ได้ซัดแค่สองครั้ง!! “เรอัล มาดริด” ฟอร์มสุดบู่ บุกมาโดน “บิลเบา” เปิดบ้านพ่ายนาทีสุดท้าย 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา, เปิดสนาม ซาน มาเมส เมืองบิลเบา แคว้นบาสก์ ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในศึกฟุตบอล โกปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซลิโน การ์เซีย โตรัล มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย อีเกร์ มูเนียอิน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม ดานี่ การ์เซีย กองกลางห้องเครื่อง และ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โทนี่ โครส กองกลางตัวคุมจังหวะเกม ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวเก๋า และ วินิซิอุส จูเนียร์ ศูนย์หน้าจรวดทางเรียบ

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งรองแชมป์เก่ารายการนี้อย่าง เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ดานี่ การ์เซีย วางบอลยาวข้ามแนวรับไปที่หน้ากรอบเขตโทษให้ อิญากี้ วิลเลี่ยมส์ ทำลายกับดักล้ำหน้า สปีดฉีกสองกองหลังทีมเยือน เกือบได้หลุดเดี่ยวอยู่แล้ว ทว่าเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน อ่านเกมขาด วิ่งออกมาตัดบอล หวดเคลียร์ทิ้งเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 9

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา บุกขึ้นมาได้ลุ้นต่อเนื่อง จังหวะนี้ บอลชุลมุนขลุกขลิก โดนแนวรับราชันชุดขาวสกัดกระดอนออกมาหน้าหัวกระโหลกเข้าทางปืนของ ดานี่ การ์เซีย วิ่งมาวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปทางเสาซ้ายมือ เดือดร้อนถึง ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ต้องออกแรงเซฟ ผวาพุ่งไปปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 13

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นให้ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ เลี้ยงเลาะเส้นหลังแล้วจ่ายหักเข้ากลาง ก่อนจะโดนสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง ดานี่ การ์เซีย เจ้าเก่า วิ่งมากดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปที่หน้าประตู แล้วเป็น เอแดร์ มิลิเตา ที่ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้นพอดี หวดสกัดเคลียร์ทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาที 22

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา เกือบได้ประตูออกนำ เป็นจังหวะที่ อีเคร์ มูเนียอิน ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย เจ้าตัวโชว์ความพลิ้ว เลี้ยงแหวกกลางผู้เล่นมาดริดสองคน หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจซัดด้วยขวามุมแคบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเสียบหน้าต่างข้างตาข่ายเสาแรก หลุดออกหลังไปแบบได้เสียว

นาที 27

ทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ลูกัส บาซเกซ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โรดรีโก้ ได้แต่งหาช่องเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะขอลองส่องไกลนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงมีน้ำหนัก แต่ทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ จูเลน อากีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 36

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ อิญากี้ วิลเลี่ยมส์ กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบ เจ้าตัวไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อีเคร์ มูเนียอิน จับหนึ่งทีแล้วล็อคหนีตัวประกบเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะบรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว ที่ครองบอลได้มากกว่าพอสมควร ทว่าเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ที่บุกขึ้นมาได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีเอง สกอร์ตอนนี้ยังคงเสมอกันอยู่ที่ แอธเลติก บิลเบา 0 เรอัล มาดริด 0 !!!

นาที 47

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วเป็น อีเคร์ มูเนียอิน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตูให้ อินญิโก้ มาร์ติเนซ โฉบมาโขกเหน่ง ๆ พร้อมกับจังหวะที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งออกมาปัดบอลพอดี ทำให้สุดท้ายบอลแฉลบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ได้เป็นเตะมุม

นาที 50

เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา โหมบุกอย่างหนัก จวนเจียนจะได้ประตูขึ้นนำอีกแล้ว จังหวะนี้ อีเคร์ มูเนียอิน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น ราอูล การ์เซีย สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ส่งบอลแฉลบเฉียดเสาสอง หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้นอย่างน่าเสียดาย

นาที 75

เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น รูปเกมชวนน่าอึดอัดด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองฝั่งดูตื้อ ๆ ช็อตไปดื้อ ๆ อย่างเห็นได้ชัด จังหวะส่วนใหญ่จะชิงเหลี่ยมกันอยู่ที่บริเวณกลางสนาม โอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้งเหน่ง ๆ แทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 81

ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ มาร์โก อเซนซิโอ้ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ คาเซมิโร่ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปถึงบอล ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ จูเลน อากีร์เรซาบาล่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่พุ่งออกมาปิดมุมคุมเสาได้ไว ทิ้งตัวป้องกัน ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 89 GOAL!!!

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา มาได้ประตูชัยเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ มิเกล เบสก้า ดักบอลแถวสองได้ที่กึ่งกลางสนาม เจ้าตัวแทงทะลุช่องยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ อเล็กซ์ เบร์เรเกร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ล็อคหลบ นาโช่ แฟร์นันเดซ มาเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะก้มหน้าบรรจงปั่นไซด์เล่นทางเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 90+4

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว พยายามเร่งเครื่องเพื่อทวงประตูคืนอย่างหนัก จังหวะนี้ เอดูอาร์โด้ กามาแว็งก้า เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ อิสโก้ วิ่งสอดหลุดไปวางเท้าเอี้ยวตัววอลเลย์เน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งถากเสาไกล หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทว่ามีธงล้ำหน้าจากไลน์แมนยกขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้อยู่ดี

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านพลิกล็อค เฉือนเอาชนะทีมเยือน เรอัล มาดริด ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอล โกปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับบาเลนเซีย ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้