เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพมักกะโรนี ทีมชาติอิตาลี เปิดสนาม สตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่, เมืองฟิเรนเซ่ ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพโยเกิร์ต ทีมชาติบัลแกเรีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ซี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยนยน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น อิตาลี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย นิโคโล่ บาเรลล่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกจอมลากเลื้อย และ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าตัวปิดบัญชีของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บัลแกเรีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ยาเซน เปตรอฟ มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย จอร์จี้ คอสตาดินอฟ กองกลางห้องเครื่อง คิริล เดสโปดอฟ ปีกตัวจี๊ด และ อตานาส อลิเยฟ กองหน้าตัวความหวังของทีม
นาที 10
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อิตาลี ที่ได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ได้บอลลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะพยายามทำชิ่งกับเพื่อน แต่ติดบล็อกกลายเป็นดี กระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัว ได้หลุดไปที่หน้าเสาแรกซ้ายมือ ทว่าจังหวะยิง ดันจิ้มเร็วด้วยขวา ทำบอลหลุดกรอบ กลิ้งออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 13
ทีมเยือน บัลแกเรีย ได้ทักทายบ้าง จังหวะนี้สวนกลับเร็วขึ้นมาทางซ้าย แล้วเป็น คิริล เดสโปดอฟ ติดเครื่องลากจี้เข้าหากองหลัง ก่อนจะโยกตัดเข้าในแล้วซัดเร็วด้วยขวาเน้น ๆ หักข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ถากเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว
นาที 14
ทีมเยือน บัลแกเรีย ได้ฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนามเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น คิริล เดสโปดอฟ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ วาเลนติน อันตอฟ ได้โฉบไปเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่บอลเบาลอยโด่งแถมตรงตัวของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 15 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อิตาลี มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะความยอดเยี่ยมของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่โชว์ความพลิ้ว ลากหลบผู้เล่นทีมเยือนสองคน หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวกระชากตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ แล้วซัดเลียดด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ บริเวณหัวกระโหลก พุ่งแรงกระดอนพื้นย้อนศรหนีมือ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 26
เจ้าถิ่น อิตาลี จ่ายบอลกันไปมาขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ มาร์โก แวร์รัตติ ไหลบอลจากขวามาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะหวดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ทว่าบอลพุ่งเบาแถมตรงตัวของ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 35
เจ้าถิ่น อิตาลี มีโอกาสได้ลุ้นประตูหนีห่าง เป็นจังหวะเริ่มที่ นิโคโล่ บาเรลล่า โหม่งหนุนขึ้นมาที่หน้าเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น วาเลนติน อันตอฟ เซ็นเตอร์แบ็คทีมเยือน ที่โหม่งบอลพลาด ปล่อยหลุดไปเข้าทาง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้ลากพาบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าซัดบอลเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ไปโดน จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาล้มตัวปัดออกมา บอลขลุกขลิกอยู่ซักพัก สุดท้ายเป็น ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ เก็บตกแถวสอง ได้ซัดด้วยขวาอีกทีบริเวณหัวกระโหลก ทว่า บอลปลิ้นกลิ้งหลุดกรอบซ้ายมือออกหลังไปอยู่ดี
นาที 39 GOAL!!
ทีมเยือน บัลแกเรีย ทำช็อคแฟนบอลเจ้าถิ่น เมื่อมาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะความยอดเยี่ยมของ คิริล เดสโปดอฟ ที่ตัดบอลได้ในแดนตัวเอง เจ้าตัวทำชิ่ง 1-2 กับเพื่อน ลากบอลเบียดเอาชนะกองหลัง กระชากหลุดเดี่ยวขึ้นมาเองถึงกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะดีดด้วยขวาไซด์ก้อย ครอสเลียดไปที่หน้าปากประตูถวายพานให้ อตานาส อลิเยฟ ได้วิ่งสอดมาแปด้วยซ้ายโล่ง ๆ สวนตัวของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 44
เจ้าถิ่น อิตาลี น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กองหลังกัปตันทีม ดันสูงขึ้นมาเกือบกลางสนาม เงยหน้ามองแล้วบรรจงเปิดบอลยาวไปที่บริเวณหัวกระโหลกให้ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ได้วิ่งสอดไปเกี่ยวบอลลงอย่างสวย เจ้าตัวล็อคหนี วาเลนติน อันตอฟ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะกดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปติดเซฟของ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวแหย่ขาขวางบอลเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น อิตาลี ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ยังเป็นฝั่งครองบอล ขึงเกมเอาไว้ได้เกือบหมดทั้งหมด ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ดจากลูกสวนกลับของทีมเยือน บัลแกเรีย ตามตีเสมอได้แบบสุดช็อค สกอร์ตอนนี้ เจ๊ากันที่ 1-1 !!!
นาที 48
เปิดฉากครึ่งหลังมาปุ๊ป เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อิตาลี ที่โหมบุกใส่แล้วได้ลุ้นทันที เป็นจังหวะ จอร์จินโญ่ วางบอลยาวจากแดนหลังเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้สปีดไปถึงบอลได้ก่อนใคร โหม่งสั้น ๆ ไปข้างหน้าหนี จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่พยายามจะออกมาตัดบอลอย่างไกลจากหน้าประตู หลุดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะยิงมุมแคบด้วยขวา กลิ้งผ่านหน้าปากประตู ทว่ากองหลังตามมาเคลียร์ทิ้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 58
เจ้าถิ่น อิตาลี โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ บอมบ์โด่งไปที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน แล้วเป็น ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ที่เก็บได้แล้วไหลออกขวาให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้เบิ้ลบอลจังหวะเดียวทะลุช่องให้ นิโคโล่ บาเรลล่า วิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตะบันด้วยขวาเต็มข้อ พุ่งแรงเป็นจรวด เข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 61
เจ้าถิ่น อิตาลี เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ มาร์โก แวร์รัตติ ปั๊มบอลได้ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน บอลกระฉอกมาเข้าทาง จอร์จินโญ่ จ่ายยัดดื้อ ๆ มาที่หัวกระโหลกให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า ได้พลิกบอลหลบกองหลังอย่างสวย หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเร็วด้วยขวาโล่ง ๆ ที่บริเวณจุดโทษ ทว่าเป็น จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวกางแขนกางขา บล็อกบอลออกหลัง ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว ได้เป็นเตะมุม
นาที 62
จังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น อิตาลี ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่บอลยังไปตรงตัวของ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้สบาย
นาที 66
เจ้าถิ่น อิตาลี พยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า จังหวะนี้ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ขอลองเล่นลูกถนัด ลากตัดจากซ้ายมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 69
เจ้าถิ่น อิตาลี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ จอร์จินโญ่ ได้บอลทางขวา ก่อนจะตักบอลข้ามแนวรับให้ ไบรอัน คริสตันเต้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าหวดด้วยขวาเต็มข้อ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปอีก
นาที 73
เจ้าถิ่น อิตาลี ขึงเกมรุกบุกใส่อย่างหนัก จังหวะนี้ มาร์โก แวร์รัตติ แทงบอลทะลุช่องให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้หลุดเข้าไปซัดเน้น ๆ ในเขตโทษอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ จอร์จี้ จอร์กีเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังเหนียวต่อเนื่อง เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 84
เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ แบ็คซ้ายจอมบุก ลากบอลจี้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเรียกฟาวล์ให้ทีมได้ แล้วเป็น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ วิ่งขึ้นมารับอาสา ปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น อิตาลี เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน บัลแกเรีย ไปได้ด้วยสกอร์ 1-1 !!! ยังรั้งจ่าฝูงอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะออกไปเยือนสวิสเซอร์แลนด์ ในวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านบัลแกเรีย อยู่อันดับที่ 4 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลิทัวเนีย ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน ก่อนหน้าหนึ่งวัน