“ไบรท์ตัน” เปิดบ้านเอาชนะทัพผึ้งน้อย “เบรนท์ฟอร์ด” ไปได้เบาะ ๆ 2-0 !!! คว้าชัยในรอบ 12 นัด

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพนกนางนวล ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เปิดสนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม, ไบรตัน อีสต์ซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 17 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา 

เกมนี้ เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกรม พอตเตอร์ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ตัวทำเกมริมเส้น และ นีล โมเปย์  ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย คริสเตียน นอร์การ์ด กองกลางห้องเครื่อง เซร์จี้ กานอส ปีกตัวจี๊ด และ อีวาน โทนี่ย์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 4

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ด ที่ได้ลุ้นทักทายก่อน จากจังหวะที่ ปอนตุส แยนส์สัน วางบอลโด่งขึ้นหน้าทิ้งไปให้กับ บริย็อง เอ็มเบวโม่ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวไปกระดกบอลข้ามหัว โรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารเจ้าถิ่น กำลังจะข้ามเส้นเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่ามี แดน เบิร์น ตามมาเคลียร์เอาไว้ได้ทันหวุดหวิด แต่สุดท้ายผู้ตัดสินจับล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 8

ช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่งทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด บุกขึ้นมากดดันได้ดี ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะ อีวาน โทนี่ย์ มีโอกาสได้ซัดแต่โดนไม่ดี บอลชุลมุนขลุกขลิกในกรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนจะมาเข้าทางปืนของ แชนด้อน บาปติสเต้ ได้ซัดเร็วด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลไปแฉลบ อดัม เว็บส์เตอร์ หลุดกรอบเหินข้ามคานออกไป

นาที 17

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ แดน เบิร์น สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ส่งบอลลอยย้อยไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย ทว่าผู้ตัดสินเป่าฟาล์วตามหลังขึ้นมา เนื่องจาก นีล โมเปย์ ไปกระแทกใส่ อัลบาโร่ เฟร์นานเดซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ซะก่อน ถ้าเข้าก็ไม่ได้อยู่ดี

นาที 27

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ นีล โมเปย์ ถ่างออกมารับบอลทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ อีน็อค เอ็มเวปู สอดมาจับแล้วกดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเฉียดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 34 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร อีน็อค เอ็มเวปู วางบอลยาวจากกลางสนามขึ้นมาที่หน้าเขตโทษให้กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ได้วิ่งสอดสปีดแซงกองหลังมากระดกบอลจังหวะเดียวข้ามหัว อัลบาโร่ เฟร์นานเดซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาอย่างไกล กระเด้งเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 39

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง สุดท้ายยังไม่เข้าเป้า บอลพุ่งแรง เหินข้ามคานออกไปไกล ชนิดไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 40

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน ขึงเกมรุกประเคนลูกโด่งเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ แนวรับเบรนท์ฟอร์ดเคลียร์บอลกันไม่ขาด แล้วเป็น อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ได้วางเท้าวอลเลย์แถวสองด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าก็ยังไม่เข้าเป้า สุดท้ายเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปอีกหน

นาที 41

ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ บริย็อง เอ็มเบวโม่ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โธมัส แฟร้งค์ กุนซือผึ้งน้อย จัดการส่งเอา โยอัน วิสซ่า ลงสนามมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 42 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ยาคุบ โมลเดอร์ ได้บอลทางริมสนามฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากจี้มาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะดีดต่อเข้ากลางมาให้กับ นีล โมเปย์ ได้แต่งบอลเข้าไปที่หัวกระโหลก ตามมาด้วยบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นเส้นตรง เสียบสสามเหลี่ยมขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ชนิดที่ อัลบาโร่ เฟร์นานเดซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่หันมอง

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน ได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 22 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไปตรงตัวของ อัลบาโร่ เฟร์นานเดซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ทัพนกนางนวลเป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่ทัพผึ้งน้อย อยู่แทบจะฝั่งเดียว ได้ประตูออกนำไปก่อนแล้วสองลูก สกอร์ตอนนี้ ไบรท์ตัน 2 เบรนท์ฟอร์ด 0 !!! 

นาที 46

เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ปรับแผนด้วยการเปลี่ยนตัวคนแรกทันที แกรม พอตเตอร์ กุนซือนกนางนวล ถอดคนทำประตูให้ทีมขึ้นนำอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าที่เพิ่งหายเจ็บ ลงสนามมาเล่นศูนย์หน้าตัวเป้าแทน

นาที 54

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน บุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ มาร์ก คูคูเรลล่า เติมสูงขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลัง เจ้าตัวครอสเลียดเข้าไปที่เสาแรกให้ นีล โมเปย์ ได้สอดมาแต่งเข้าเหลี่ยม ก่อนจะก้มหน้าซัดด้วยซ้ายเน้น  ๆ ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 58

ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ คริสเตียน นอร์การ์ด จ่ายบอลให้กับ เซร์จี้ กานอส กระชากทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหาช่อง ก่อนจะสบโอกาสซัดเร็วเน้น ๆ ทว่ายังไม่เข้าเป้า บอลพุ่งแรงหลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไร

นาที 60

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะ ทำเร็วขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษของคู่แข่ง แล้วเป็น โยอัน วิสซ่า ปาดนิ่ม ๆ ต่อให้ แชนด้อน บาปติสเต้ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบ แดน เบิร์น เปลี่ยนทางไปติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ปฏิกิริยายังไง ทิ้งตัวใช้ขาป้องกันเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 61

ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด มีโอกาสเกือบยิงลูกตีตื้นได้อีกครั้งติด ๆ กัน จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เซร์จี้ กานอส เก็บได้ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกลให้ เอธาน พินน็อค เทคตัวเบียดเอาชนะแนวรับคู่แข่ง ได้โขกบอลกดลงพื้นเหน่ง ๆ ทำท่ากำลังจะมุดเสียบเสาซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น โรเบิร์ต ซานเชซ มือกาวเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันแบบสุดยอด

นาที 66

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน เกือบได้ประตูเพิ่มเหมือนกัน จากจังหวะ อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ลากตัดจากซ้ายเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ระยะประมาณ 22 หลา ส่งบอลพุ่งแรงไปเฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 68

ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด น่าได้ประตูตีไข่แตกแบบสุด ๆ จากจังหวะที่ บอมบ์โด่งเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น โรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารเจ้าถิ่น ทำพลาดออกมาชกบอลไม่ขาด กลายเป็นตั้งให้กับ ซามาน ก๊อดดอส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้โหม่งสวนเร็วเน้น ๆ ส่งบอลลอยย้อยทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น มาร์ก คูคูเรลล่า ถอยมาคุมเส้น โขกเคลียร์ทิ้งออกมาได้ทันหวิดหวุด

นาที 81

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด พยายามบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืน จังหวะนี้ แฟรงค์ ออนเยก้า โหม่งชงต่อมาที่หน้าเขตโทษให้ แชนด้อน บาปติสเต้ จับบอลแล้วแต่งหาเหลี่ยม ก่อนจะเห็นช่องได้ซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไปตรงตัวของ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 88

เจ้าถิ่น ไบรท์ตัน เกือบได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะ แดนนี่ เวลเบ็ค พาบอลพลิ้วเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวจิ้มสั้นฝากต่อมาให้กับ นีล โมเปย์ เบิ้ลจังหวะเดียวไหลตั้งไปให้ สตีเว่น อัลซาเต้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้วิ่งสอดมาวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น อัลบาโร่ เฟร์นานเดซ นายทวารทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาเซฟช่วยทีทเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 89

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ โยอัน วิสซ่า รับบอลมาแล้วแต่งหาเหลี่ยม ก่อนจะได้ช่องขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ระยะกว่า 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ก็ยังไม่เข้าเป้า สุดท้ายหลุดกรอบออกหลังไปไกลอยู่ดี

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! หยุดสถิติไร้ชัย 11 นัดติดได้สำเร็จ พร้อมกับขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 9 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปต้องออกไปเยือนเชลซี ในคืนวันพุธที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเบรนท์ฟอร์ด รั้งอันดับที่ 13 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา