เกมการแข่งขันระหว่าง ทีมเจ้าภาพร่วม ทีมชาติ ฮังการี เปิดสนาม ปุสกัส อารีน่า, บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี พร้อมแฟนบอลกว่า 60,000 คน ต้อนรับการมาเยือนของทีมฝอยทอง ทีมชาติ โปรตุเกส แชมป์เก่า ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกของกลุ่ม เอฟ ในคืนวันอังคารที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ ฮังการี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์โก้ รอสซี่ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูจอมหนึบจากแอร์เบ ไลป์ซิก อดัม นาจี้ กองกลางห้องเครื่องจากบริสตอล ซิตี้ และ อดัม ซาไล กองหน้าร่างโย่งจากไมนซ์
ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ โปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของ แฟร์นานโด้ ซานโตส มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวเก่งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรูโน่ แฟร์นานเดส เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกมจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าเทพประทานจากยูเวนตุส
นาที 5
เปิดเกมมาได้แปปเดียว เป็นทีมฝอยทอง ทีมชาติ โปรตุเกส ที่ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะ แบร์นาร์โด้ ซิลวา แทงฝากขึ้นมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ ดีโอโก้ โชต้า จับบอลหลุดเท้าไปกระเด้งขาแนวรับฮังการี กลับมาเข้าทางเจ้าตัว ได้กดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปติดเซฟของ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี ทุบทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 8
โปรตุเกส ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา บรูโน่ แฟร์นานเดส บรรจงเปิดบอลโด่งมาที่เสาแรกให้ ดีโอโก้ โชต้า วิ่งสอดทะลุกับดักล้ำหน้า หลุดมาชาร์จเร็วเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่บอลโดนไม่ดี เหินข้ามคานหลุดกรอบออกไปไกล อย่างน่าเสียดาย
นาที 15
ช่วงต้นเกม โปรตุเกส ที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า เริ่มต้นได้คึกคัก ขึงเกมรุกบุกใส่ฮังการี อยู่ฝั่งเดียวตามคาด ส่วนทาง ฮังการี เองก็เตรียมตัวมาดี วิ่งไล่บอล ตั้งโซนตั้งรับกันได้อย่างเหนียวแน่น ยังไม่มีจังหวะพลาดให้เห็น
นาที 19
โปรตุเกส บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เปเป้ ดันสูงขึ้นมา วางบอลยาวจากกลางสนาม ทิ้งขึ้นหน้าไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้สปีดหนีตัวประกบ สอดทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะได้ซัดตามน้ำด้วยขวา ไปติดเซฟของ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี แต่สุดท้ายก็มีธงล้ำหน้า ยกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 27
โปรตุเกส เกือบได้ลูกจุดโทษ เป็นจังหวะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ความขยัน ตามไปฉกบอลคืนมาได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้สอดหลุดขึ้นไปเกือบได้ซัด แต่ต้องชม วิลลี่ ออร์บาน ที่ชิงเหลี่ยมทิ้งตัวสกัดจังหวะ 50-50 ช่วยเอาไว้ได้ทัน ผู้เล่นโปรตุเกส มองว่าเป็นลูกฟาล์ว โวยวายกันใหญ่ แต่ คูเนย์ต ชาคีร์ ผู้ตัดสินชาวตุรกี ก็ยังใจแข็ง ให้เล่นต่อไป
นาที 30
เกมผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง โปรตุเกส ยังคงขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของฮังการี จังหวะนี้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วตักเข้าไปในเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้โฉบขึ้นไปโหม่ง แต่โดนบอลไม่ดี บอลพุ่งผ่านหน้าประตู หลุดกรอบเสาไกลซ้ายมือ ออกหลังไปอีกครั้งนึง
นาที 36
ฮังการี ได้โอกาสส่องครั้งแรกของเกม เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย โรแลนด์ ซัลไล บรรจงเปิดบอลโค้งมาที่เสาแรกให้ อดัม ซาไล ได้โฉบมาโหม่งสะบัดเปลี่ยนทางไปที่เสาไกลขวามือ แต่บอลถูก รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูโปรตุเกส ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบมาตัดบอล รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 40
ช่วงท้ายครึ่งแรก โปรตุเกส น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เนลซอน เซเมโด้ เติมเกมรุกดันสูง สอดขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลังในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดบอลหักข้อเข้าในมาให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้จับด้วยขวา แล้วหมุนตัวพลิกบอลมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ลอดหว่างขา วิลลี่ ออร์บาน ไปที่ประตู แต่ทว่า ก็ยังไม่ผ่านเซฟของ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี ที่ทิ้งตัวใช้ขาขวางบอล ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 43
โปรตุเกส พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ ขยันไล่บอลเอาคืนมาได้ทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะไหลย้อนหลังคืนมาให้ บรูโน่ แฟร์นนานเดส มีเวลาได้ตั้งป้อม บรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้โฉบมาเข้าฮอส ชาร์จจ่อ ๆ ระยะ 6 หลา เหินข้ามคานออกไป แบบน่าเหลือเชื่อ
หมดครึ่งเวลาแรก เป็นทางฝั่งทีมชาติ โปรตุเกส ที่ ครองบอลบุกใส่ทีมชาติ ฮังการี อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่จังหวะจบในพื้นที่สุดท้าย ยังทำได้ไม่ดีกันเอง สกอร์ตอนนี้ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 47
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมชาติ โปรตุเกส เกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา บรูโน่ แฟร์นานเดส เปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ เปเป้ เบียดเอาชนะ วิลลี่ ออร์บาน ได้ขึ้นโขกเต็ม ๆ บอลกำลังจะเบียดโคนเสาใกล้เข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดปลายมือ ออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาที 50
ฮังการี พยายามจะสวนกลับขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร จังหวะนี้ อดัม ซาไล ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงซัดด้วยขวาเต็มข้อ ระยะร่วม 30 หลา บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น แต่ก็ยังไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูโปรตุเกส รับเข้าซองเอาไว้ได้ ไม่พลาด
นาที 56
ฮังการี สวนขึ้นมาได้จบมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ โรแลนด์ ซัลไล พาบอลแหวกขึ้นมาเอง ก่อนจะถ่ายบอลฝากไปให้กับ ออนดราช ชาเฟอร์ แต่เจ้าตัวจับบอลไม่ดี ไหลมาบริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้าทาง อดัม ซัลไล วิ่งตามขึ้นมาได้อัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูโปรตุเกส รับไว้ได้สบาย
นาที 68
ฝอยทอง โปรตุเกส ขึงเกมรุกบุกได้มากกว่าอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาในเรื่องการจบสกอร์ จังหวะนี้ บรูโน่ แฟร์นานเดส ของลองตะบันด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงและติดไซค์ก้อย ไปยังโคนเสาแรกขวามือ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี ที่ยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบมาเซฟไว้ได้เหมือนเดิม
นาที 77
ฮังการี เกือบได้ประตูขึ้นนำแบบพลิกล็อก เป็นจังหวะ ซาบอลคส์ ชอน ตัวสำรอง ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะกระชากตัดเข้าใน มาถึงหน้าเขตโทษด้านขวา แล้วซัดด้วยซ้ายหักข้อ ยัดไปเสาแรกผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูโปรตุเกส เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม แต่ ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า คูเนย์ต ชาคีร์ ผู้ตัดสินหลัก จึงขอเช็ค VAR สักครู่ ก่อนจะลงมายืนยันว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของฮังการี
นาที 84 GOAL!!!
โปรตุเกส มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกแล้วเล่นเร็ว ราฟา ซิลวา สอดขึ้นไปเอาบอลในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางให้ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ ได้วิ่งสอดมาดีดไซค์ก้อยไปแฉลบเท้า วิลลี่ ออร์บาน เปลี่ยนทาง เสียบโคนเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 86 GOAL!!!
ฝอยทอง โปรตุเกส มาได้ประตูหนีห่างออกไปอย่างรวดเร็ว 2-0 !!! เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ วิลลี่ ออร์บาน เสียเหลี่ยมไปดึงทำฟาล์ว ราฟา ซิลวา ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นจุดโทษของโปรตุเกสทันที แล้วเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขาประจำ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าไป ไม่พลาด
นาที 90+3 GOAL!!!
โปรตุเกส มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำชิ่ง 1-2 กับ ราฟา ซิลวา ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบ 6 หลา ก่อนจะแตะบอลหนี ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผู้รักษาประตูฮังการี แล้วซัดด้วยซ้ายจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่ายอย่างสวยงาม โดยเป็นประตูที่ 106 ของเจ้าตัวในการรับใช้ทีมชาติ พร้อมทำสถิติยิงมากที่สุดในรายการนี้อีกด้วย
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมชาติ โปรตุเกส ฮึดท้ายเกม ถล่มเอาชนะทีมชาติ ฮังการี ไปได้แบบหืดจับ 3-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 1 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะพบกับทีมชาติ เยอรมัน ในวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน ส่วนทางด้าน ฮังการี อยู่อันดับสุดท้ายของตารางคะแนน โดยจะพบกับฝรั่งเศส ในคืนวันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน นี้เช่นกัน