เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพมังกรแดง ทีมชาติ เวลส์ เปิดสนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม, เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพวิหคเพลิง ออสเตรีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป รอบรองชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เวลส์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรเบิร์ต เพจ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย อารอน แรมซี่ย์ มิดฟิลด์จอมขยัน แดเนี่ยล เจมส์ ปีกจรวดทางเรียบ และ แกเร็ธ เบล ดาวยิงตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ออสเตรีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฟรังโก้ โฟด้า มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย ดาวิด อลาบา กองหลังสารพัดประโยชน์ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 2
เปิดฉากมา เจ้าถิ่น ทัพมังกรแดง เวลส์ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ดาวิด อลาบา ออกบอลไม่ดีไปติดบล็อก แล้วเป็น แอรอน แรมซี่ย์ ตอกส้นจ่ายเร็วให้ แดเนี่ยล เจมส์ ได้ลากหาช่องบริเวณหน้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะสบโอกาสบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ดันไปตรงตัวของ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 5
ทีมเยือน ทัพวิหคเพลิง ออสเตรีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำเร็ว จากจังหวะที่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสสุดงามถวายพานให้ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าที่กลางประตู ก่อนจะวางเท้าเอี้ยวตัวบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 7
เจ้าถิ่น เวลส์ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ แดเนี่ยล เจมส์ ลากจี้ขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกแล้วเปิดเร็วไปที่หน้าเสาไกล แล้วเป็น แอรอน แรมซี่ย์ วิ่งโฉบมาทิ้งตัวสไลด์ชาร์จโล่ง ๆ ทว่าถึงบอลช้าไปแค่นิดเดียวเท่านั้น สุดท้ายบอลกระดอนหลุดออกอีกฝั่งไป ทำได้แค่หวาดเสียว
นาที 8
ทีมเยือน ออสเตรีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ คอนราด ไลเมอร์ จ่ายมาที่หน้าหัวกระโหลกให้กับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ดีดเร็วทะลุช่องเข้าไปที่กลางประตูให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช โฉบตัดหลังแนวรับมาจิ้มจ่อ ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลาแต่ดันวืด สุดท้ายบอลกระดอนเข้ามือของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดาย
นาที 15
ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี รูปเกมของทั้งคู่ยังดูตึง ๆ เจ้าถิ่น เซลส์ ครองบอลได้มากกว่า ส่วนทีมเยือน ออสเตรีย ก็ยังตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ โอกาสส่องแบบเน้น ๆ ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 21
เจ้าถิ่น เวลส์ เริ่มทำได้ดีกว่าตามลำดับ จังหวะนี้ เนโก วิลเลี่ยมส์ โชว์ลีลาพาบอลแหวกขึ้นมาเองทางซ้าย เจ้าตัวโยกตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะของลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลเบาไร้น้ำหนักแถมตรงตัวของ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน ปักหลักก้มรับเอาไว้ได้สบาย ๆ
นาที 22
เจ้าถิ่น เวลส์ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เนโก วิลเลี่ยมส์ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวล็อคกลับมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะบรรจงหยอดเข้าไปที่กลางประตูให้ แอรอน แรมซี่ย์ โฉบมาโหม่งเสยเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งกระดอนหลุดเสาไกลขวามือออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก
นาที 25 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เวลส์ มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น แกเร็ธ เบล รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน
นาที 29
ทีมเยือน ออสเตรีย พยายามตั้งเกมขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ ซาเวอร์ ชลาเกอร์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของ อีธาน แอมพาดู ที่กระโดดขึ้นไปพร้อม ๆ กันเต็ม ๆ สุดท้ายบอลเปลี่ยนทางลอยออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 31
ทีมเยือน ออสเตรีย พยายามจะทวงประตูคืนอย่างหนักแต่ยังไร้พิษสง จังหวะนี้ คอนราด ไลเมอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลอยลึกเข้าไปที่เสาไกลให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช โถมตัวมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งย้อนศร ถากเสาแรกขวามือ ลอยหลุดออกหลังไปไกลพอสมควร ไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
นาที 39
ทีมเยือน ออสเตรีย ได้ลูกฟรีคิกบริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ดาวิด อลาบา บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยด้วยซ้ายเข้าไปที่หน้าประตู แล้วเป็น เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารเจ้าถิ่น ออกมาตัดบอลไม่ดี ชกบอลพุ่งไปชนเข้ากับ เบน เดวิส กระเด้งย้อนกลับมาเกือบเข้าประตูตัวเอง โชคยังดีที่บอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว
นาที 40
เจ้าถิ่น เวลส์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วทันควัน จังหวะนี แดเนี่ยล เจมส์ ฉกบอลได้จากแนวรับออสเตรียแล้วจ่ายไปที่หน้าหัวกระโหลกให้ แฮร์รี่ วิลสัน ดึงจังหวะไหลนิ่ม ๆ มาที่หน้ากรอบฝั่งขวาให้ แอรอน แรมซี่ย์ วิ่งสอดมาแตะบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะก้มหน้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทำท่าจะเบียดเสาแรกขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 41
ทีมเยือน ออสเตรีย ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ มาร์ติน ฮินเตอเร็กเกอร์ จ่ายบอลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ สบโอกาสพลิกบอลมาลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ระยะกว่า 30 หลา ส่งบอลพุ่งเลียดกระดอนพื้นไปแฉลบบล็อกของแนวรับเจ้าถิ่นเต็ม ๆ สุดท้ายหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 42
ช็อตต่อเนื่อง ทีมเยือน ออสเตรีย ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วโดนสกัดออกมา จังหวะนี้ คอนราด ไลเมอร์ บรรจงเปิดโด่งกลับเข้าไปลุ้นให้ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ โดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลพุ่งเบาเดินทางช้าแถมทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารเจ้าถิ่น ขยับมารับเอาไว้ได้สบาย
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน ทัพจิงโจ้ ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าพอสมควรแต่ดันมาโดนทีเด็ดจากลูกฟรีคิกของ แกเร็ธ เบล เข้าไปอย่างจัง ส่งให้เจ้าถิ่น ทัพมังกรแดง ชิงออกนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ เวลส์ 1 ออสเตรีย 0 !!!
นาที 48
เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน ออสเตรีย เดินเครื่องบุกใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ คอนราด ไลเมอร์ แย่งบอลได้ทางกราบขวา ก่อนจะรีบหยอดบอลโด่งลึกไปที่หน้าเสาไกล แล้วเป็น มาร์โก อาร์เนาโตวิช สบโอกาสได้ตั้งป้อมโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลกระเด้งพื้นหลุดเสาไกล กระดอนออกหลังไป ยังไม่ได้ลุ้นเหมือนเดิม
นาที 49
ทีมเยือน ออสเตรีย ได้บุกต่อเนื่องติด ๆ กัน จังหวะนี้ คอนราด ไลเมอร์ เจ้าเก่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ได้ง้างคอโหม่งกดลงพื้นเน้น ๆ เต็มกบาล ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย
นาที 51 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เวลส์ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วกดสูตรจ่ายสั้นมาให้กับ แดเนี่ยล เจมส์ ได้บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่บริเวณจุดโทษให้ เบน เดวิส แปะสั้น ๆ จังหวะเดียวตั้งให้ แกเร็ธ เบล โฉบมาแต่งบอลเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะสบโอกาสก้มหน้าซัดหักข้อเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดย้อนศรหนีมือของ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน ไปเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 55
เจ้าถิ่น เวลส์ หวิดได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ แดเนี่ยล เจมส์ หลุดเดี่ยวตั้งแต่กลางสนาม ได้อาศัยความเร็ว กระชากทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะวางเท้าซัดมุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทีมเยือน ออสเตรีย ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 20 หลา บริเวณหัวกระโหลกตรงกลางพอดี แล้วเป็น ดาวิด อลาบา รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดกำแพงเต็ม ๆ สุดท้ายกระเด้งออกมา ยังไม่ได้ลุ้นอะไรเหมือนเดิม
นาที 63
เจ้าถิ่น เวลส์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะนี้ แกเร็ธ เบล เก็บบอลได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวอาศัยความเร็ว ติดเครื่องกระชากพาบอลหนีแนวรับขึ้นมาเอง ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน ผิดเหลี่ยมลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 64 GOAL!!!
ทีมเยือน ออสเตรีย มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ที่เหมือนจะไม่มีอะไร สเตฟาน ไลเนอร์ เก็บบอลทางฝั่งขวา เจ้าตัวไหลฝากเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้ขอลองวางเท้าซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อกของ เบน เดวิส สุดท้ายเปลี่ยนทาง ลอยเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย แบบมีโชคช่วยเล็ก ๆ หมดสิทธิ์สำหรับ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารเจ้าถิ่น ถลำไปอีกทาง
นาที 67
เจ้าถิ่น เวลส์ น่าจะได้ประตูหนีห่างอีกครั้งแบบสุด ๆ จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว แอรอน แรมซี่ย์ บรรจงกระดกบอลอย่างสวยให้กับ แดเนี่ยล เจมส์ ได้วิ่งสอดมาแตะบอล ทะลุเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะก้มหน้าซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ แล้วก็เป็น ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ นายทวารทีมเยือน พุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน พลาดโอกาสทองไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 74
เจ้าถิ่น เวลส์ มาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ใกล้เคียงกับจุดที่ได้ประตูขึ้นนำ จังหวะนี้ แกเร็ธ เบล เจ้าเก่า รับหน้าที่สังหาร วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดกำแพงเต็ม ๆ กระเด้งออกมา ช็อตนี้เหมือนจะมีการแฮนด์บอล สุดท้ายเช็ค VAR แล้วไม่ได้อะไร
นาที 82
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน ออสเตรีย พยายามบุกทวงประตูตีเสมอให้ได้ จังหวะนี้ บอลวางยาวให้กับ สเตฟาน ไลเนอร์ โขกตั้งเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาต่อให้ อันเดรียส ไวมันน์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา สบโอกาสได้หลุดไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกลอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น เวลส์ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน ออสเตรีย ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1!!! ผ่านเข้าไปรอชิงตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ กับผู้ชนะระหว่าง สกอตแลนด์ และ ยูเครน ที่เลื่อนไปแข่งกันในเดือนมิถุนายนนู่นเลย