บราฮิม ดิอาซ ลากขึ้นมาจ่ายบอลถวายพานให้ อันเต้ เรบิช ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะวางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งไปแฉลบขาของ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ผวาทิ้งตัวเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน กระดอนหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 20 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ตั้งป้อมครอสบอลจากซ้าย ไม่โดนใคร เลยไปที่ริมกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น บราฮิม ดิอาซ ตามไปเก็บได้ เจ้าตัวโชว์ความสามารถเฉพาะตัว ครองบอลดึงจังหวะชนิดแย่งยาก ก่อนจะไหลสั้น ๆ เข้ากลางมาให้ ราฟาเอล เลเอา ได้จับหนึ่งที แล้วซัดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ บอลกระดอนลอดหว่างขา โฮเซ่ คิเมเนซ กลิ้งเข้าหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูไป ไม่เหลือซาก

นาที 27

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ หลุยส์ ซัวเรซ มีโอกาสได้ซัดในเขตโทษติดบล็อกลอยออกมาที่หน้าเขตโทษ แล้วเป็น เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย ได้ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ จากแถวสองนอกกรอบ แต่เจ้าตัวกดไม่ลง สุดท้ายบอลพุ่งแรง เหินข้ามคานออกไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นเลย

นาที 29 ใบแดง!!!

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ ฟร้องค์ เกสซีเย่ เข้าบอลช้าไปย่ำใส่ข้อเท้า มาร์กอส ยอร์เรนเต้ จากทางด้านหลังเต็ม ๆ จนล้มลงไปนอนโอดโอย กูเน็ต ชาคีร์ ผู้ตัดสินจากตุรกี ไม่รอช้า วิ่งมาควักใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ตะเพิดเจ้าตัวออกจากสนามไป 

นาที 34

เกมดำเนินมาเกินครึ่งชั่วโมง สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือมิลาน ที่ทีมตัวเองมีผู้เล่นน้อยกว่า จำเป็นต้องแก้เกมด้วยการถอด อันเต้ เรบิช ศูนย์หน้าตัวเป้าในเกมนี้ ออกไปพักที่ข้างสนาม ก่อนจะจัดการส่ง ซานโดร โตนาลี่ ลงมาเติมความแน่นในแดนกลางแทน

นาที 39

ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น เอซี มิลาน ที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่า เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ราฟาเอล เลเอา มีโอกาสเก็บตกบอลได้ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวโชว์ลีลากระโดดลอยตัวจักรยานอากาศ ยิงลูกโอเวอร์เฮดคิก ส่งบอลพุ่งไปชนคานอย่างจังสนั่นหวั่นไหว กระเด้งออกมา ทว่ามีธงยกขึ้นมาว่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ อังเคล คอร์เรอา กระชากแหวกหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้ากลางให้ หลุยซ์ ซัวเรซ ได้วอลเลย์ด้วยขวาหน้ากรอบ 6 หลา แต่โดนไม่ดี บอลปลิ้นหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิงประตูขึ้นนำไปก่อน ทว่าต้องมาเหลือเพียงผู้เล่นสิบคน แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นทางฝั่งทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ที่พลิกสถานการณ์ กลายเป็นฝ่ายได้ครองเกมบุกบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ มิลาน 1 แอตมาดริด 0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ที่เร่งเครื่องโหมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย สอดขึ้นมารับบอลที่หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ระยะ 18 หลา ก่อนจะวางเท้าตะบันด้วยซ้าย พุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดกรอบเสาแรกซ้ายมือออกไป

นาที 54

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงเปิดบอลเข้าไปที่กลางประตูอย่างแม่นให้ หลุยซ์ ซัวเรซ ได้เทคตัวขึ้นโขกเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลพุ่งย้อนศรผ่านหน้าปากประตู เฉี่ยวเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย 

นาที 67

ทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด บุกหนักขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ได้ลุ้นจาก โรดริโก้ เดอ ปอล ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ตั้งป้อมวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงติดไซด์หนีมือ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ลอยหลุดกรอบ เหินข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น

นาที 77

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้บุกขึ้นมาได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ อองตวน กรีซมันน์ ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โตมาส์ เลอมาร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้แต่งหาเหลี่ยมแล้ววางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อ บอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บินไปเซฟไว้ได้ทัน

นาที 84 GOAL!!!

ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ โตมาส์ เลอมาร์ วางบอลยาวจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เรนาน โลดี้ วิ่งสอดหลุดเข้าไปโหม่งชงเข้ากลาง แล้วเป็น อองตวน กรีซมันน์ วิ่งโฉบมาตวัดยิงวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ กระดอนพื้นผ่านหน้า ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 86

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะ เตโอ แอร์กน็องเดซ เติมสูงขึ้นมารับบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดโค้งเข้าเขตโทษ แล้วเป็น เรนาน โลดี้ โหม่งสกัดไม่ขาดไปเข้าทาง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นผ่านหน้าปากประตู ถากเสาสองซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 88

เจ้าถิ่น เอซี มิลาน มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ ซานโดร โตนาลี่ เปิดลูกฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ได้ลองส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแล้วฮุคลง ทว่ามุดช้าหล่นหลังคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 90+1

เกมเปิดแลกกันสนุก ทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด ได้บุกขึ้นมาลุ้นช่วงท้ายเกม เป็นจังหวะ เรนาน โลดี้ หยอดบอลเข้าไปในเขตโทษให้ หลุยส์ ซัวเรซ จับบอลไม่ดีเลยไปเข้าทาง ชูเอา เฟลิกซ์ ได้หวดเร็วด้วยขวาบริเวณริมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ ไมค์ เมนญอง ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 90+7 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ แฮนด์บอลในเขตโทษของ ปีแยร์ กาลูว์ลูว์ ผู้ตัดสิน เป่าชี้เป็นจุดโทษของทีมเยือนทันที ก่อนจะรอการยืนยันจากสัญญาน VAR ที่ข้างสนาม สุดท้ายยืนยันคำเดิม แล้วเป็น หลุยซ์ ซัวเรซ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แอตเลติโก้ มาดริด บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เอซี มิลาน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! เขยิบขึ้นอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลิเวอร์พูล ในคืนวันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอซี มิลาน ร่วงมาอยู่บ๊วยของกลุ่ม นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเอฟซี ปอร์โต้ ในวันเวลาเดียวกัน