‘โมชิรี’ ขอโทษแฟนเอฟฯ ยอมรับ ‘ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ’

ฟาร์ฮัด โมชิรี ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน ออกมาขอโทษแฟนบอลที่ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวและหงุดหงิดจากฤดูกาลที่แสนยากลำบากทีมเกือบตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก และยอมรับว่า ทีมต้องสูญเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์จำนวนมากกับเสริมทัพ

แม้เอฟเวอร์ตัน จะได้พบกับวันที่สุดแสนยอดเยี่ยม ทีมการันตีรอดจากการถูกลดชั้นหลังทีมพลิกนรกแซงกับมาชนะคริสตัล พาเลซ ได้อย่างเหลือเชื่อ 3-2 แต่ภาพรวมถือเป็นซีซั่นที่ตกต่ำอย่างมาก

โมชิรี ยอมรับทำผิดพลาดที่พยามามผลักดันให้สโมสรแต่งตั้ง ราฟา เบนิเตซ เข้ามาทำทีม ทั้งที่มีเสียงคัดค้าน รวมไปถึงการใช้เงินเสริมทัพกว่าครึ่งพันล้านปอนด์ไปอย่างเปล่าประโยชน์นับตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารสโมสรเมื่อปี 2016

“กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมต้องขอโทษพวกคุณทุกคนด้วย” โมชิรี ออกจดหมายเปิดผนึกถึงแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน

“มันยังดีไม่พอและเราจำเป็นต้องทำให้ดีกว่านี้ คุณได้รับการสนับสนุนอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งช่วยเราไว้ในยามที่ต้องการมันมากที่สุด เราจะต้องรอบแทนการสนับสนุนนั้นและแสดงให้เห็นว่าได้รับบทเรียนนั้นแล้ว”

เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นสโมสรที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการเสริมทัพ เมื่อนักเตะหลายต่อหลายรายที่ดึงเข้ามาผลงานล้มเหลวไม่เป็นท่า อาทิ ยานนิค โบลาซี่ (26 ล้านปอนด์), ดาวี่ คลาเซ่น (24 ล้านปอนด์), เซงค์ โตซุน (20 ล้านปอนด์), มอยเซ่ คีน (24 ล้านปอนด์) และค่าเหนื่อยมหาศาลที่มอบให้กับ ฮาเมส โรดริเกซ

ความผิดพลาดดังกล่าว โมชิรี ยอมรับว่า จะต้องไปใส่ใจในเรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้เล่นใหม่ให้มากกว่านี้

“เราจะมุ่งมั่นไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบเดิมอีก รวมถึงวิธีการที่เราจะต้องใช้เงินจำนวนมากอย่างชาญ”

“ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันเป็นค่ำคืนที่วิเศษมากที่ทีมพลิกเอาชนะพาเลซได้ 3-2 หลังจากเป็นฝ่ายตามหลัง 2-0 ในครึ่งแรก มันคือชัยชนะที่น่าตื่นเต้น และรับประกันว่าเราจะได้เล่นบนลีกสูงสุดเป็นปีที่ 69 ติดต่อกัน”

“แต่มันไม่ควรให้เรื่องนั้นมาปิดบังความจริงที่ว่า ประสิทธิภาพของทีมเราต่ำเกินกว่าจะพิสูจน์ตัวในลีกที่เต็มไปด้วยท้าทายแบบนี้”

“พวกคุณไม่ควรรู้สึกหงุดหงิดและหวาดกลัวกับฤดูกาลที่เกิดขึ้น”

“ผมมุ่งมั่นที่จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จในอนาคตด้วยการจัดหาสนามแห่งใหม่ ที่จะช่วยส่งเสริมให้เราอยู่ในฐานะของสโมรชั้นนำ”

“แน่นอนว่าสนามอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้เราบรรลุตามเป้าหมาย เราจะมุ่งมั่นไม่ให้ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก รวมถึงวิธีการที่เราจะต้องใช้เงินจำนวนมากอย่างชาญฉลาด”