นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด กับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม จีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม ใน ศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เบรนท์ฟอร์ด จะมาเล่นด้วยระบบ 3-5-2 นำโดยผู้เช่นเซ็ตประจำของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดาบิด ราย่า,เบน มี,คริสเตียน นอร์การ์ด,ยอน วิสซ่า และ ไบรอัน เอ็มบูโม่
ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 แผนที่พวกเขาคุ้นเคย นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง อลิสซอน เบ๊คเกอร์,เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,ฟาบินโญ่,ธิอาโก้ อัลคานทาร่า,ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เป็นต้น
นาทีที่ 3
เริ่มเกมได้แค่ 3 นาทีเศษ ฝั่งทีมเยือนก็บุกมาได้ลุ้นประตูทันที จากจังหวะที่แนวรับของ เบรนท์ฟอร์ด ประกบตัวไม่ดี ปล่อยให้ ฟาน ไดจ์ค มีโอกาสได้ยืนวอลเลย์จ่อๆ หน้าประตู แต่น่าเสียดายลูกนี้ดันไม่เป็นประตู เพราะบอลสุดท้ายโดน ราย่า ปัดออกออกหลังไป
นาทีที่ 19 เบรนท์ฟอร์ด ขึ้นนำ 1-0
ผ่านไป20นาที เกมกลับพลิกล็อก เพราะฝ่ายที่มาได้ประตูออกนำก่อน ดันเป็นเจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด จากจังหวะที่พวกเขาเปิดลูกเตะมุม โยนเข้าไปหน้าประตู แล้วบอลสุดท้ายดันไปแฉลบขาของ โกนาเต้ เปลี่ยนทางพุ่งเข้าประตูตัวเองซะงั้น อลิสซอน พยายามควักบอลออกจากเส้นแล้วแต่ไม่ทัน
นาทีที่ 42 เบรนท์ฟอร์ด นำห่าง 2-0
ลิเวอร์พูล โดนบดอย่างหนัก จนสุดท้ายช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรก พวกเขาก็มาเสียประตูที่ 2 จนได้ จากจังหวะที่ ไบรอัน เอ็มบูโม่ เลี้ยงบอลหลุดไปทางขวา ก่อนจะเจอช่อง แล้วเลือกเปิดไปหน้าประตูให้ วิสซ่า เกร็งคอสะบัดหัวโหม่งจ่อๆ ระยะเผาขน ส่งบอลพุ่งชนคานกระเด้งเข้าประตูไม่มีเหลือ
หมดครึ่งเวลาแรก
เบรนท์ฟอร์ด – 2
ลิเวอร์พูล – 0
นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล ตีไข่แตก 2-1
ลิเวอร์พูล กลับมาเริ่มครึ่งหลังได้อย่างดี เพราะโอกาสลุ้นครั้งแรกในครึ่งหลังพวกเขาก็ได้ประตูเลย จากจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ขึ้นเกมทางกราบซ้าย ก่อนจะยึกยัก แล้วเลือกครอสบอลเข้ากลางให้ ออซเลด-แชมเบอร์เลน วิ่งสอดมาโหม่งหน้าประตูแบบไร้คนประกบ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายอย่างสวย
นาทีที่ 70
ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูขึ้นตีเสมอแบบสุดๆ แต่สึดท้ายก็ทำไม่ได้ เป็นจังหวะที่ โม ซาลาห์ พาบอลขึ้นหน้าไปคนเดียวก่อน จะหยุดวิ่งรอเพื่อนเเติม แล้วจ่ายทะลุทีเดัยวให้ นูนเญซ หลุดเดี่ยวไปทางขวา แต่ทว่าจังหวะจบสกอร์ เจ้าตัวดันยิงหลุดกรอบออกหลังไปเองเฉยเลย
นาทีที่ 84 เบรนท์ฟอร์ด ยิงปิดเกม 3-1 !!
ช่วงท้ายเกม เบรนท์ฟอร์ด ยังไม่หยุด พวกเขาทำเกมขึ้นมาใส่สกอร์ที่ 3 เพิ่มได้อีกแล้ว จากจังหวะที่ โกนาเต้ ดันไปเสียท่าเบียดแพ้ เอ็มบูโม่ หน้าประตู จนเปิดช่องให้แนวรุกเจ้าถิ่นได้ซัดโล่งๆ ส่งบอลผ่านมือ อลิสซอน ตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด ที่ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ ลิเวอร์พูล ได้แบบไม่เสียของ ส่งผลให้พวกเขาเป็นฝ่ายพลิกล็อคเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-1